จากตอนที่แล้วได้เล่าถึงเทรนด์ Disrupt และการทำ Startup culture การตั้งบริษัทที่มีรูป Startup รวมถึงการทำความร่วมมือกับ Startup ต่าง ๆ ขึ้นมา ในตอนนี้จะมาเล่าตอนต่อซึ่งมีผลมาจากเทรนด์ Disrupt และ Startup ที่เกิดขึ้นมานั้นคือ วัฒนธรรมและเทรนด์อีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่า Maker ซึ่งกำลังเป็นที่เกิดขึ้นแะลแพร่หลายในต่างประเทศ และในไทยเองก็มี Maker Club หลาย ๆ ที่เกิดขึ้นมา แต่เทรนด์นี้คืออะไร มีผลต่อธุรกิจและการตลาดอย่างไร
ก่อนอื่นเลยวัฒนธรรม Maker หรือเทรนด์ Maker นั้นเป็นแนวความคิดที่ต่อยอดมาจากเรื่องวัฒนธรรม DIY หรือ Do it yourself อย่างที่เรารู้จักกัน Maker นั้นเกิดจากการเอาวัฒนธรรม Do it Yourself หรือ DIY นั้นมาใส่เทคโนโลยีหรือสร้างสรรค์ความสามารถเพิ่มขึ้นด้วยเทคโนโลยีต่อไปขึ้นมา จนมาในยุคปัจจุบันที่เมื่อเทคโนโลยีนั้นเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและอินเทอร์เนตเข้ามาทำให้วัฒนธรรม Maker นั้นเกิดบูมขึ้นมาโดยทันที โดยทั่วไปแล้ววัฒนธรรม Maker นั้นจะต่างจาก Innovator ซึ่ง Innovator นั้นจะหมายถึงนักนวัตกรรมที่สร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์หรือนวัตกรรมต่าง ๆ ขึ้นมา จากไม่มีอะไรเลย จนกลายเป็นสิ่งประดิษฐ์หรือสิ่งของขึ้นมาได้ ส่วน Maker นั้นเป็นการเอาสิ่งที่มีอยู่แล้ว มาดัดแปลง ปรับปรุงหรือต่อยอดเพิ่มเข้าไปเพิ่มขึ้น
วัฒนธรรมและเทรนด์ Maker นี้ขึ้นมาเป็นกระแสอย่างมากใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ด้วยการที่เครื่องมือที่เรียกว่า 3D Printing นั้นมีออกมามากมายหลายรุ่นและหลายราคา ทำให้คนทั่วไปสามารถจับต้องได้ และสร้างสรรค์ความคิดออกมาได้มากมาย ประกอบการมีเครื่องมืออื่น ๆ เช่นแผงวงจรอย่าง Makey Makey ออกมา หรือเว็บ Kickstarter ออกมา ทำให้นวัตกรรมความคิดหรือการต่อยอดความคิดนั้นได้ีับการสนับสนุนมากมาย และมีโครงการหรือไอเดียความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากวัฒนธรรมหรือเทรนด์ Maker จำนวนมาก ด้วยวัฒนธรรมและเทรนด์ของ Maker ที่เข้ามา และเป็นแนวคิดเดียวกับ Startup หรือ disrupt ที่เข้ามาแก้ไข หรือสร้างวิธีการทำให้ชีวิตดีขึ้นด้วยอุปกรณ์นวัตกรรมต่าง ๆ ทำให้ความนิยมของ Maker นั้นพุ่งสุงขึ้น จนเรามีนวัตกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้นมามาย
httpv://youtu.be/qJuTM0Y7U1k
httpv://youtu.be/rfQqh7iCcOU
ด้วยแนวคิดและเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั้ง Startup และ Maker นี่ทำให้หลาย ๆ agency และบริษัทนั้นมองข้ามไม่ได้ เพราะด้วยการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนที่ไม่เหมือนกันในแต่ละคนในยุคนี้ได้ เช่น Levi’s นั้นไปจับกับกลุ่ม Fabrication Makers ทำกางเกงยีนส์รุ่นพิเศษออกมา หรือ GE เองนั้นก็ทำโครงการที่เรียกว่า Garage Envy ร่วมกับ Quirky ในการสร้างสรรค์อุปกรณ์เพื่อทำให้บ้านนั้นฉลาดขึ้นหรือที่เราเรียกว่า Smart home นั้นเอง
httpv://vimeo.com/73705160
ในวงการครีเอทีฟ การตลาดและโฆษณานั้นเราได้เห็นวัฒนธรรม startup และ Maker หรือ innovative มาตั้งแต่ปี 2013 จนถึงปี 2015 นี้ ผ่านทางงาน ประกาศผลรางวัลความคิดสร้างสรรค์ที่ฝรั่งเศสหรืองาน Cannes Lions International Festival of Creativity นั้นเอง ที่มีรางวัลในหมวดที่เรียกว่า Innovation Lions ที่ให้รางวัลความคิดสร้างสรรค์ที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่อยอดออกมา ทำให้เราได้เห็นการใช้งานด้านนวัตกรรม 3D Printing หรือเรื่อง Maker ในงานไอเดียและการตลาด
httpv://www.youtube.com/watch?v=KD0AC43fc_4
และเมื่อ 3D Printing ในต่างประเทศเป็นเรื่องทั่วไป ทำให้เราสามารถเห็นการสร้างห้อง Maker หรือ Innivation Lab ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากใน agency ต่างประเทศ ขึ้นมา เช่นที่ Barbarian Group นั้นมีห้องที่เอาไว้สร้างสรรค์งานนวัตกรรมหรือ prototype งานโฆษณาชิ้นต่าง เพื่อเอาเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์มานำเสนอลูกค้า หรือ DBLG นั้นก็เอา Maker มาสร้างชิ้นงานหรือเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ต้นแบบไอเดียเพื่อนำเสนอลูกค้าเช่นกัน
httpv://vimeo.com/86594803
นอกจากนี้เทรนด์ Maker นี้ยังทำให้เกิดการประกวดผลงานหรือชิ้นงานในหมู่ครีเอทีฟเอง อย่างเช่นที่ Grey NewYork นั้นจะมีงาน Makerday ที่จะประกวดผลงานของครีเอทีฟที่ออฟฟิส เพื่อนำเสนอให้ลูกค้าตัวเองอย่างโรงแรม hilton และแขกที่พักตัดสินว่า นวัตกรรม Maker ใดที่จะถูกใช้ต่อไปที่โรงแรม และใน Grey Newyork นั้นยังมีแผนกภายในที่ชื่อ Distillery ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Grey initiative โดยหน่วยงานนี้มีหน้าที่มานำเสนอนวัตกรรมหรือไอเดีย Maker เจ๋ง ๆ มานำเสนอที่บริษัทในทุก ๆ เดือน เพื่อนำมาปรับแต่งและใช้กับงานครีเอทีฟต่าง ๆ ต่อไป
ในงาน Cannes Lions International Festival of Creativity ปี 2015นี้เทรนด์ Maker และ Innovation Lab นั้นทำให้บริษัทอย่าง R/GA นั้นได้รางวัลมากมาย และ Chief Growth Officer Barry Wacksman ได้ออกมาให้เคล็ดลับความสำเร็จในการได้รางวัลของตัวเองจากการใช้ทั้งเทรนด์ Maker และ Startup เข้าด้วยกัน ซึ่งมีเคล็ดลับง่าย ๆ 4 ข้อดังนี้
- ลงทุนในการทำ R&D ก่อนลงทุนในเรื่องอื่น ๆ ซึ่งหลาย ๆ Agency นั้นไม่ได้ใส่ใจเรื่องตรงนี้และมองข้ามการ R&D ไป และหวังแต่จะใช้งานความคิดสร้างสรรค์อย่างเดียว โดยมองข้ามเรื่องข้อมูลและนวัตกรรมไป และเมื่อจะทำหน่วยงาน R&D ภายใน จงมองแผนกนี้เป็นเหมือนเครื่องจักรขับเคลื่อนที่ไม่หวังผลเรื่องเงิน แต่ผลของจากหน่วยงานนี้อาจทำเงินได้ ซึ่งเมื่อปราศจากเรื่องรายได้มากดดัน จะทำให้หน่วยงาน R&D นี้สามารถทำงานได้อย่างมีความคิดสร้างสรรค์และได้ผลงานดี ๆ ได้
- โฟกัสในลูกค้ามากกว่าเพ้อฝัน การทำให้หน่วยงาน Innovation labs หรือ Maker labs นี้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือการตั้งโจทย์ของหน่วยงานนี้กับประเภทธุรกิจลูกค้าที่มี เพื่อไม่ให้ทำงานที่หลุดนอกกรอบ หรือหลุดแกนธุรกิจของออฟฟิสที่เป็นออกไป การสร้างสรรค์งานนวัตกรรมที่ทำให้ลูกค้าหรือธรุกิจลูกค้านั้นดีขึ้น จะทำให้ธุรกิจนั้นได้มีความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า
- สัมพันธ์เพื่อดึงคนเก่งมา เมื่อตั้ง Innovation labs หรือ Maker Labs นั้น agency กำลังทำหน่วยงานที่ไม่คุ้นหรือไม่มีความเชี่ยวชาญ และมีธุรกิจที่ทำเรื่องพวกนี้โดยเฉพาะและมีประสบการณ์มากกว่ามากมาย ทั้งพร้อมที่จะกระโจนกลับมาทำนวัตกรรมเพื่อการตลาดอีกตั้งหาก เพราะฉะนั้นการมีความสัมพันธ์หรือเชื่อมสัมพันธ์กับมหาวิทยาลัย บริษัทที่สร้างสรรค์เทคโนโลยี และหน่วยบ่มเพาะธุรกิจ หรือโรงงาน จะทำให้คุณนั้นสามารถหาคนเก่ง ๆ มาร่วมทางกับคุณได้
- ให้หาแหล่งลงทุน ดีกว่าใช้เงินลงทุนของเราเอง จริง ๆ แล้วในตลาดนั้นมีหลาย ๆ VC มากมายที่พร้อมจะลงทุนในอนาคตถ้าโครงการของคุณนั้นดีจริง ดังที่เห็นจากการตั้ง startup ร่วมกันระหว่างแบรนด์ และ startup ใหม่ ๆ หรือการที่ Startup จับมือ agency ตั้งแผนกใหม่ขึ้นมา และมีเงินลงทุนเข้าไป จากงาน Cannes Lions ครั้งล่าสุดนั้น เราได้เห็นการที่ Agency หลาย ๆ ที่ตั้ง Startup เพื่อทำ Innovation Labs นี้ขึ้นมาอย่างเดียวหรือเปลี่ยนบริษัทเพื่อเป็น Innovation Labs ขึ้นมา เช่น OgilvyOne
httpv://www.youtube.com/watch?v=BNzF3mklU9Q
ด้วยวัฒนธรรมหรือเทรนด์ทั้ง Startup และ Maker หรือ Innovations Labs ที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้โลกของการตลาดนั้นไม่มีรูปแบบตายตัวอีกต่อไป การเข้าใจความต้องการของมนุษย์และตอบความต้องการของมนุษย์ด้วยนวัตกรรมนั้นกลายเป็นสิ่งสำคัญขึ้นมา ตอนนี่ในเมืองไทยเองก็มี Maker clubในหลาย ๆ ที่และเรามีหน่วยงาน Startups ซึ่งแน่นอนว่าเทรนด์นี้ยังไงธุรกิจและการตลาดคงหนีไม่พ้น แต่จะมีใครที่จะเริ่มก่อนแค่นั้นไหมเอง