ฟอร์ด ประเทศไทย เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จในเซ็กเมนต์รถกระบะ เปิดตัว ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นย่อยใหม่ จำนวน 6 รุ่น นำโดย ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 และ 4 รุ่นใหม่ ในกลุ่ม XL และ XLS เพื่อตอบรับกับความต้องการที่หลากหลายในการใช้งาน ในราคาที่ดีที่สุดในเซกเมนต์ มอบความคุ้มค่าและทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ต้องการเป็นเจ้าของรถกระบะยอดนิยมเปี่ยมคุณภาพระดับโลก ภายใต้สโลแกน “ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ แกร่ง…เพื่อทุกคน”
ฟอร์ด เรนเจอร์ ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถกระบะตั้งแต่เริ่มเปิดตัว ด้วยการผสมผสานสมรรถนะอันแข็งแกร่ง ความประณีต และเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ อันล้ำสมัย ฟอร์ด เรนเจอร์ มาพร้อมความประณีต สะดวกสบายระดับรถยนต์นั่ง แต่ยังโดดเด่นด้วยมาตรฐานความแกร่งสมบุกสมบัน เพื่อยกระดับประสบการณ์การครอบครองรถกระบะของลูกค้าฟอร์ด
นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า “หลังจากการเปิดตัว ฟอร์ด เรนเจอร์ ในเดือนกรกฎาคมในปีที่ผ่านมา เราได้รับการตอบรับที่ดีมากจากผู้บริโภค รวมถึงได้เห็นการเติบโตของยอดขายและส่วนแบ่งการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยฟอร์ด เรนเจอร์ ครองตำแหน่งรถฟอร์ดที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย ด้วยยอดขายใน 7 เดือนแรก สูงถึง 15,835 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่ 8.5 เปอร์เซ็นต์ เติบโตขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา”
“จากความสำเร็จดังกล่าว เราจึงเดินหน้าสร้างมาตรฐาน เพื่อยกระดับความคาดหวังของผู้บริโภคที่มีต่อรถกระบะในยุคปัจจุบัน โดยฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จำนวน 6 รุ่นนี้ จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันการเติบโตทางธุรกิจของฟอร์ด ประเทศไทย และเสริมความแข็งแกร่งของฟอร์ดในตลาดมากยิ่งขึ้น ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นสไตล์สปอร์ตและการตกแต่งระดับพรีเมี่ยมของฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 และด้วยราคาที่ดีที่สุดในเซกเมนต์ของรุ่นย่อย XL และ XLS ที่คุ้มค่า ด้วยคุณภาพตามมาตรฐานฟอร์ด เรนเจอร์ ทำให้เรามั่นใจว่าเราจะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และขยายฐานลูกค้าฟอร์ดทั่วประเทศได้มากขึ้น” นางสาวยุคนธร กล่าวเสริม
ชูราคาที่ดีที่สุดในเซกเมนต์ เพื่อเพิ่มทางเลือกมากขึ้น
ฟอร์ด เรนเจอร์ XL และ XLS รุ่นย่อยใหม่ จำนวน 4 รุ่น ได้รับการวางกลยุทธ์ เพื่อเป็นผู้นำราคาในเซ็กเมนต์ต่างๆ ในคุณภาพที่ดีที่สุดตามมาตรฐานรถกระบะเกิดมาแกร่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ และมาพร้อมสมรรถนะเครื่องยนต์อันทรงประสิทธิภาพ ได้แก่
- ฟอร์ด เรนเจอร์ XL สแตนดาร์ดแค็บ 2.2L VG Turbo 4×2 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด รถกระบะรุ่นมาตรฐานที่คุ้มค่า มอบกำลังสูงสุดถึง 150 แรงม้า และแรงบิด 375 นิวตันเมตร พร้อมฟีเจอร์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ได้แก่ ช่องเชื่อมต่อ USB และ Bluetooth ในราคา 559,000 บาท
- ฟอร์ด เรนเจอร์ XL+ โอเพ่นแค็บ 2.2L Turbo 4×2 Hi-Rider เกียร์ธรรมดา 6 สปีด รถกระบะตอนครึ่งยกสูงที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก และล้ออัลลอย 16 นิ้ว ด้วยราคาที่เป็นผู้นำในกลุ่มรถกระบะตอนครึ่ง (แบบแค็บเปิดได้) ยกสูง ที่ราคา 649,000 บาท
- ฟอร์ด เรนเจอร์ XLS โอเพ่นแค็บ 2.2L VG Turbo 4×2 Hi-Rider เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ด้วยราคาที่เป็นผู้นำในกลุ่มรถกระบะตอนครึ่งยกสูงเกียร์อัตโนมัติ ที่ราคา 739,000 บาท
- ฟอร์ด เรนเจอร์ XLS โอเพ่นแค็บ 2.2L Turbo 4×4 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ด้วยราคาที่เป็นผู้นำในกลุ่มรถกระบะตอนครึ่งขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ราคา 759,000 บาท
ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 เข้มสไตล์สปอร์ตระดับพรี่เมียม
ฟอร์ดเปิดตัว ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 ใหม่ อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อยกระดับมาตรฐานการตกแต่งระดับพรีเมี่ยม ด้วยการนำการตกแต่งเข้มสไตล์สปอร์ตกับออฟชั่นระดับพรีเมี่ยม มาสู่รถกระบะ
ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 โดดเด่นด้วยการตกแต่งเข้มสไตล์สปอร์ต ด้วยกระจังหน้าใหม่ ลวดลายตะแกรงที่สอดรับกับรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูอันแข็งแกร่ง กรอบไฟตัดหมอกสีดำ ล้อสีดำสตาร์ค เกรย์ ขนาด 18 นิ้ว เกรย์สปอร์ตบาร์แบบใหม่ และเบาะหนังสีดำดีไซน์เฉพาะ เส้นสายกราฟฟิกที่ดุดันนำเส้นสายตาสู่ฝากระโปรงอันทรงพลังของเครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค ขนาด 2.2 ลิตร ที่มอบพละกำลัง 160 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตร ส่วนด้านท้ายของตัวรถมาพร้อมกับสติ๊กเกอร์ฉลุคำว่า เรนเจอร์ ให้มองเห็นสีของตัวรถได้อย่างชัดเจน
เอกลักษณ์อันโดดเด่นท้าทายสายตาของฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 เชื่อมโยงถึงภายในห้องโดยสาร ที่มาพร้อมภายในสีเข้มยิ่งขึ้น สอดรับกับเบาะหนังสีดำดีไซน์เฉพาะด้วยโลโก้ FX4 เพื่อมอบความรู้สึกสไตล์สปอร์ตดุดัน ในระดับพรีเมี่ยม สร้างเอกลักษณ์เฉพาะให้ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4
ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 มี 4 สี ได้แก่ สีขาว คูล ไวท์ (Cool White) สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก (Aluminum Metallic) สีเทา เมเทออร์ เกรย์ (Meteor Grey) และสีดำ เจ็ท แบล็ค (Jet Black) โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่
- ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 ดับเบิ้ลแค็บ 2.2L VG Turbo FX4 4×2 Hi-Rider รุ่นเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด ราคา 884,000 บาท
- ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 ดับเบิ้ลแค็บ 2.2L VG Turbo FX4 4×2 Hi-Rider รุ่นเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ราคา 924,000 บาท
เพิ่มออฟชั่นในรุ่นปัจจุบัน
นอกจากฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ทั้ง 6 รุ่น ที่กล่าวมาแล้ว ฟอร์ด เรนเจอร์ XL โอเพ่นแค็บ 2.2L Turbo 4×2 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ยังได้รับการเพิ่มออฟชั่นให้สะดวกสบายกว่าเดิม ด้วยกระจกไฟฟ้า และปุ่มปรับกระจกข้างไฟฟ้า ช่องเชื่อมต่อ USB และ Bluetooth ในราคา 599,000 บาท เท่าเดิม
นอกจากนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค ทุกรุ่น ยังได้รับการอัพเกรดระบบการสั่งงานด้วยเสียงรุ่นล่าสุดของฟอร์ดเป็น ระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงทุกการเชื่อมต่อและควบคุมรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้ง ยังสามารถรองรับแอพพลิเคชั่น แอปเปิ้ล คาร์เพลย์ (Apple Car Play) และ Siri Eyes Free สำหรับไอโฟน รวมถึง แอนดรอยด์ ออโต้ (Android Auto) ในมือถือที่ใช้ระบบแอนดรอยด์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ขับขี่ยุคใหม่ที่ต้องการเข้าถึงทุกการเชื่อมต่อตลอดเวลา
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเลือกซื้อ ฟอร์ด เรนเจอร์ ได้ถึง 22 รุ่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ในแต่ละรูปแบบตามการใช้งาน โดยลูกค้าที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและเปรียบเทียบรายละเอียดของ ฟอร์ด เรนเจอร์ แต่ละรุ่นได้ที่ www.ford.co.th/trucks/ranger
สำหรับผู้สนใจเป็นเจ้าของรถกระบะสายพันธุ์แกร่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ 6 รุ่นนี้ สามารถเยี่ยมชมและทดลองขับได้ที่โชว์รูมฟอร์ดทั่วประเทศ พร้อมรับส่วนลดพิเศษ 45,000 บาท และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง สำหรับรุ่น STD, RAS XL+, RAS HR 4×2 AT และ RAS XLS HR 4×4 MT ส่วนรุ่น Ranger FX4 รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% ดาวน์ 25% ผ่อนนานสูงสุดถึง 48 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง เมื่อจองและออกรถภายในวันที่
30 กันยายนนี้ เท่านั้น
มุ่งมั่นยกระดับการบริการลูกค้า
เจ้าของรถฟอร์ด เรนเจอร์ สามารถมั่นใจกับการบริการของฟอร์ดตามมาตรฐาน Ford Quality Care ที่พร้อมมอบความประทับใจให้กับลูกค้า โดยฟอร์ดมอบบริการฟรีค่าแรงสำหรับการเข้ารับบริการบำรุงรักษารถตามระยะทางถึง 5 ครั้ง (45 เดือน หรือ 75,000 กิโลเมตรแรก แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
ฟอร์ดมุ่งมั่นพัฒนาประสบการณ์การให้บริการของตัวแทนจำหน่าย โดยแนวทางการพัฒนาแบบองค์รวม เพื่อตอบรับกับความต้องการและมอบความสะดวกสบายสูงสุดแก่ลูกค้าฟอร์ดทุกคน ซึ่งนอกจากการขยายเวลาการให้บริการเป็น 7 วัน ต่อสัปดาห์ ในเขตกรุงเทพมหานครและพื้นที่ปริมณฑลแล้ว ฟอร์ดยังคงเดินหน้านำเสนอการบริการหลังการขายใหม่ๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์หลังการขายสำหรับผู้บริโภค
ทั้งนี้ ฟอร์ดยังได้ขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยมีโชว์รูมและศูนย์บริการที่พร้อมให้บริการในครึ่งปีแรกแล้วจำนวน 140 แห่ง เพื่อตอบรับกับจำนวนลูกค้าฟอร์ดที่เพิ่มมากขึ้นทั่วประเทศ และช่วยผลักดันให้ฟอร์ด เรนเจอร์ สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น
“ฟอร์ดเชื่อมั่นว่าการมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ผนวกกับการบริการหลังการขายอันน่าประทับใจ จะทำให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์การบริการอันน่าพึงพอใจ และช่วยส่งผลดีให้กับการเติบโตของฟอร์ด ประเทศไทย ในระยะยาว” นางสาวยุคนธร กล่าวเสริม
ฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง
ฟอร์ดได้ลงทุนมูลค่า 186 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ที่โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ ซึ่งจะเริ่มผลิตในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ตามที่วางแผนไว้ โดยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นนี้ จะช่วยผลักดันให้ฟอร์ดสามารถส่งออกรถฟอร์ด เรนเจอร์ คุณภาพสูงที่ผลิตในประเทศไทยออกสู่ต่างประเทศ