GWM แม้จะโดดเด่นในการทำตลาดรถยนต์ EV อย่าง Ora Good Cat ที่เปิดตัวตั้งแต่กลางปี 2022 ที่ผ่านมาสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 8,500 คันไปแล้วแต่เป้าหมายของ GWM ไม่ได้เน้นไปที่รถยนต์ไฟฟ้า 100% เท่านั้น แต่ GWM วางเป้าหมายผลักดันแบรนด์ไปสู่การเป็น xEV Leader หมายถึงการเป็นผู้นำ “ตลาดรถยนต์พลังงานใหม่” (New Energy Forest Ecosytem) ที่นอกจากรถยนต์ EV แล้วยังรวมถึงรถยนต์ Hybrid และ Plug-in Hybrid อย่างแบรนด์ HAVAL หลายรุ่นที่ทำยอดขายในไทยไปได้แล้วกว่า 15,000 คันในเวลานี้
ล่าสุด GWM เดินหน้ากลยุทธ์สู่การเป็น “xEV Leader” ต่อโดยจับช่องว่างในตลาดรถ PPV (Pick-Up Passenger Vehicle) ในประเทศไทยด้วยการเปิดตัวรถไฮบริดในแบรนด์ Tank อีก 2 รุ่นอย่าง Tank 500 และ Tank 300 เติมเต็มตลาดที่ยังมีช่องว่างอยู่คือรถยนต์ที่สามารถตอบสนองด้าน “ความหรูหรา” “เทคโนโลยีการขับขี่” และ “สมรรถนะออฟโรด” ได้พร้อมๆกันจึงกลายมาเป็น “Tank 500” ส่วนรถที่มี “ราคาเข้าถึงได้” มากกว่า แต่ก็มาพร้อมกับ “เทคโนโลยีการขับขี่” และ “สมรรถนะออฟโรด” พร้อม “การออกแบบดึงดูดสายตา” GWM ก็ส่ง “Tank 300” มาให้คนไทยได้จับจองกัน
หากย้อนกลับไปรถยนต์ GWM TANK ได้รับการพูดถึงในวงกว้างอย่างรวดเร็วตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศจีนภายในงาน Guangzhou Auto Show ประจำปี 2564 ซึ่ง GWM TANK 500 สามารถทำยอดจองได้ถึง 26,000 คัน เพียง 2 ชั่วโมงหลังเปิดตัว นอกจากนี้ GWM TANK 300 ยังได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดจีน จนเกิดปรากฏการณ์หาซื้อยาก หรือ “TANK Phenomenon” กันมาแล้ว
ในขณะที่ All New GWM Tank 500 HEV ที่เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็มียอดจองซื้อทะลุมากกว่า 1,000 คันในเวลา 1 สัปดาห์แม้จะยังไม่เปิดราคาก็ตาม ควบด้วยรางวัล “The Most Exciting SUV Award” หรือ รางวัลรถยนต์เอสยูวีที่สร้างความตื่นเต้นได้มากที่สุดภายในงานอีกด้วย
GWM Tank เรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างมากมายในตลาดจีนและตลาดโลก ล่าสุดมียอดขายสะสมมากกว่า 300,000 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด SUV ในจีนมากกว่า 60% ในขณะที่ประเทศไทย GWM ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาด 5% ภายในปีนี้และ 8-10% ในปี 2024
สำหรับแบรนด์ Tank ทั้งสองรุ่นออกแบบภายใต้แนวคิด “NOTHING BUT TANK” สะท้อน DNA ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของ 4 บุคลิก แยกตามแต่ละตัวอักษรได้แก่
- T – Tough ทรหด อดทน ผจญทุกอุปสรรค
- A – Ambitious มุ่งมั่น ไม่หยุดนิ่ง ก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ
- N – Normal เรียบง่าย เข้าถึงได้ เป็นตัวของตัวเอง
- K – Kind ความดีงามของจิตใจ ความอ่อนโยน คิดถึงคนรอบข้าง
สำหรับสเปคตัวรถ All New GWM TANK 500 HEV เป็น SUV Off-Road ขนาดใหญ่โตระดับพรีเมียม ขนาดใหญ่กว่า Toyota Fortuner รวมถึง Ford Everest เป็นรถขนาดใหญ่ 7 ที่นั่ง ขับคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผันทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โหมดการขับขี่สูงสุดถึง 11 รูปแบบ
ส่วนของ All New GWM TANK 300 HEV เป็นรถอเนกประสงค์ขนาดกลาง สร้างบนแชสซีส์แบบ Ladder frame ที่จะรับแรงบรรทุก แรงบุกตะลุย มากกว่าเอสยูวี-ครอสโอเวอร์ทั่วไป ขนาดเทียบเท่า PPV หรือรถกระบะดัดแปลงอย่าง Toyota Fortuner มีระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 224 มม. ลุยน้ำได้สูงสุด 70 เซ็นติเมตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ระบบไฮบริด เบนซิน 2.0 ลิตรเทอร์โบ จับคู่กันกับมอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 9 สปีดขับเคลื่อนสี่ล้อ
ล่าสุด GWM เปิดราคารถยนต์ทั้งสองรุ่นและอีก 2 รุ่นย่อยออกมาแล้วโดยแต่ละรุ่นมีราคาดังต่อไปนี้
- All New GWM TANK 500 Hybrid SUV รุ่น Pro ราคา 2,049,000
- All New GWM TANK 500 Hybrid SUV รุ่น Ultra ราคา 2,269,000
- All New GWM TANK 300 Hybrid SUV รุ่น Pro ราคา 1,649,000
- All New GWM TANK 300 Hybrid SUV รุ่น Ultra ราคา 1,799,000
คงต้องจับตามมองตลาดรถยนต์ SUV ในประเทศที่จะจะดุเดือดขึ้นอย่างแน่นอนโดยเฉพาะกลุ่มคนที่ต้องการเทคโนโลยีการขับขี่จัดเต็ม มีความหรูหรา สะดวกสบายและมาพร้อมกับสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดที่ยังไม่มีรถยนต์แบรนด์ไหนเข้ามาตอบสนองความต้องการนี้ได้พร้อมๆกัน
ในขณะเดียวกัน GWM ก็ตั้งเป้าที่จะมาสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทย วางไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่อย่างเต็มรูปแบบหลังจากเข้าไปขยายตลาดใน 9 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ยังมีการตั้งโรงงานผลิตชุดแบตเตอรี่ภายใต้บริษัท SVOLT นับเป็นโรงงานผลิตชุดแบตเตอรี่แบรนด์จีนแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ทางผู้บริหาร GWM ยังเปิดเผยด้วยว่าเราจะได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ GWM ที่ผ่านสายพานการผลิตจากโรงงานในประเทศไทยที่จังหวัดระยองในปี 2024 นี้ด้วย