เคเอฟซี ประเทศไทย ภายใต้ ยัม เรสเทอรองตส์ ปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ เปิดตัว “Brand Center” แห่งแรกของโลก โดยศูนย์กลางดังกล่าว ทำหน้าที่บริหารแบรนด์และแฟรนไชส์ที่อยู่ในประเทศไทย อาทิ การวางกลยุทธ์แบรนด์ การตลาด สนับสนุนและควบคุมมาตรฐานแฟรนไชส์ และสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านสินค้าและบริการ พร้อมปรับวัฒนธรรมและขนาดองค์กรให้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เน้นทำงานแบบไฮบริด
นางแววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล ผู้จัดการทั่วไป เคเอฟซี (ประเทศไทย) บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การเปิด Brand Center ครั้งนี้ มีผลมาจากการปรับโมเดลธุรกิจใหม่ตามแผนของ Yum! Brands, Inc ที่เตรียมผลักดัน เคเอฟซี ให้เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ 100% คือ ผันตัวจากการบริหารหน้าร้าน สู่ผู้ดูแลพัฒนาแบรนด์และแฟรนไชส์แทน โดยตั้งเป้าเปิดร้านถึง 1,000 สาขาภายในปี 2020
สำหรับกลยุทธ์ที่ใช้ในการสร้างแบรนด์ให้มีความยั่งยืน มีทั้งหมด 3 ข้อดังนี้
1. สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เน้นการสื่อสารแบรนด์ที่ดูทันสมัย สนุก เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ผ่านแคมเปญต่างๆ แต่ยังคงความชัดเจนและตัวตนของแบรนด์
2. ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค โดยมุ่งเน้นเรื่อง Digital & Delivery เนื่องจากดิจิทัลและเทคโนโลยีกลายเป็นส่วนหนึ่งของผู้บริโภค แบรนด์จึงจำเป็นต้องสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าทั้งออฟไลน์และออนไลน์ (OMNI channel)
3. สร้างมาตรฐานแฟรนด์ไซส์ โดยการสนับสนุนและวางไกด์ไลน์การบริการอย่างชัดเจน มีการตรวจสอบวัดผลอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่ปรึกษาอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม การที่เคเอฟซี ประเทศไทย ปรับโมเดลธุรกิจใหม่มุ่งสู่แฟรนไชส์เต็มตัว เป็นผลมาจากนโยบายของบริษัทแม่อย่าง Yum! Brands, Inc ที่เล็งเห็นทิศทางการเติบโตไปในทางที่ดีผนวกกับธุรกิจแฟรนไชส์ได้รับความนิยม จึงนำมาปรับใช้การเคเอฟซีทั่วโลก สำหรับประเทศไทยเอง เคเอฟซี แฟรนไชส์ซี (Franchisee) มีทั้งหมด 3 เจ้าใหญ่ๆ 1) บริษัท ยัมเรสเทอรองตส์ ประเทศไทย 2) บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป (CRG) และ 3) บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (QSA) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไทยเบฟ
