พาไปส่อง 8 นวัตกรรมห้ามพลาด ที่ Google แจ้งเกิดบนเวที "IO 2018"

คงต้องบอกว่าปล่อยของออกมาเพียบทีเดียว สำหรับงานประจำปีอย่าง Google IO 2018 ที่เปิดเวทีโชว์นวัตกรรมล้ำๆ ตามสไตล์ Google พูดแล้วไม่เสียเวลา เราสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นบนเวทีโชว์ออฟนวัตกรรม ณ Shoreline Amphitheatre ใน Mountain View แคลิฟอร์เนีย ซึ่งเปิดเวทีด้วย Sundar PichaiCEO ของ Google ส่วนคราวนี้จะมีลูกเล่นใหม่ นวัตกรรมไฮเทคอะไรเกิดขึ้นบ้าง ขอชวนคุณดูไปพร้อมกัน…!

AI กับ Gmail โฉมใหม่

ก่อนหน้านี้เราก็เคยบอกเล่าถึงโฉมใหม่ของ Gmail ไปบ้างแล้ว (อ่านเพิ่มเติม ที่นี่) แน่นอนว่านอกจากความสะดวกในการใช้งานที่รวดเร็วขึ้น ง่ายขึ้น Gmail โฉมใหม่ยังมีการนำ AI เข้ามาใช้งานร่วมด้วย เช่น คาดเดาข้อความหรือประโยคที่คุณกำลังจะพิมพ์ เพื่อทำให้การส่งอีเมล์นั้นรวดเร็วและสะดวกขึ้น พร้อมกับความสามารถในการดึงข้อมูลสถานที่ ตารางนัดหมายต่างๆ ก็จะสะดวกขึ้นเพียงแค่ไม่กี่คลิกบนหน้าจอ

Google Photos ก็ใช้ AI

แน่นอนว่าความสามารถของ AI ถูกนำมาใช้กับฟีเจอร์ต่างๆ หลากหลาย รวมถึงแอป Photos ที่ถูกนำมาใช้วิเคราะห์ใบหน้าบนภาพถ่ายของคุณ และยังสามารถให้คำแนะนำในการปรับภาพได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะปรับแสง ปรับสีพื้นหลังของภาพ เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีการแปลงเอกสารจากภาพถ่ายให้เป็นไฟล์ PDF ได้ทันทีด้วย บอกเลยชีวิตจะสะดวกขึ้นเยอะ

Google Assistant ฉลาดขึ้น

ถือเป็นอีกหนึ่งในพระเอกของเวทีนี้ก็ว่าได้ เพราะ Google ได้ประกาศให้ผู้ช่วยอัจฉริยะนี้มาพร้อมโทนเสียงใหม่ถึง 6 แบบ ให้ผู้ใช้สามารถเลือกเสียงที่แตกต่างจากเสียงเดิมได้ (เดิมคือเสียง Holly) ส่วนเสียงที่ถือเป็นไฮไลท์ก็คือ John Legend ศิลปินดัง ซึ่งจะกลายเป็นหนึ่งในโทนเสียงของ Google Assistant ของคุณ พร้อมกับคุณสมบัติที่สามารถรับคำสั่งหลากหลายจากการสั่งในประโยคเดียว และสามารถตอบโต้กลับมาในลักษณะการพูดคุยที่คล้ายกับการสนทนาของมนุษย์มากขึ้น รวมถึงอีกไฮไลท์ที่ถูกนำเสนอบนเวทีดังกล่าว กับการโทรนัดหมายร้านรวงต่างๆ แทนคุณ! ต้องบอกว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก แต่เบื้องต้นฟีเจอร์ดังกล่าวก็ยังรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษและภาษาหลักๆ ซึ่งยังไม่รวมถึงภาษาไทย

Android P ระบบปฏิบัติการใหม่

นี่ก็เป็นอีกดาวเด่นของเวทีนี้ สำหรับ Android P ระบบปฏิบัติการใหม่ในตระกูล Android กับการใช้งานแบบไร้ปุ่มโฮมแต่เปลี่ยนเป็นการลากนิ้วขึ้นจากด้านล่างหน้าจอ พร้อมกับหน้า Dashboard คอยแจ้งว่าคุณเปิดเครื่องมานานแค่ไหนแล้ว ใช้แอปใดไปบ้าง แต่ละแอปใช้ดาต้าไปมาก-น้อยแค่ไหน เรียกว่าแจ้งรายละเอียดการใช้งานได้ละเอียดมากๆ นั่นเอง หรือแม้แต่การปรับระดับเสียง การปรับหมุนหน้าจอก็ง่ายและสะดวกขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมอินเตอร์เฟซใหม่, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น, การปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ และมีการนำเสนอการใช้งานโดยไม่ต้องรอให้ผู้ใช้กดเลือกเอง เช่น เมื่อเสียบหูฟัง ระบบก็จะถามว่าต้องการเปิดแอปฟังเพลงหรือไม่ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม Android P จะพร้อมใช้งานกับสมาร์ทโฟน Pixel และ Android One ในเร็วๆ นี้ ส่วนผู้ที่อยากทดลองใช้งานก็สามารถเข้าโครงการ Android Beta ซึ่งสามารถทดสอบระบบปฏิบัติการดังกล่าวสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ Google, Essential, Sony, Nokia เป็นต้น

Google News ช่วยกรองความน่าเชื่อถือ

ครั้งนี้ Google ปรับปรุงให้ฟีเจอร์ดังกล่าวเน้นความสำคัญที่การนำเสนอข้อมูลให้ตรงกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ และเน้นความถูกต้องน่าเชื่อถือไปพร้อมกันเพื่อป้องกันข่าวปลอมต่างๆ ซึ่งทั้งหมดถูกจัดการด้วยเทคโนโลยี AI

Google Maps ตอบโจทย์ดีขึ้น

จากเดิมที่แมปส์ใช้การระบุตำแหน่งด้วย GPS เป็นหลัก แต่ปัจจุบันคือการนำภาพมาช่วยในการแสดงแผนที่นำทางรูปแบบใหม่ ทำให้เห็นภาพจากสถานที่จริง ด้วยการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในการระบุตำแหน่งและแจ้งทิศทางที่ต้องไป ด้วยเทคโนโลยี Visual Position Systemsใช้ภาพผสานเข้ากับ Google StreetView และยังสามารถนำ AR ใส่ตัวการ์ตูนเข้าไปช่วยนำทางได้ พร้อมกับใช้ AI ช่วยวิเคราะห์เรื่องต่างๆ เช่น จำนวนผู้คนในสถานที่นั้นมาก-น้อยเพียงใด หรือแนะนำสถานที่ใหม่ๆ โดยดึงจากพฤติกรรมการใช้งานที่ผ่านมาและเลือกแนะนำสถานที่ตามความชอบส่วนบุคคล

Google Lens เทรนด์ล้ำ

ทิ้งท้ายกันด้วยฟีเจอร์ใหม่กับการนำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ภาพผ่าน Google Lens ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่หลายๆ แบรนด์สมาร์ทโฟนจะนำมาใช้กับกล้องถ่ายภาพในรุ่นใหม่จากนี้ ด้วยจุดเด่นทั้งฟีเจอร์เลือกข้อมูล ซึ่งสามารถคัดลอกจากในรูปภาพไปใช้สืบค้นข้อมูลหรือใช้ร่วมกับแอปอื่นๆ ได้ทันที หรือจะใช้โหมด Style match เพื่อค้นหารายละเอียดเสื้อผ้า หรือโหมด Real-time result เพื่อแสดงผลการค้นหาสิ่งของ หรือสถานที่ต่างๆ ภายในโหมดกล้องถ่ายภาพ เป็นต้น

httpv://www.youtube.com/watch?v=ogfYd705cRs&feature=youtu.be&t=1h17m9s&list=PLOU2XLYxmsIInFRc3M44HUTQc3b_YJ4-Y

ที่มา : MGRonline, Google Developer