หากจุดหมายปลายทางของคุณคือสถานที่สวยๆ ดีไซน์แปลกใหม่ เหมาะกับการถ่ายภาพ และเดินทางไม่ยาก.. ลองหิ้วกล้องตัวเก่งของคุณมาที่ “เกษรวิลเลจ” (Gaysorn Village) ย่านไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ใจกลางสี่แยกราชประสงค์ ที่เพิ่งปรับโฉมให้ไฉไลกว่าเดิม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับแนวคิด “Lifestyle Urban Living” ที่สามารถตอบโจทย์คนเมืองได้ทุกมิติ
ในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เกษรวิลเลจเพิ่งเปิดเฟสแรกพร้อมแนะนำ “Gaysorn Walk” เส้นทางที่เชื่อมทางเดินลอยฟ้า “Ratchaprasong Walk” ทั้งฝั่ง BTS และฝั่งประตูน้ำเข้าด้วยกัน โดยมีเกษรวิลเลจเป็นจุดศูนย์กลางในการเชื่อมต่อ ทำให้นับจากนี้ ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดแรงแค่ไหน คุณก็สามารถเดินช็อปปิ้ง ชมวิวเก๋ๆกลางกรุง หรือถ่ายภาพได้อย่างสบายใจ ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้เกษรวิลเลจได้เปรียบในเรื่องของการเดินทาง และขึ้นแท่นสู่การเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของย่านนี้
เพื่อเป็นการฉลองเปิดตัวเส้นทาง “Gaysorn Walk” เกษรวิลเลจจึงร่วมกับ LEICA (ไลก้า) จัดแคมเปญประกวดภาพถ่าย “Gaysorn Village Photo Contest” ในหัวข้อ “Delightful Moments at Gaysorn Village” (ช่วงเวลาที่น่าอภิรมย์ในเกษรวิลเลจ)
โดยผู้เข้าประกวดสามารถเลือกถ่ายพื้นที่ 4 โซนอันเป็นไฮไลท์ของเกษรวิลเลจ จะเลือกถ่ายโซนใดก็ได้ ภายใต้หัวข้อที่กำหนด งานนี้คุณจึงสามารถโชว์ฝีมือการลั่นชัตเตอร์ได้อย่างอิสระ ไม่จำกัดมุมมอง องค์ประกอบ ช่วงเวลา หรือเรื่องราวในภาพ จะมีคนหรือไม่มีคนในภาพก็ได้ จะตั้งกล้องถ่ายจากมุมไหนก็ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร หรือจะให้เห็นบางส่วนหรือทั้งหมดของโซนนั้นๆก็ได้เช่นกัน แต่โดยภาพรวมแล้วต้องสื่อให้เห็นถึงความสวยงาม มีชีวิตชีวา และความน่าอภิรมย์ของโซนที่คุณเลือกถ่าย ทั้งนี้ผู้สมัคร 1 คนสามารถส่งภาพเข้าประกวดได้สูงสุดคนละไม่เกิน 5 ภาพ (เลือกส่งภาพโซนใดเข้าประกวดก็ได้)
4 โซนไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด
1. Gaysorn North Gate (โซน A)
เมื่อคุณเดินทางมาเกษรวิลเลจโดยเริ่มต้นจาก “Ratchaprasong Walk” ฝั่งประตูน้ำ จุดแรกที่คุณจะได้พบก็คือ “North Gate” ซึ่งเป็นทางเข้าตึกใหม่ (Gaysorn Tower) อย่าลืมที่จะถ่ายภาพและ Check-in เสียหน่อย เพราะมีหลายมุมเก๋ๆให้คุณเลือกถ่าย หรือจะถ่ายกับกำแพงต้นไม้ที่สูงจากพื้นจรดเพดานก็เก๋ไปอีกแบบ
2. Gaysorn Cocoon (โซน B)
หลังจากเดินเข้าประตู North Gate และผ่าน Pop-Up Store ของแบรนด์สินค้าแฟชั่นและแอคเซสซอรี่ที่เรียงรายอยู่ระหว่างเส้นทางเกษรวอล์คแล้ว.. จุดไฮไลท์ถัดมาก็คือ “Gaysorn Cocoon” ที่ตั้งตะหง่านอยู่บริเวณโถงทางเชื่อมชั้น 2 ระหว่างศูนย์การค้าเกษรเดิมกับอาคารเกษรทาวเวอร์ ซึ่ง “Gaysorn Cocoon” ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “รังไหม” (Cocoon) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการเกิดขึ้นของสิ่งใหม่ๆ นอกจากโคคูนจะทำหน้าที่เป็นส่วนเชื่อมระหว่างสองอาคารให้กลายเป็นหนึ่งเดียวภายใต้อาณาจักร “เกษรวิลเลจ” แล้ว พื้นที่นี้ยังใช้จัดแสดงผลงานศิลปะ เป็นจุดนัดพบ หรือมุมพักผ่อน ซึ่งถ้าอยากได้ภาพที่มีบรรยากาศหลากหลาย แนะนำให้ไปหลายๆเวลา เพราะแสงเงาที่ได้ก็จะต่างกันไปตามการออกแบบที่ตั้งใจเล่นกับแสงอาทิตย์โดยเฉพาะ
3. Gaysorn Atrium Gallery (โซน C)
ถัดจากโคคูน เมื่อคุณเดินเลาะเรื่อยไปตามเส้นทางเกษรวอล์ค มุ่งหน้าสู่ประตูทางเข้า-ออกฝั่ง BTS คุณจะได้พบกับโซนที่สาม คือ “Gaysorn Atrium Gallery” ที่เป็นโถงขนาดใหญ่สำหรับจัดแสดง Installation Art ด้านบนเป็นฝ้ากระจกที่เปิดรับแสงธรรมชาติ ซึ่งโซนนี้จะมีไว้สำหรับจัดแสดงผลงานศิลปะแนว Installation Art ที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนเป็นระยะตลอดทั้งปี มีทั้งแบบแนวราบที่ตั้งกระจายตัวอยู่รอบๆ และแบบแนวดิ่งที่จัดแสดงผลงานศิลปะลอยเด่นตั้งแต่เพดานเรื่อยลงไปเกือบจรดพื้น โดยในอดีตที่ผ่านมา มักจะเป็นผลงานของศิลปินชื่อดังทั้งระดับประเทศจนถึงระดับโลก เช่น Jordy Fu, ศรัณญ อยู่คงดี, เอ็ม บุดดาเบลส และนวลตอง
4. Gaysorn Terrace (โซน D)
หลังจากผ่านโซน Gaysorn Atrium Gallery เมื่อคุณเดินเรื่อยมาจนถึงประตูทางเข้า-ออกฝั่ง BTS .. คุณจะพบกับโซนที่เรียกว่า “Gaysorn Terrace” ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่โถงหน้าร้าน “Starbucks Reserve Experience Store” จนถึงโถงด้านล่างบันไดเลื่อน และเลยไปจนถึงทางเชื่อม BTS Skywalk ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดของโซนนี้ คุณจะสามารถกดชัตเตอร์ได้แทบทุกจุด เพราะมีชิ้นงานศิลปะตั้งกระจายให้เลือกถ่าย ทั้งยังเป็นจุดที่ได้รับแสงจากธรรมชาติโดยตรงอีกด้วย
ต้องบอกว่าเส้นทาง “Gaysorn Walk” ของอาณาจักรเกษรวิลเลจ เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบงานศิลป์ และชอบการถ่ายภาพเป็นอย่างมาก เพราะในแต่ละโซนที่เรานำเสนอไป ล้วนมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ทำให้นอกจากจะได้ภาพสวยๆ กลับบ้านแล้ว ยังเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างแรงบันดาลใจ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆตามจุดมุ่งหมายของเกษรวิลเลจอีกด้วย
สำหรับคนที่กำลังลังเลว่าจะร่วมส่งภาพเข้าประกวดดีหรือไม่? บอกเลยว่าของรางวัลสำหรับผู้ชนะไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะการประกวดในครั้งนี้สนับสนุนโดย LEICA ดังนั้นรางวัลจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก กล้อง LEICA X-U กล้องคอมแพ็คท์ระดับไฮเอนด์รุ่นใหม่ล่าสุด มูลค่า 128,000 บาท ที่มาพร้อมคุณสมบัติในการกันน้ำ กันฝุ่นและกันกระแทกแบบเต็มตัว และผู้ชนะเลิศยังจะได้รับเกียรติบัตรจากเกษรวิลเลจอีกด้วย
ในส่วนของรางวัลอื่นๆ นั้น รางวัลที่สองจะได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท, รางวัลที่สาม 20,000 บาท และรางวัลชมเชย จำนวน 5 รางวัล จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท โดยทุกรางวัลจะได้รับเกียรติบัตรจากเกษรวิลเลจอีกด้วย รวมมูลค่าของรางวัลทั้งหมดกว่า 200,000 บาท
งานนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทั้งตากล้องมืออาชีพหรือมือสมัครเล่น และไม่ว่าจะใช้กล้อง DSLR กล้องคอมแพคท์ หรือกล้องมือถือ รับรองได้ว่าเมื่อเข้ามาแล้วคุณจะสนุกกับการถ่ายภาพอย่างแน่นอน
ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่นี่ พร้อมแนบใบสมัครที่กรอกข้อมูลและแสกนแล้วมาที่อีเมลล์ gvphotocontest@hotmail.com ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน – 19 พฤษภาคม 2560
ดูกติกาและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/cM6cwz