ในปีที่ผ่านมา มีหลายธุรกิจได้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อสร้างยอดขายและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ โดยวิธีที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ KOL (Key Opinion Leader) หรือการใช้ผู้มีอิทธิพลในแต่ละสาขา เข้ามาช่วยสื่อสารข้อมูลไปยังกลุ่มเป้าหมาย เหมือนกับที่ คิง เพาเวอร์ เลือก ฟ่าน ปิงปิง ซุปเปอร์สตาร์สาวชาวจีน มาทำหน้าที่ Global Brand Ambassador เพื่อประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งการมาของเธอในครั้งนี้บอกว่า คิง เพาเวอร์ กำลังรุกตลาดเป็นแบรนด์ระดับโลกสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น
ในการสร้างปรากฏการณ์ครั้งล่าสุด คิง เพาเวอร์ ได้ปรับโฉม คิง เพาเวอร์ รางน้ำใหม่ ให้เป็นมากกว่าการเป็น Duty Free ภายใต้แนวคิด “การค้นพบไม่มีวันสิ้นสุด” ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบไว้ในที่เดียว โดยใช้งบประมาณ 2,500 ล้านบาท เนรมิตพื้นที่กว่า 15 ไร่ ให้กลายเป็นแลนด์มารค์แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ โดดเด่นด้วยการใช้เทคโนโลยี ความบันเทิงที่ทันสมัย สถาปัตยกรรมที่สวยงามทั้งภายในและภายนอก ที่มีโซนน้ำพุสูง 6 เมตร รูปทรง Matrix สูงสุดในอาเซียน ถือได้ว่าเป็นการสร้างภาพลักษณ์และมิติใหม่ให้แก่ร้านค้าปลอดภาษีได้ครอบคลุมในทุกมิติ
เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า ภายใน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ได้มีการแบ่งโซนใหม่ออกเป็น 3 โซน ได้แก่ ชั้น 1 แหล่งรวมสินค้าระดับเวิลด์คลาส แบรนด์เนมชั้นนำระดับโลก ชั้น 2 โซนนาฬิกา เครื่องสำอาง และน้ำหอมกว่า 100 แบรนด์ และชั้น 3 Dinning ศูนย์รวมร้านอาหารนานาชาติ และสตรีทฟู้ดชื่อดังของไทย อาทิ กุ้งเผาอยุธยา ข้าวขาหมูจุฬา ทิพย์สมัย ผัดไทยประตูผี ห่านท่าดินแดง ละมัยหอยทอด ไทยสกาล่า หูฉลาม รองเมืองเกาเหลา ฯลฯ
ภายใต้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว คิง เพาเวอร์ ได้วางกลยุทธ์การตลาดเพื่อก้าวสู่ Top 5 ในธุรกิจปลอดภาษีระดับโลกภายใน 5 ปี โดยเริ่มจากการขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศหรือพันธมิตรในธุรกิจใหม่ๆ เน้นโซนเอเชียก่อนเป็นหลัก ในขณะเดียวกันยังเดินหน้าเพิ่มความสะดวกสบายให้นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ ด้วยการเพิ่มเลานจ์ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และจัดอีเวนต์ต่างๆ เพื่อสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวกลุ่มเดิม และกลุ่มใหม่ที่จะเดินทางเข้ามาในไทย
คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ถือเป็นหนึ่งในการรีโนเวทที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของร้านค้าปลอดภาษีในเมืองโดยสิ้นเชิง รวบรวมสินค้าและบริการไว้อย่างครบวงจรแบบ 360 องศา ทั้งการช้อปปิ้ง ทานอาหาร ชมการแสดง เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ของการใช้ชีวิตในอีกรูปแบบ อีกทั้งยังกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปัจจุบัน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เพิ่มโอกาสทางการค้าระหว่างประเทศ และเมื่อมีพรีเซนเตอร์อย่าง ฟ่าน ปิงปิง มาเสริมทัพด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศทั่วโลกมากขึ้น
แม้วันนี้ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เป็นมากกว่า Duty Free แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นไทย ที่เต็มไปด้วยความเป็นมิตรและใจที่พร้อมบริการ ซึ่งเป็นความเชื่อมั่นที่ลูกค้าทั่วโลกมีให้ คิง เพาเวอร์ ตลอดมา รวมถึงส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ และไปถึงเป้าหมาย Top 5 ในธุรกิจปลอดภาษีระดับโลก
ภาพทั้งหมดจาก Art4D Magazine / http://art4d.com/2018/02/king-power-rangnam-renovation
