[บทความนี้เป็น Advertorial]
เข้าสู่เดือนพฤศจิกายน คำถามที่มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่คิดไม่ตกคงหนีไม่พ้นการเลือกซื้อกองทุน LTF หรือ RMF เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีและเก็บเป็นเงินออม ทั้งในจำนวนนี้ก็คงจะมีไม่น้อยที่หาข้อมูลด้วยตัวเองก็แล้ว ปรึกษาเพื่อนฝูงก็แล้ว แต่ก็ยังคาใจอยู่ดีว่า
“กองทุนไหนที่เหมาะกับเรา”
“จะไปต่อที่กองทุนเก่าดี หรือจะหันไปซื้อกองทุนใหม่ไปเลยดีกว่ากัน”
แม้จะเป็นคำตอบที่ไม่ถูกใจคนถาม แต่ก็เป็นความจริงที่จะบอกว่าคำถามนี้ ไม่มีคำตอบที่ถูกเพียงข้อเดียว เพราะการลงทุนแต่ละคน ในแต่ละช่วงเวลานั้นไม่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น หากคุณมีเป้าหมายว่าเงินลงทุนของคุณจะได้รับผลตอบแทนเมื่อครบกำหนดที่ราวๆ 7% แต่ถ้านโยบายการลงทุนของกองทุนนั้นเน้นความแน่นอน และมีผลตอบแทนแค่ราวๆ 3-4% ก็ถือว่ายังไม่บรรลุเป้าหมาย
หรือถ้าคุณมองว่าปีนี้จะเน้นเฉลี่ยลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ แต่กองทุนที่ถืออยู่เน้นลงทุนเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งมักมีอัตราการเติบโตแบบค่อนข้างคงที่แบบนั้นก็ถือว่าไม่ตรงกับความตรงการ
ถึงเช่นนั้นแต่ละบลจ.ก็จะมีกองทุนยอดนิยมซึ่งเป็นจุดขายของตัวเอง โดยเฉพาะกับกองทุน LTF และ RMF ขวัญใจของกลุ่มคนมีรายได้ประจำ เพราะให้สิทธิลดหย่อนภาษี และโอกาสได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะยาว
อย่างเช่น บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี ซึ่งในปีนี้ก็ยังเน้นกองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวไทยออลสตาร์ปันผล KFLTFSTARD และกองทุนเปิดกรุงศรีไทยออลสตาร์เพื่อการเลี้ยงชีพ KFSTARRMF ให้กับบรรดาผู้มีรายได้ประจำในช่วงสิ้นปีนี้ ทั้งสองกองทุนเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นไทย มีจุดเด่นตรงกลยุทธ์การลงทุนที่ยืดหยุ่นมาก สามารถลงทุนในหุ้นเด่นได้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ หุ้นกลาง-เล็ก หุ้นปันผลดี หุ้นเติบโตสูง โดยผู้จัดการกองทุนจะเป็นคนทำหน้าที่คัดหุ้นและจัดสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะกับแต่ละภาวะตลาด นับเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับการลงทุนระยะยาวแบบ LTF และ RMF มาก
บลจ.กรุงศรี แนะนำกองทุน KFLTFSTARD & KFSTARRMF เสริมพอร์ตวางแผนภาษีสำหรับมนุษย์เงินเดือน
เหตุผลที่กลยุธ์การลงทุนในหุ้นไทยแบบเปิดกว้างไม่จำกัดขนาดและประเภทหุ้นของทั้ง 2 กองทุนเป็นจุดเด่นที่ไม่ควรมองข้าม ก็เพราะ LTF และ RMF เป็นการลงทุนระยะยาว ระหว่างที่เราต้องถือการลงทุนไป 7 ปีปฏิทิน (กรณีเป็น LTF) หรือจนเกษียณ (กรณี RMF) ภาวะเศรษฐกิจการลงทุนอาจเปลี่ยนแปลงไปได้หลายแบบ หุ้นบางกลุ่มอาจมีราคาขึ้น ทำกำไรได้ดี บางกลุ่มราคาอาจตกลง พลิกผันกันไปตามสถานการณ์ ด้วยกลยุทธ์ลงทุนที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นของ 2 กองทุนนี้ จะทำให้ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับเปลี่ยนหุ้นในพอร์ตให้เหมาะกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้ ไม่พลาดโอกาสทำกำไร และขณะเดียวกันก็ลดความเสี่ยงขาดทุนได้ด้วย ในระยะยาวกองทุนจึงมีโอกาสสร้างกำไรได้ดีกว่า
กองทุนแฝดคู่นี้มีความแตกต่างตรงที่ KFLTFSTARD เป็นกองทุน LTF มีนโยบายจ่ายเงินปันผลด้วย ส่วน KFSTARRMF จะเหมือนกับ RMF อื่นๆ ที่ไม่มีการจ่ายปันผลระหว่างทางเลย ให้ผู้ลงทุนสะสมผลตอบแทนไว้ใช้ยามเกษียณจริงๆ ส่วนนโยบายการลงทุนมีความแตกต่างในรายละเอียดเล็กน้อยคือ KFLTFSTARD จะลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนใน SET และ/หรือ MAI สัญญาซื้อขายล่วงหน้า และ/หรือหุ้น IPO เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV ส่วน KFSTARRMF จะลงทุนแบบเดียวกันนี้ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAVทั้งสองกองทุนมีความเสี่ยงระดับ 6 (จาก 9 สเกล) ถือว่ามีความเสี่ยงสูง เพราะลงทุนในหุ้นซึ่งมีความผันผวนสูงในระยะสั้น ถ้าจะลงทุนควรรับความเสี่ยงระยะสั้นได้ แต่ถ้ามองว่าจะลงทุนยาวตามเกณฑ์ของ LTF RMF อยู่แล้ว โอกาสได้ผลตอบแทนดีก็มีเพิ่มขึ้นในระยะยาว
สำหรับใครที่มีรายได้ต้องเสียภาษี ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือฟรีแลนซ์ทั้งหลาย กองทุนคู่แฝด LTF – RMF เป็นเครื่องมือช่วยประหยัดภาษีไปพร้อมกับโอกาสสร้างความมั่นคงในอนาคตด้วย ไม่ต้องจบ Finance ไม่ต้องคอยติดตามข้อมูลตลาดหุ้น วิเคราะห์ตัวเลขเศรษฐกิจหรือกราฟอะไรมากมาย เพียงดูข้อมูลกองทุน LTF – RMF ให้เข้าใจว่าลงทุนอะไร อย่างไร และมีความเสี่ยงที่เหมาะกับตัวเองหรือเปล่า แล้วก็ลงทุนยาวไป ไม่ต้องรอจนใกล้เกษียณก็จะยิ่งดี
ก่อนตัดสินใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน
สนใจดูข้อมูลกองทุน หรือขอรับหนังสือชี้ชวนและสอบถามโปรโมชั่นได้ที่บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี และธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ทุกสาขา โทร 0 2657 5757 หรือที่ http://bit.ly/2Aywg6L
ได้ลดหย่อนภาษีและเก็บออมเงินสมความตั้งใจ ปูทางจากมนุษย์เงินเดือนสู่ความมั่งคั่ง มั่นคงในอนาคต
[บทความนี้เป็น Advertorial]