#LoveWins ชัยชนะของ LGBT กับคำถามว่าทำไมบริษัทเอเชียไม่อินกับประเด็นนี้?

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

samesex marriage

Valeri Inting คอลัมนิสต์จากเว็บไซต์ Tech in Asia ตั้งข้อสังเกตน่าคิดว่าเหตุใดบริษัทชั้นนำในแถบเอเชียหลายบริษัทจึงไม่มีความเคลื่อนไหวเกาะกระแสการผ่านกฏหมายอนุญาตให้บุคคลเพศเดียวกันสมรสกันได้ในสหรัฐ

เร็วๆ นี้ ศาลสูงสุดแห่งสหรัฐอเมริกา (SCOTUS) มีมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 5-4 ให้บุคคลเพศเดียวกันสามารถสมรสกันได้มีผลบังคับใช้ทั้ง 50 รัฐทั่วอเมริกา ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ออกแถลงการณ์สนับสนุนว่า คำตัดสินของศาลสูงสุดแห่งสหรัฐฯ ถือเป็นการประกาศชัยชนะสำหรับอเมริกา โดยชาวอเมริกันทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการปกป้องโดยเท่าเทียมกันตามกฎหมาย และทุกคนควรจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือเขาจะรักใคร

ปรากฏการณ์นี้ทำให้หลายแบรนด์ออกมาเกาะกระแส โดย Uber แอพฯ เรียกแท็กซี่เปลี่ยนให้เส้นทางที่รถยนต์วิ่งผ่านบนแผนที่ปรากฏเป็นสีรุ้งแทน ขณะที่ Facebook โซเชียลมีเดียดังนำฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนภาพโปรไฟล์ของตนเองให้มีสีรุ้งพาดทับอยู่ได้ ด้าน Twitter จะเพิ่มไอคอนหัวใจสีรุ้งเข้ามาเมื่อผู้ใช้ติด #LoveWins ลงในข้อความ

ด้าน Google ฉลองชัยด้วยการเพิ่มไฟล์ภาพเคลื่อนไหว (GIF) บนระบบ Android เป็นภาพตัวการ์ตูนโบกธงสีรุ้ง ขณะที่หากผู้ใช้ค้นหาข้อความเกี่ยวกับ LGBT พวกเขาจะเจอผลค้นหาที่เกาะสถานการณ์เช่น การแต่งงานที่เท่าเทียมกัน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม Inting ตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจว่าเหตุใดบริษัทยักษ์ใหญ่ในเอเชียมากมาย เช่น Alibaba Yamaha และอีกหลายบริษัทจึงไม่มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกระแสเหล่านี้เลย หรือพวกเขาไม่ให้ความสำคัญกับข่าวจากโลกตะวันตก หรือสิทธิของกลุ่ม LGBT ไม่เป็นปัญหาในประเทศแถบเอเชีย

หากคิดย้อนกลับไปแล้ว บริษัทในแถบเอเชียมักไม่มีปฏิกริยาโต้ตอบต่อข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางสังคมไม่ว่าจะเกิดขึ้นในมุมใดของโลก เช่น สิทธิเด็กและสตรีในอินเดีย การปิดกั้นเสรีภาพพลเมืองในไทย ประเด็นโรฮิงญาที่มีความสำคัญระดับโลก หรือประเด็นปัญหาอื่นๆ ที่มีความอ่อนไหวทางสังคมขณะที่บริษัทตะวันตกเลือกใช้สถานการณ์เหล่านี้ในการแสดงวิสัยทัศน์เพื่อกวาดคะแนนนิยมจากสาวกของตน

แล้วคุณผู้อ่านล่ะ รู้สึกอย่างไรบ้าง กลยุทธ์ของแบรนด์ตะวันตกหรือเอเชียกันแน่ที่น่าจะถูกต้อง?

Source


  •  
  •  
  •  
  •  
  •