เรื่อง “เงิน” ไม่ใช่เรื่องยาก เมื่อกสิกรไทยส่งผู้เชี่ยวชาญให้ใกล้คุณผ่านบริการ K-Expert

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีความคิดที่จะเก็บเงินออมให้ได้ แต่ก็ต้องล้มเหลวทุกครั้ง หรือไม่ก็ทำได้แต่ก็ไปไม่ถึงเป้าหมาย มิหนำซ้ำบางรายอาจจะมีหนี้เพิ่มขึ้นมาด้วยซ้ำ นั่นเป็นเพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความรู้ทางด้านการเงินที่ดี สิ่งนี้เห็นได้ชัดมากจากผลสำรวจความรู้ทางการเงินโดย ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย ปี 2556 ที่ระบุว่า คนไทยยังมีความรู้ทางการเงินน้อย (เมื่อเปรียบเทียบกับอีก 14 ประเทศกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว OECD ที่ร่วมสำรวจ) และที่สำคัญคือ คนไทยยังมีพฤติกรรมทางการเงินพื้นฐานที่ต่ำโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบและการทำบัญชีครัวเรือน

นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังวิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2559 ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นไปในลักษณะ “ดีขึ้นแบบระมัดระวัง” โดยคาดว่าดัชนีมวลรวมในประเทศ หรือ GDP จะอยู่ที่ 3% สำหรับแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจนั้นมีแรงหนุนจากการใช้จ่ายของภาครัฐเสียส่วนใหญ่ ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเริ่มวางแผนทางการเงินกันตั้งแต่วันนี้ แต่จะต้องวางแผนอย่างไรให้เกิดผลสำเร็จและบรรลุเป้าหมาย หลายคนคงมีคำถามในใจเกี่ยวกับเรื่องนี้?

K-Expert-1

ดังนั้น ในบทความนี้เราขอนำเสนอความรู้ทางการเงินที่ได้จากกิจกรรมสัมนา “ถอดรหัสรวยปีวอก” ของ K-Expert โดยธนาคารกสิกรไทย มาแนะนำถึงวิธีการที่ถูกต้องทั้งเรื่องการออม การลงทุน และความรู้เรื่องเงินกู้/สินเชื่อ เพื่อให้คนไทยพร้อมรับมือกับทุกสภาวะของเศรษฐกิจไทยในปี 2556 รวมทั้งมีวินัยทางการเงินที่ดีขึ้นด้วย

เงินออม

หลักที่ดีของการออมเงินคือ “ออมก่อนใช้” โดยใช้บริการหักบัญชีอัตโนมัติ เพื่อนำเงินไปฝากในบัญชีเงินฝากประจำหรือลงทุนในกองทุนรวมให้เราอย่างสม่ำเสมอทุกๆ เดือน ซึ่งจะช่วยให้มีวินัยการออมเงินอย่างอัตโนมัติ ซึ่งธนาคาพาณิชย์ใหญ่ จะมีเงินฝากระยะยาวโดยเน้นตอบสนองตามความต้องการขอลูกค้า ซึ่งมี 2 รูปแบบ ได้แก่

1. บัญชีเงินฝากพิเศษ เน้นการออมเงินอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน เดือนละเท่าๆ กัน โดยดอกเบี้ยที่ได้รับไม่ต้องเสียภาษี
2. เงินฝากสำหรับผู้สูงอายุ มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้น เพราะตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร ให้สิทธิ์ยกเว้นภาษีสำหรับผู้ฝากที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป และมีดอกเบี้ยเงินฝากประจำทุกประเภทรวมกันไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้รับสิทธิ์การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับดอกเบี้ย

นอกจากนี้อีกหนึ่งเรื่องที่ควรรู้ คือ ความคุ้มครองเงินฝากที่เดิมเคยคุ้มครองเต็มจำนวนเริ่มปรับลดลงมาอยู่ที่ไม่เกิน 50 ล้านบาท และได้ครบกำหนดไปแล้วเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2558 หลังจากนั้นจะลดลงเหลือไม่เกิน 25 ล้านบาท จนถึง 10 สิงหาคม 2559 และไม่เกิน 1 ล้านบาทตั้งแต่ 11 สิงหาคม 2559

เงินลงทุนใน LTF/RMF

เป็นการนำเงินที่ได้จากการออมไปเพิ่มดอกผลด้วยการนำไปลงทุน โดยยึดคติว่า “ลงทุนน้อยๆ ลงทุนต่อเนื่อง” ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยให้เงินเก็บมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเร็วกว่าอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ การลงทุนที่เหมาะกับวัยเริ่มต้นทำงานหรือผู้ที่เริ่มต้นลงทุน ได้แก่ “กองทุนรวม” หรือการทำประกันแบบเงินออม เพราะมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไป และผลตอบแทนในส่วนของกำไรส่วนเกินมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต้องเสียภาษี ที่สำคัญคือ ควรลงทุนในกองทุนรวมเป็นรายเดือน เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการลงทุน และยังเป็นการช่วยเฉลี่ยต้นทุนที่ดีด้วย

สิทธิประโยชน์ที่เห็นได้ชัดในปีหน้า จากที่คณะรัฐมนตรี ครม. มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาและปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) สาระสำคัญ คือ มีเพดานไม่เกิน 500,000 บาท ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 ปี เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 และปรับเพิ่มระยะเวลาการถือหน่วยลงทุนใน LTF จากไม่น้อยกว่า 5 ปีปฏิทินเป็นไม่น้อยกว่า 7 ปีปฏิทินสำหรับหน่วยลงทุนใน LTF ที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป

• ผู้ออมต้องชั่งน้ำหนักระหว่างสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับกับสภาพคล่องที่ปรับลดลงจากการต้องถือหน่วยลงทุนเป็นระยะเวลานานขึ้น
• ผลทางบวกต่อการออมในภาพรวมจะจำกัดการได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุน LTF อยู่แค่กลุ่มผู้มีรายได้ต่อปีสูงกว่า 300,000 บาท หรือเงินเดือนประมาณ 25,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น

เงินกู้ / สินเชื่อ

การใช้เงินที่ดีไม่ได้หมายความว่าคุณจะกู้หรือเป็นหนี้ไมได้ แต่หลักการที่สำคัญที่สุดคือ “เป็นหนี้อย่ามีสติ” หากคุณจำเป็นจะต้องซื้อของที่มีมูลค่า เช่น บ้าน ที่ดิน หรือรถยนต์ สามารถทำได้ โดยที่จะต้องประเมินจากความสามารถในการผ่อนชำระของตนเองเปรียบเทียบกับดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกในแบบอัตราคงที่ ซึ่งจากทิศทางดอกเบี้ยในปี 2559 คาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ 1.5% ต่อเนื่องตลอดปี ดังนั้น ผู้ที่กำลังจะขอสินเชื่อใหม่ (Refinance) ควรเลือกสินเชื่อที่การกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่

นอกจากนี้ยังมีข่าวดีสำหรับคนที่มีหนี้ผ่อนบ้าน คือ มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ที่ทำให้คนที่ซื้อบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทสามารถนำเอา 20% ของมูลค่าที่อยู่อาศัย มายกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นเวลา 5 ปี โดยให้มีผลจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559

นี่เป็นเพียงคำแนะนำอย่างย่อๆ หากคุณคิดที่จะออมเงินและลงทุนให้ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ทราบหรือไม่ขณะนี้เริ่มมีบริการให้คำปรึกษาด้านการเงินจากผู้เชี่ยวชาญตามสาขาต่างๆ ของธนาคารกันแล้ว โดยธนาคารที่เห็นว่าเริ่มทำเป็นรูปเป็นร่างและจริงจังอย่างมากได้แก่ “ธนาคารกสิกรไทย” โดยบริการดังกล่าวเรียกว่า K-Expert

K-Expert คืออะไร?

K-Expert คือบริการให้คำปรึกษาทางการเงินโดยทีมผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ K-Expert ที่มีความชำนาญและได้รับการพัฒนาทักษะการให้คำปรึกษาที่สามารถช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น กว่า 4,500 คน ประจำอยู่สาขาของธนาคารกสิกรไทยทั่วประเทศ แล้วยังเพิ่มความสะดวกด้วยการให้บริการในรูปแบบออนไลน์อีกด้วย ซึ่งพบว่าหัวข้อที่คนสนใจขอคำปรึกษามากที่สุด ได้แก่ เรื่องอยากลงทุน อยากประหยัดภาษี และอยากมีบ้าน

K-Expert-2

K-Expert-3

นอกจากนี้ ยังได้เปิด K-Expert Center ศูนย์บริการให้คำปรึกษาด้านการเงิน บนชั้น 2 อาคารจามจุรีสแควร์ เพื่อให้คำปรึกษาเจาะลึกเป็นรายบุคคล โดยทีม K-Expert ผู้เชี่ยวชาญมาตรฐานระดับ CFP (Certified Financial Planner) ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และเข้าใจความต้องการของลูกค้า ที่จะเป็นผู้ช่วยคิด คอยให้คำแนะนำที่ถูกต้อง โดยจะมีเจ้าหน้าที่ K-Expert ประจำที่ศูนย์ตลอด 7 วันของสัปดาห์ และมีการจัดกิจกรรม Workshop ทั้งด้านการเงิน การออม การลงทุนและหัวข้อหลากหลายไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ทุกเป้าหมายเป็นจริงได้ง่ายขึ้น ผ่านแนวคิด “มีคนช่วยคิด ชีวิตก็ดี” เพื่อสุขภาพทางการเงินที่ดีและนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

K-Expert-4

สำหรับ K-Expert Center ประกอบด้วยพื้นที่ให้บริการ 3 ส่วน ดังนี้

ห้องเรียนรู้สู่ความสำเร็จ พื้นที่จัดกิจกรรมเวิร์คช็อปด้านการเงินโดยทีม K-Expert และผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาร่วมให้ข้อมูลและความรู้ โดยเวิร์คชอปดังกล่าวจะจัดตลอดทั้งปี สามารถติดตามข้อมูลและลงทะเบียนเข้าร่วมเวิร์คชอปโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ได้ที่ www.askkbank.com/k-expertWorkshop

มุมให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ พื้นที่ให้บริการด้านคำปรึกษารายบุคคล โดยทีม K-Expert ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและนักวางแผนการเงินมืออาชีพที่ผ่านการรับรอง Certified Financial Planner เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น พร้อมช่วยคิด ช่วยวางแผน ร่วมกับผู้ใช้บริการเป็นรายบุคคล เพื่อให้ได้แผนการบริหารจัดการการเงินที่เหมาะสมกับแต่ละคน สามารถนัดหมายเพื่อเข้ารับบริการได้ที่ www.askkbank.com/k-expertCenter

โซนเรียนรู้ด้วยตัวเอง พื้นที่เรียนรู้เรื่องเงินทองด้วยตัวเองในบรรยากาศผ่อนคลาย เพียบพร้อมด้วยข้อมูล เครื่องมือทางการเงินในรูปแบบแอพพลิเคชั่นที่สามารถใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน

และถ้าคุณคิดว่าการให้คำปรึกษาทางการเงินนี้มีค่าใช้จ่ายที่สูง ต้องขอบอกตรงนี้เลยว่า K-Expert Center ให้บริการฟรี! แถมยังเปิดให้บริการทุกวันอีกด้วย โดยวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00 – 20.00 น. วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 19.00 น.

K-Expert-5

K-Expert-6

บริการดีๆ แถมฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายแบบนี้ คงทำให้หลายคนหมดข้ออ้างแล้วสินะว่าเรื่องการเงินหรือเรื่องการลงทุนเป็นเรื่องเข้าใจยาก ถ้าเช่นนั้นจะช้าอยู่ทำไมรีบมาออมเงินสร้างดอกผลให้เพิ่มพูนทวีๆ กันตั้งแต่วันนี้ดีกว่าค่ะ


  •  
  •  
  •  
  •  
  •