อุตสาหกรรมที่เรียกได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมติดอันดับ Top 3 ของประเทศไทยคงหนีไม่พ้นอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 จากข้อมูลการจดทะเบียนรถยนต์ของกรมการขนส่งทางบกพบว่า รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คนหรือรถเก๋งมียอดจดทะเบียน (ป้ายแดง) จํานวน 241,820 คัน เพิ่มขึ้นจํานวน 68,029 คัน หรือคิดเป็น 39.14%
นั่นเป็นตัวที่ชี้ให้เห็นว่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลหรือรถเก๋งยังคงได้รับความนิยม สำหรับตลาดรถยนต์ในเมืองไทยรถเก๋งถูกแบ่งเซ็กเม้นต์ออกมากมายตั้งแต่ Sub-Compact, Compact Car, Sedan, SUV เป็นต้น ซึ่งแบรนด์ Honda จัดได้ว่าเป็นแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลหรือรถเก๋งมากที่สุด ด้วยรถยนต์ที่ผลิตครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์ของตลาดรถเก๋งในประเทศไทย และดีไซน์ที่ทันสมัยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ
ความสำเร็จคว้ารางวัล 5 สมัย
นอกจากเรื่องของดีไซน์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์แล้ว Honda ถือได้ว่าเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจ ผ่านการได้รับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านภาพลักษณ์ดีเด่นประเภทแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ จากรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม (TAQA-Thailand Automotive Quality Award 2016) ซึ่งได้รับรางวัลนี้ติดต่อกันถึง 5 ปีซ้อน
รางวัล TAQA ซึ่งเป็นเสมือนดัชนีชี้วัดความพึงพอใจในสินค้าและบริการ รางวัลนี้จึงเป็นการสะท้อนความสำเร็จในการผลิตและการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพการบริการ ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ค่ายรถยนต์จะสามารถคว้ารางวัลได้ถึง 5 ปีซ้อน ความพิเศษนี้เรียกว่าอยู่ใน DNA ของรถยนต์ Honda ทุกคัน
กว่าจะผลิตขึ้นมาเป็น Honda
อย่างที่กล่าวไว้แล้วว่า จุดเด่นหนึ่งของ Honda คือดีไซน์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะดีไซน์กึ่งสปอร์ตที่ช่วยให้การขับขี่ดูเร้าใจมากยิ่งขึ้น แต่ใช่ว่า Honda จะมีแต่เพียงดีไซน์เท่านั้นที่โดดเด่น แต่นวัตกรรมยานยนต์อันทันสมัยเป็นอีกหนึ่งปัจจัยของความสำเร็จ ควบคู่ไปกับการใส่ใจสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนการผลิต
นวัตกรรมที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของ Honda ปรากฎขึ้นมาในรูปของ Honda Civic ตั้งแต่อดีตกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ 4 สูบ 1,169 ซีซี 50 แรงม้า แต่กินน้ำมันเพียง 17 กิโลเมตรต่อลิตร ไปจนถึงการคิดค้นเครื่องยนต์ CVCC (Compound Vortex Controlled Combustion) ที่ได้การรับรองมาตรฐาน EPA (U.S. Environmental Protection Agency) อีกด้วย
ปัจจุบันไม่เพียง Honda Civic เท่านั้น แต่รถยนต์ของ Honda ทุกรุ่นตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นไป สามารถรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Honda อย่างเทคโนโลยีเอิร์ธดรีม (Earth Dreams Technology) ที่ช่วยให้การขับขี่ที่เร้าใจและให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม รวมไปถึงเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฮบริด (Hybrid) ที่ช่วยประหยัดน้ำมันและรักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัว
นวัตกรรมการผลิตของ Honda หนึ่งเดียวในโลก
ไม่เพียงแต่เรื่องของนวัตกรรมที่ Honda ใส่ใจ แต่ Honda ยังใส่ใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ด้วยเหตุนี้ “โรงงานสีเขียว” จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายหลักของ Honda ทั่วโลก ที่ทุกโรงงานจะต้องมีระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่ดี รวมทั้งมีระบบบริหารจัดการพลังงานและทรัพยากรอื่นๆ ที่เปี่ยมประสิทธิภาพ เพื่อให้รถยยนต์ Honda นอกจากจะให้สมรรถนะสูงและดีไซน์สุดสปอร์ตเร้าใจ แต่ยังคงห่วงใยใส่ใจสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
สำหรับโรงงานแห่งใหม่ของ Honda ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.ปราจีนบุรี ได้คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ โดยโรงงานแห่งใหม่นี้ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “ส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ด้วยสมดุลที่เหมาะสมของทักษะฝีมือการผลิต และเทคโนโลยีอันทันสมัย” โดยเฉพาะนวัตกรรมสายการประกอบรถยนต์รูปแบบใหม่ ARC Line (Assembly Revolution Cell) ที่ฮอนด้าพัฒนาขึ้นและนำมาใช้ที่โรงงานแห่งนี้เป็นแห่งแรกของโลก
ไม่เพียงเท่านี้ Honda ยังตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนอย่างถูกต้องตามกฎจราจร จึงมุ่งมั่นรณรงค์การขับขี่ปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังได้ก่อตั้ง ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัย Honda (Honda Safety Driving Center) ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และเพียบพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านการฝึกอบรมที่มีมาตรฐาน อันเป็นผลให้การฝึกมีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุด
เข้าถึงและใกล้ชิดผู้บริโภคคือหน้าที่ของ Honda
นอกเหนือจากเรื่องของนวัตกรรมด้านยานยนต์และเทคโนโลยีในการผลิตแล้ว Honda ยังให้ความสำคัญกับการให้บริการหลังการขายที่มีคุณภาพ โดยได้ขยายพื้นที่การบริการเป็น 225 แห่งผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ เพื่ออำนวยความสะดวกและขยายความสามารถในการดูแลลูกค้าทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
Honda ตอบแทนความไว้ใจสู่สังคมไทย
Honda ยังเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในฐานะเป็นแบรนด์ที่มอบสิ่งดีๆ สู่สังคมไทยผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีการจัดตั้ง “กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย” ซึ่งแยกต่างหากจากงบประมาณของบริษัทและไม่ได้ขึ้นอยู่กับผลกำไร สามารถเบิกจ่ายงบในส่วนนี้ได้เพื่อการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที Honda จะร่วมสมทบเงินมูลค่า 1,000 บาทต่อการขายรถยนต์หนึ่งคัน, 100 บาทต่อการขายรถจักรยานยนต์หนึ่งคัน และ 10 บาทต่อการขายเครื่องยนต์อเนกประสงค์หนึ่งหน่วย เพื่อสมทบรายได้จากยอดขายผลิตภัณฑ์เข้าไว้ในกองทุนอย่างเป็นระบบ
ที่ผ่านมากองทุนฯ ดังกล่าว ได้ช่วยเหลือสังคมหลายครั้ง เช่น การมอบความช่วยเหลือแก่ประชาชนชาวไทยในยามประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบอุทกภัย เป็นต้น และพร้อมที่จะให้การสนับสนุน และมอบความช่วยเหลือแก่พี่น้องชาวไทยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยพิบัติอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์สังคมไทยและอยู่เคียงข้างคนไทยตลอดไป