ในยุคที่การสร้างรายได้เพิ่มกลายเป็นเรื่องยาก ส่งผลให้นักธุรกิจหลายท่านไม่กล้าลงทุน เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กำไรกลับมา หรือต้องเผชิญหน้ากับภาวะขาดทุน จะเก็บเงินกินดอกเบี้ยก็คงทราบกันแล้วว่า ดอกเบี้ยในเวลานี้ต่ำเตี้ยติดดินจนแทบสะกดคำว่า “กำไร” ไม่ถูกเลย ธุรกิจหลายตัวที่น่าจะสดใสก็ไม่มีอะไรไว้ใจได้ว่าจะสดใสจริงตามที่คาดในภาวะที่เศรษฐไทยและเศรษฐกิจโลกยังดำดิ่งแบบโงหัวไม่ขึ้น
ส่งผลให้การลงทุนในแต่ละครั้งจำเป็นต้องมีความมั่นใจอย่างมากถึงมากที่สุด แต่ธุรกิจอะไรที่น่าสนใจบ้างในเวลานี้ ถ้ามองไปที่ปัจจัย 4 หมวดที่อยู่อาศัยตัดทิ้งได้เลย เพราะโครงการเก่ายังขายออกไม่หมดไม่ต้องหวังเรื่องโครงการใหม่ที่จะกระตุ้นยอดขาย ยารักษาโรคแม้จะสำคัญแต่ก็มีกฎหมายควบคุม ที่สำคัญคงไม่มียาอะไรสำคัญไปกว่ายารักษาโรคระบาดในเวลานี้
เสื้อผ้าและอาหารแม้จะเป็น 2 หมวดที่อยู่ในปัจจัย 4 แต่ก็เป็นตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงระดับ Red Ocean จะมีก็แต่แบรนด์ใหญ่ๆ ที่มีศักยภาพในการพัฒนาไปสู่ Blue Ocean การลงทุนในตลาดที่แข่งขันรุนแรงก็ไม่ต่างกับการเป็น “แมงเม่าบินเข้ากองไฟ” แต่ยังเหลืออีกหมวดที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคตอย่าง “พลังงานไฟฟ้า” เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องใช้ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน
ไฟฟ้าพลังงานหลักของอนาคต
จากข้อมูลหลายแห่งระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมาประเทศไทยมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตสูงถึงประมาณ 50 ล้านคน โดยในปัจจุบันมีการใช้งานอินเตอร์เน็ตเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 10.22 ชั่วโมงต่อวัน นั่นหมายความว่าไม่ว่าจะใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน ก็ต้องมีการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ยิ่งในช่วงสถานการณ์โรคระบาดที่ผ่านมาทำให้มีการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น
อีกทั้งรัฐบาลยังได้ออก “นโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ” ที่พร้อมสนับสนุนให้รถยนต์ไฟฟ้า 100% เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว หมายถึงปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าก็จะเพิ่มสูงมากขึ้นไปอีก นี่จึงชี้ให้เห็นว่าพลังงานไฟฟ้าจะกลายเป็นพลังงานหลักในอนาคต ทว่าการผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่ยังอยู่ในรูปของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอย่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้ดูแล
ซึ่งการจะขยายกำลังการผลิตไฟ้าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเริ่มก่อสร้างแล้วอีก 2-3 ได้ใช้ไฟฟ้า นั่นเพราะโรงไฟฟ้าจำเป็นต้องมีพื้นที่ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า รวมถึงการติดตั้งเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้การสร้างโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งต้องใช้ระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้า (Demand) สูงกว่าการผลิตไฟฟ้า (Supply)
เทคโนโลยีผสานพลังงานไอเดียคนรุ่นใหม่
ยิ่งไปกว่านั้นพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยส่วนใหญ่ผลิตจากก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก ซึ่งประเทศไทยนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากต่างประเทศ (ทั้งที่ไทยเคยขุดก๊าซธรรมชาติใช้เองได้ – อันนี้เราจะไม่พูดถึง) ทำให้ต้นทุนด้านพลังงานไฟฟ้าจึงแพง ขณะที่พลังงานหมุนเวียนอย่างแสงอาทิตย์กำลังเป็นที่จับตามอง แต่ก็ต้องลงทุนมหาศาลเพื่อให้สามารถได้พลังงานไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการ
นั่นทำให้โอกาสที่ทุกคนจะได้ใช้ไฟฟ้าในราคาถูกจึงเหลือเพียงน้อยนิด แต่ใช่ว่าจะหมดหวังเพราะยังมีแนวคิดใหม่ที่เปลี่ยนหลังคาบ้านให้กลายเป็นหลังคาผลิตไฟฟ้าผ่านเทคโนโลยี Solar Rooftop ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าหลักซึ่งเท่ากับลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน แต่ใช่ว่าบ้านทุกหลังจะพร้อมในการติดตั้ง Solar Rooftop จึงเกิดแนวคิดใหม่ในการขายไฟฟ้าที่ผลิตได้จากหลังคาบ้านให้กับคนที่ต้องการใช้ไฟฟ้าในราคาที่ถูกกว่าปกติ
สอดรับกับแนวคิด Energy is a Human Right “พลังงานไฟฟ้าเป็นสิทธิพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน” ที่ทาง บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เพิ่งจะเปิดตัวหน่วยงานใหม่ที่เป็นการรวมตัวของกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้านพลังงานภายใต้ชื่อ “GUNKUL SPECTRUM” ซึ่งถือเป็นหน่วยงานที่ช่วยขยายตลาดของ GUNKUL สู่ตลาดคอนซูเมอร์ (B2C) มากขึ้น หลังที่ผ่านมาเน้นธุรกิจ B2B และ B2G เป็นหลัก
GUNKUL SPECTRUM วิถีใหม่พลังงาน
พอเอ่ยถึง “สเปคตรัม (SPECTRUM)” หลายคนมักจะคุ้นชื่อนี้จากการประมูลคลื่นความถี่ แต่ SPECTRUM ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงคลื่นความถี่ แต่หมายถึงแสงที่มอบพลังงานให้เข้าถึงชีวิตคนไทยทุกคน แต่ในเชิงธุรกิจ SPECTRUM คือที่นำพาไปสู่ผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่สนใจเรื่องพลังงาน โดยเน้นความสำคัญไปที่ผลิตภัณฑ์นวัตกรรม (Product Innovation) ที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเจาะตลาดกลุ่มใหม่
คุณนฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ Head of Energy Innovation Pioneer กรรมการบริหาร / ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจและวางแผนกลยุทธ์ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) ผู้บริหารเจนเนอเรชั่นที่ 2 ชี้ว่า GUNKUL SPECTRUM จะทำหน้าที่ทลายข้อจำกัดทางพลังงานเดิมๆ ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์แหล่งพลังงานใหม่ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น
โดยทีม GUNKUL SPECTRUM มีภารกิจหลักแบ่งออกเป็น 3 แกนด้วยกัน ทั้งมในด้าน Energy Reformation ภารกิจในการทลายข้อจำกัดทางพลังงานเดิมๆ, Energy Explorer ภารกิจในการค้นหาแหล่งพลังงานใหม่ที่มีความยั่งยืน และ Ecosystem Builder ภารกิจในการสร้างระบบนิเวศของ Smart Energy
2 นวัตกรรมใหม่ด้านพลังงาน VOLT และ P2P
ด้วยแนวคิดและมุมมองแปลกใหม่ของทีม GUNKUL SPECTRUM ต่อยอดจนจกลายเป็นผลิตภัณฑ์ด้านพลังงาน ซึ่งกำลังอยู่ภายใต้การทดลองระบบ (Sandbox) ที่จัดตั้งขึ้นมาโดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กับ 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ช่วยให้ทุกคนเข้าถึงพลังงานได้ง่ายๆ พร้อมด้วยความมั่นใจภายใต้ชื่อของ GUNKUL
VOLT Energy Marketplace แพลตฟอร์มแมตช์ชิ่งที่เป็นแหล่งรวมความต้องการติดตั้งอุปกรณ์ด้านพลังงาน โดยเฉพาะการติดตั้งแผงโซลาร์เซล์ ด้วยรูปแบบจะเป็นการตัดส่วนของพ่อค้าคนกลางออกไป ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถพบปะได้โดยตรงกับผู้ขาย รวมไปถึงยังเป็นแหล่งรวมของช่างผู้ชำนาญ ช่วยให้ระบบ ecosystem สมบูรณ์แบบ
และ Peer to Peer Energy Trading Platform เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายไฟฟ้าในรูปแบบการประมูล โดยมีแนวคิดว่าช่วงกลางวันที่ไม่มีคนอยู่ที่บ้าน ระบบ Solar Rooftop ก็ยังคงผลิตไฟฟ้า แต่เป็นการผลิตไฟฟ้าเหลือทิ้งแม้จะจัดเก็บไว้แล้วก็ตาม เพื่อให้พลังงานไฟฟ้าเหลือทิ้งนั้นกลับมามีมูลค่า ผู้ผลิตสามารถนำไฟฟ้าส่วนเกินมาขายได้ โดยผู้ที่สนใจซื้อไฟฟ้าจะต้องทำการประมูล ซึ่งราคาค่าไฟฟ้าจากการซื้อผ่านระบบ P2P จะมีราคาถูกกว่าอัตราค่าไฟฟ้าทั่วไป
โดยผู้ที่ซื้อไฟฟ้าเพียงแต่มีติดตั้งสมาร์ทมิเตอร์ก็สามารถเข้าระบบรับซื้อไฟฟ้าได้ โดยในการทดสอบสามารถซื้อขายไฟฟ้าข้ามจังหวัดได้ และดูเหมือนการทดสอบจะเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งเป็นการสนับสนุนโดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.), การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
2 พันธมิตรเชื่อมต่อ ecosystem ให้สมบูรณ์
นอกจากเรื่องของการนำเสนอนวัตกรรมด้านพลังงานแล้ว GUNKUL SPECTRUM ยังมีพันธมิตรที่สำคัญในการเข้าร่วมให้ระบบ ecosystem การซื้อขายไฟฟ้าและการเข้าถึงระหว่างผู้ซื้อพบผู้ขาย สามารถทำได้อย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด และช่วยให้ทุกธุรกรรมสามารถดำเนินการผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งพันธมิตรทั้ง 2 รายประกอบไปด้วย AIS และ SCB 10X
โดย คุณอราคิน รักษ์จิตตาโภค หัวหน้าฝ่ายงานขับเคลื่อนนวัตกรรม AIS ชี้ว่า AIS มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ในการนำระบบ Mobile ID ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยี Blockchain เข้ามาสนับสนุนการทำงานของ Energy Trading Market หรือตลาดซื้อขายพลังงานเป็นครั้งแรก
ซึ่งในอนาคตจะมีโอกาสเปิดให้ประชาชนเข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนไฟฟ้าได้อย่างเสรี โดย Blockchain จะเข้ามาช่วยบริหารจัดการธุรกรรมการซื้อขายไฟฟ้าให้เกิดประสิทธิภาพ ขณะที่ผู้ซื้อหรือผู้ขายไฟฟ้าจะสามารถเชื่อมต่อเข้า Blockchain ผ่านหมายเลขโทรศัพท์มือถือหรือ Mobile ID ที่ผ่านการตรวจสอบแล้วได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย จึงช่วยสร้างความมั่นใจและน่าเชื่อถือให้ผู้บริโภค
ด้าน คุณกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร Head of Venture Builder บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด เห็นว่า การเข้ามาเป็น Collaborative Learning Partner กับ GUNKUL SPECTRUM จะสามารถร่วมสร้างธุรกิจประเภท Tech-startup หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจและสังคม โดย SCB 10X จะเป็นผู้ให้การสนับสนุนในด้านความคิด การทดลองจนไปถึงจุดที่ธุรกิจสามารถสเกลได้
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการให้การสนับสนุนด้านบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนานวัตกรรม การเข้าถึงเทคโนโลยี กลยุทธ์การนำเสนอธุรกิจสู่ตลาด หรือ Go-to Market Strategy รวมไปถึงแชร์เซอร์วิสอื่นๆ เพื่อให้นวัตกรสามารถโฟกัสการสร้างธุรกิจได้อย่างเต็มที่ และถ้าสามารถสร้างไอเดียจนสำเร็จ จนมีโอกาส spin off ออกเป็นบริษัทใหม่ที่ลงทุนร่วมกันได้ด้วยในอนาคต (Share ownership)
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนของคนที่ยังไม่รู้ว่าจะลงทุนอะไรดี เพราะการลงทุนติดตั้ง Solar Rooftop หากไม่ได้ทำการซื้อขาย ก็สามารถนำไฟฟ้าที่ผลิตได้มาใช้ในบ้าน ช่วยประหยัดการใช้ไฟฟ้าหลักได้ หรือถ้านำพลังงานไฟฟ้าไปขายก็สามารถสร้างผลกำไรกลับคืน ซึ่งอายุการใช้งาน Solar Rooftop เฉลี่ยอยู่ที่ 10-20 ปีขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา
หากทำการซื้อขายไฟฟ้าคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี นั่นหมายความว่าระยะเวลาที่เหลือนับจากนั้นคือกำไร 100% หรือถ้าติตดั้งเพื่อใช้พลังงานไฟฟ้าก็จะเป็นการใช้ไฟฟ้าฟรีจากการนำแสงอาทิตย์มาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า ช่วยให้คนไทยทุกคนเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าที่ควรเป็นสิทธิพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน
