อีกก้าวของ “หัวเว่ย” กับภารกิจปั้น “คลาวด์ ไทยแลนด์” ยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมดาต้าเซ็นเตอร์-เครือข่ายพาร์ทเนอร์

เมื่อเร็วๆ นี้ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) ประกาศเปิดตัวบริการคลาวด์สาธารณะ ในชื่อ หัวเว่ย คลาวด์ ไทยแลนด์ ซึ่งหัวเว่ยได้รับมอบใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจบริการคลาวด์ในประเทศไทยจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ทำให้หัวเว่ยเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีระดับโลกรายแรกที่เปิดให้บริการคลาวด์ในประเทศไทย พร้อมด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ ในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และรองรับการเข้าถึงเครือข่ายทั่วโลก

โดย คุณเจิ้ง เย่หลาย ประธานบริหาร กลุ่มธุรกิจคลาวด์ของหัวเว่ย กล่าวว่า การเปิดตัวบริการคลาวด์ของหัวเว่ยในประเทศไทยถือเป็นก้าวสำคัญของเรา หัวเว่ยเชื่อมั่นว่าการเปิดศูนย์ข้อมูลใหม่นี้จะช่วยขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 โดยใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยในการประมวลผลแบบCloud Computing, Big Data และ AI การนำเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแพลตฟอร์มของเรามาใช้จะช่วยให้บริษัททุกขนาดในอุตสาหกรรมต่างๆ ขยายธุรกิจออกไปสู่ระดับภูมิภาคและระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ถือเป็นการพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวไกล ด้วยการแบ่งปันความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีไอซีทีกว่า 30 ปี โดยการสนับสนุนจากฝ่ายเทคนิคระดับมืออาชีพในไทย พร้อมมอบบริการระดับโลกที่น่าเชื่อถือแก่ลูกค้าในประเทศไทย

สำหรับระบบนิเวศแบบเปิดของหัวเว่ย ประกอบด้วยบริษัทพันธมิตรกว่า 6,000 ราย ที่ทำงานร่วมกับหัวเว่ย คลาวด์ เพื่อจัดหาโซลูชั่นแบบครบวงจร ตั้งแต่ชิพประมวลผล การให้บริการฮาร์ดแวร์บนคลาวด์ (Infrastructure as a Service : IaaS)บริการแพลตฟอร์มบนคลาวด์ (Platform as a Service : PaaS) และแอปพลิเคชันเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งนี้ หัวเว่ย คลาวด์ ยังได้ร่วมกับพันธมิตรในไทย อาทิ Stream IT, CallVoice และ BeTimes สร้างแอปพลิเคชันสำหรับลูกค้าองค์กรแบบเบ็ดเสร็จ ที่มุ่งเน้นให้บริการแก่ภาครัฐ การดูแลรักษาทางการแพทย์ อีคอมเมิร์ซ และอื่นๆ อีกด้วย

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า…ในปี 2562 ทั่วโลกจะมีการใช้บริการคลาวด์มากกว่าการใช้เทคโนโลยีไอทีแบบเดิม และในปี 2564 เฉพาะในประเทศไทย มีการประเมินว่าบริการคลาวด์ รวมถึงฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆ ที่ทำงานบนระบบคลาวด์จะมีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 48,000 ล้านบาท (ตามข้อมูลในรายงานของ IDC)

คุณเจมส์ อู๋ ประธานบริหาร หัวเว่ย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แสดงมุมมองว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการนำเสนอบริการคลาวด์สาธารณะในประเทศไทย ซึ่งแสดงถึงพันธกิจของเราที่มีต่อการทำงานร่วมกันและบรรลุนโยบาย Thailand 4.0 เพื่อช่วยให้หน่วยงานและองค์กรต่างๆ มีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ เร่งผลักดันนวัตกรรม และเพิ่มความปลอดภัย ภายใต้เครือข่ายคลาวด์ของหัวเว่ยที่มีอยู่ทั่วโลก ทั้งในยุโรป ละตินอเมริกา รัสเซีย แอฟริกาใต้ และจีน ทำให้เราสามารถเชื่อมโยงองค์กรธุรกิจต่างๆ เข้าสู่ตลาดโลก โดยใช้ทรัพยากรดาต้าเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค การค้า และพันธมิตรอีกมากมาย