ธนาคารกสิกรไทย หนึ่งในธนาคารหลักหนุนนโยบายพร้อมเพย์ของรัฐบาล เร่งเพิ่มยอดคนและการใช้พร้อมเพย์ ด้วยการเปิดตัวแคมเปญใหญ่ “พร้อมเพย์ Kสุด มั่นใจ ใครๆ ก็เพย์” เจาะพื้นที่ตลาดสด ตลาดนัด ร้านค้าทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ตั้งเป้าคนลงทะเบียนพร้อมเพย์รวม 5 ล้านรหัส และมีรายการธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น 45%-50% คาดช่วยลดต้นทุนบริหารจัดการเงินสดเฉลี่ย 1 พันล้านบาทต่อปี
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย ชี้ว่าจากการที่ธนาคารได้เปิดบริการโอนเงินพร้อมเพย์แก่ลูกค้าบุคคลธรรมดา ผ่านระบบออนไลน์อย่าง K-ATM, K-Cyber Banking และ K-Mobile Banking PLUS ส่งผลให้ผู้ใช้บริการเริ่มคุ้นเคยในการทำธุรกรรมผ่านพร้อมเพย์มากขึ้น โดยมีรายการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ของธนาคารกสิกรไทยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 10,000 รายการต่อวันในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ เป็นประมาณ 23,500 รายการต่อวันในช่วงเดือนมีนาคม เติบโตขึ้นมากกว่า 130% และประมาณ 80% ของธุรกรรมที่ผ่านระบบพร้อมเพย์ของธนาคารกสิกรไทยในเดือนมีนาคมจะเป็นรายการโอนข้ามธนาคาร
จากแนวโน้มปริมาณธุรกรรมและยอดผู้ลงทะเบียนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดการใช้พร้อมเพย์สูงขึ้นเนื่องจากผู้ใช้มีความสะดวก ปลอดภัย ประหยัดค่าธรรมเนียมและแนะนำให้คนอื่นใช้ต่อไป โดยธนาคารกสิกรไทยเห็นว่า มีผู้ใช้ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารหลักถึงประมาณ 30% จากตลาดรวม ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้ระดับกลาง (Middle Income) ประมาณ 23% ขณะที่มีผู้ผูกเบอร์โทรศัพท์มือถือกับบัญชีพร้อมเพย์เพียง 5.5 ล้านเลขหมาย จากที่ทั่วประเทศใช้เกือบ 90 ล้านเลขหมาย โดยเป็นสมาร์ทโฟนราว 90%
แคมเปญ “พร้อมเพย์ Kสุด มั่นใจ ใครๆ ก็เพย์” จึงเกิดขึ้นเพื่อเพิ่มยอดผู้สมัครใช้ K-Bank PromtPay จากเดิมที่มีกว่า 3 ล้านรหัสเพิ่มเป็น 5 ล้านรหัสภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นอีก 45%-50% นอกจากจะช่วยให้เกิดการใช้จ่ายแบบไร้เงินสดในชีวิตประจำวันแล้ว ยังช่วยชาติประหยัดค่าใช้จ่าย รวมทั้งช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการเงินสดและอื่นๆ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปีได้ ที่สำคัญยังเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมระบบ e-Commerce อีกด้วย
โดยธนาคารกสิกรไทยจะเน้นพื้นที่ในตลาดสด ตลาดนัด เช่น ตลาด อตก., ตลาดนัดออฟฟิศต่างๆ รวมทั้งร้านค้ารายย่อย โดยเชิญชวนพ่อค้าแม่ค้าสมัครใช้พร้อมเพย์ เพราะจะช่วยทำให้การซื้อขายคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เช่น ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีเงินทอน เสียเวลานับเงิน เป็นต้น ส่วนลูกค้าที่มาซื้อก็ได้รับความสะดวกสบาย เพราะไม่ต้องพกเงินสด ปลอดภัย สะดวก พร้อมทั้งยังจัดโปรโมชั่นฟรีค่าธรรมเนียมให้กับผู้ที่โอนเงินพร้อมเพย์ทุกวงเงิน ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2560
ปัจจุบันมีการลงทะเบียนพร้อมเพย์กับธนาคารกสิกรไทยมากกว่า 3 ล้านรหัส แบ่งเป็นการลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน 52% และหมายเลขโทรศัพท์มือถือ 48% โดยส่วนใหญ่นิยมลงทะเบียนพร้อมเพย์ผ่านช่องทาง K-Mobile Banking PLUS สำหรับนิติบุคคลสามารถใช้บัญชีธนาคารผูกกับเลขประจำตัวผู้เสียภาษีผ่านช่องทางสาขาและผู้จัดการสัมพันธ์ลูกค้าของธนาคาร โดยจะเน้นเร่งสร้างความเข้าใจและประโยชน์ของบริการพร้อมเพย์ให้กับกลุ่มนิติบุคคลดังกล่าวเพื่อให้เห็นถึงประโยชน์ในการใช้พร้อมเพย์
ตอนนี้ถ้าใคร “พร้อมเพย์” แล้ว ก็ไปสมัครใช้บริการได้ 3 ช่องทางของธนาคารกสิกรไทย คือ แอพพลิเคชั่น K-Mobile Banking PLUS, K-Cyber และตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกสิกรไทย ทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.kasikornbank.com