ตั้งแต่ Nokia ประกาศหวนคืนตลาดมือถือภายใต้ภาพลักษณ์ใหม่ กับการเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ก็ทำให้เกิดการพูดถึงจนเป็นกระแสคึกโครมไปทั่วโลก รวมถึงการตอบรับจากบรรดาแฟนๆ ที่เฝ้ารอรายละเอียดและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เลือดใหม่ของอดีตยักษ์ใหญ่ของวงการฟีเจอร์โฟนรายนี้
จากภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เคยเป็นผู้นำระดับโลกอย่างยาวนานนับ 10 ปี ก่อนจะอำลาธุรกิจมือถือไปไม่ต่ำกว่า 4-5 ปี มาจนถึงวันที่ Nokia ประกาศกลับมาสู้ศึกแวดวงเดิมด้วยภาพลักษณ์ใหม่ “สมาร์ทโฟนตระกูลแอนดรอยด์” ความท้าท้าย ความแปลกใหม่ และกลยุทธ์ที่จะครองใจผู้บริโภค คืออะไร? เป็กกา รันทาลา ประธานเจ้าหน้าที่สูงสุดฝ่ายการตลาด HMD Global ในฐานะผู้ได้รับลิขสิทธิ์การออกแบบและจัดจำหน่ายมือถือ Nokia จะมาช่วยไขข้อข้องใจ
“เราเป็นบริษัทสัญชาติฟินแลนด์ ก่อตั้งราวๆ 8 เดือนที่ผ่านมา ก่อนจะกลับเข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟนด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Nokia 6 ในประเทศจีนเมื่อเดือนมกราคม พร้อมทั้งเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับรุ่น Nokia 3 , 5 , 6 ในงาน Mobile World Congress 2017 ที่กรุงบาร์เซโลนา ประเทศสเปนในเดือนถัดมา ก่อนจะขยายตลาดมายังประเทศไทยเมื่อพฤษภาคมนี้ ซึ่งไทยถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียที่ Nokia เลือกเปิดตัวสมาร์ทโฟนครบทั้ง 3 รุ่น ผ่านโอเปอเรเตอร์และพาทเนอร์ร้านค้าปลีกไอที” ประธานเจ้าหน้าที่สูงสุดฝ่ายการตลาด HMD Global เริ่มต้นเล่า และอธิบายถึงทิศทาง Nokia ในประเทศไทยอีกว่า…
Nokia ยังใช้ง่าย ทนทาน เพื่อแฟนทุกคน
เรายังเชื่อมั่นในจุดเด่นของ Nokia ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงใจผู้บิโภคจากความทนทาน ใช้ง่าย และสามารถใช้งานได้นาน ประกอบกับนวัตกรรมการออกแบบและการใช้งานจนเป็นสมาร์ทโฟน Nokia ในปัจจุบัน เชื่อว่าเราทำได้ดีเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นในระดับราคาเดียวกัน
ทั้งนี้ สมาร์ทโฟน Nokia จะไม่เน้นการแข่งขันที่สเปกเครื่องสูงๆ ราคาแพงๆ แม้ว่าอาจมีผู้นิยมใช้งานสินค้ากลุ่มดังกล่าว แต่นั่นไม่ใช่ Nokia เพราะเราให้ความสำคัญกับการเข้าถึงการใช้งานในผู้บริโภคทุกกลุ่ม ทุกคนจึงได้เห็นการเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับราคากลางเพื่อตอบโจทย์การเป็นสมาร์ทโฟนของทุกคน ส่วนรุ่นที่คาดว่าจะเป็นแฟลกชิปในประเทศไทยนั้น อาจเป็นรุ่น Nokia 6 ซึ่งเน้นหน้าจอขนาดใหญ่ใช้งานง่าย
เจาะกลุ่มมิลเลนเนียม เป้าหมายหลัก
สำหรับลูกค้าเป้าหมายของสมาร์ทโฟน Nokia คือ กลุ่มมิลเลนเนียม อายุ 19-35 ปี ส่วนกระแสตอบรับ Nokia ในไทยนั้นพบว่าการตอบรับดีมาก แฟนมือถือในอดีตยังคงรอคอยการกลับมาของแบรนด์ Nokia โดยเฉพาะภาพลักษณ์ในการเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ยิ่งทำให้ได้รับความสนใจ ขณะที่ประเทศจีนซึ่งเราวางจำหน่าย Nokia 6 เป็นประเทศแรกผ่านช่องทาง e-Commerce นั้น ผลตอบรับก็ดีเกินคาด โดยสามารถจำหน่ายหมดในเวลาเพียง 24 วินาที
จาก Connecting People สู่…Unite For
อย่างไรก็ตาม เราเชื่อมั่นว่าภาพลักษณ์ฟีเจอร์โฟนของ Nokia ในอดีต ที่มุ่งเน้น Connecting People กำลังจะพาเราไปสู่การทำตลาดแบบใหม่ภายใต้แนวคิด Unite For… เราจะสร้างสรรค์เรื่องราวเพื่อเข้าสู่ใจผู้บริโภคในแต่ละประเทศ แต่ละท้องถิ่น ด้วยการเชื่อมโยงคนกลุ่มเล็กๆ สู่สังคมและสร้างความประทับใจแก่พวกเขา ซึ่งคาดว่าจะมีกิจกรรมแบบ Unite For… เกิดขึ้นในไทยภายในไม่กี่สัปดาห์จากนี้
“กับคำถามที่ว่า Nokia กลับมาช้าไปหรือเปล่านั้น เราเชื่อว่าจังหวะการทำตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างความรู้สึกว้าวในใจผู้บริโภค ได้กระแสตอบรับที่ดี ถือเป็นจังหวะที่เหมาะสม หลังจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในงาน Mobile World Congress2017 เรายังไม่ได้เริ่มทำตลาดอย่างจริงจังแต่กลับได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยอดขาย Nokia 6 ในจีนได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว”
หายจากตลาดไปหลายปี จะกลับมาครองใจคนไทยได้อย่างไร?
เป็นประเด็นสำคัญที่ทุกคนอยากรู้ว่า Nokia จะกลับมาทำตลาดมือถือในไทยด้วยเป้าหมายใด หลังจากที่เคยเป็นเจ้าตลาดมาก่อน! คุณเป็กกา ตอบและยืนยันว่า “Nokia จะกลับมาเป็นท็อปแบรนด์ในไทย ความหวังสูงสุดคือการเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟน เพราะเรามั่นใจว่าแบรนด์ Nokia ไม่เคยหายไปจากใจคนไทย เรายังคงเป็นมือถือสำหรับทุกคน”.
Copyright © MarketingOops.com