“โค้ก” เครื่องดื่มน้ำอัดลมที่ได้เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยมากกว่า 50 ปี โดยมี “ขวดแก้ว” เป็นรูปแบบแรกที่นำร่องเข้ามา กลายมาเป็นบรรจุภัณฑ์สุดคลาสสิกที่คนไทยคุ้นเคย จะไปร้านอาหารไหนๆ ก็ต้องเจอโค้กขวดแก้วเป็นของคู่กัน ชวนให้รู้สึกซาบซ่า สดชื่นได้ตลอดเวลา ซึ่งรู้มั้ยคะ นอกจากโค้กขวดแก้วจะเข้ามาในประเทศไทยมานานแล้ว “โค้กขวดแก้ว” ที่เรารู้จัก วันนี้มีอายุถึง 100 ปีแล้วนะ แถมยังมีเรื่องราวน่าทึ่งหลายเรื่องที่เราไม่เคยรู้มาก่อนอีกด้วย ว่าแล้วเรามาชมกันดีกว่า
5 ประสาทสัมผัสของการดื่มโค้กขวดแก้ว
เริ่มกันที่ใช้มือสัมผัสที่รูปทรงโค้งเว้า (Contour Shape) ที่กลางขวด อีกมือเปิดฝาขวด หูก็ได้ยินเสียงซาบซ่าของน้ำอัดลม จมูกก็ได้กลิ่นหอมๆ ของโคล่า ตาก็มองเห็นน้ำอัดลมที่เราโปรด และเมื่อยกขึ้นดื่ม ปากก็ได้ลิ้มรสชาติเย็นชื่นใจของโค้กขวดแก้ว
และถึงแม้ว่าคุณจะทำโค้กขวดแก้วแตก แต่รูปลักษณ์ที่เพอร์เฟ็กต์ของโค้กขวดแก้ว ก็จะทำให้คุณลืมได้ไม่ลง คุณจะรู้ได้ว่าเศษเสี้ยวของแก้วที่แตกนั้น มันคือ “โค้กขวดแก้ว” อยู่ดี ซึ่งนับจากวันที่โค้กขวดแก้วถือกำเนิดขึ้น วันนี้ก็เป็นเวลา 100 ปีแล้ว ที่ครองใจทุกคนทั่วโลกกันมา รวมทั้งชาวไทยด้วยเช่นกัน
นิทรรศการโค้ก พาย้อนชมประวัติ “โค้กขวดแก้ว” กับ 100 ปี ที่ผ่านมา
อากาศร้อนๆ แดดเผา เราก็เย็นชื่นใจได้ ถ้าได้ดื่มโค้กขวดแก้วเย็นๆ สักขวด
เพื่อนฝูงสังสรรค์ ไม่ต้องพึ่งแอลกอฮอลล์ สนุกสนานได้ ถ้าได้ดื่มโค้กขวดแก้วเย็นๆ สักขวด
เหนื่อย เครียดเพราะคิดงานไม่ออก ก็คลายเครียด รู้สึกดีขึ้นได้ ถ้าได้ดื่มโค้กขวดแก้วเย็นๆ สักนิดชีวิตมีความสุขขึ้นได้ เพียงแค่ดื่ม “โค้กขวดแก้ว” ที่เย็นชื่นใจ
“โค้กขวดแก้ว” จึงไม่ได้เป็นเพียงน้ำอัดลมธรรมดาที่เรารู้จัก แต่ถือว่ามีคุณค่าทางจิตใจกับผู้บริโภคได้อีกด้วย และนอกจากนี้ ยังเป็นแรงบันดาลใจสำหรับรังสรรค์ผลงานศิลปะ ให้กับศิลปินชื่อดังมากมาย จนกลายเป็นผลงานศิลปะที่โด่งดังทั่วโลก
ดังนั้น จึงไม่แปลกใจที่ “โค้ก” จะฉลองครบรอบวันเกิด 100 ปีของโค้กขวดแก้วอย่างยิ่งใหญ่ จัดเป็นงานนิทรรศการระดับโลกอย่าง ‘The Coca-Cola Bottle Art Tour’ ขึ้นในหลายประเทศชั้นนำของโลก ซึ่งแต่ละประเทศเป็นตลาดที่สำคัญของโค้กทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ เม็กซิโก อิตาลี แอฟริกาใต้ บราซิล อาร์เจนตินา ญี่ปุ่น และปิดท้ายที่ประเทศไทยของเรา จัดขึ้นที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการแสดงคำขอบคุณ และให้แฟนๆ โค้ก ได้ชมผลงานศิลปะสุดสร้างสรรค์จากศิลปินชื่อดังมากมาย อาทิ ผลงานของ Andy Warhol, Norman Rockwell, Eduardo Paolozzi, Steve Kaufman, Burton Morris, Michael Kalish, Bernd Hotzel, Haddon Sundblom, Steve Penley, Jeff Schaller, Jean Wells, Sally Tharp รวมถึงศิลปินไทยอย่าง “ภาคภูมิ ศิลาพันธ์” ศิลปินป๊อปอาร์ตแถวหน้าของไทยด้วย
นอกจากได้ชมผลงานศิลปะของศิลปินชื่อดังจากทั่วโลกในนิทรรศการนี้กันแล้ว “โค้ก” ยังทำให้เราได้มีโอกาสกลายเป็นฟองอากาศที่ซาบซ่าในโค้กขวดแก้วได้อย่างไฮเทค และได้ย้อนชมประวัติความเป็นมาของโค้กขวดแก้วกันอย่างละเอียดอีกด้วย…
“ความผิดพลาด” อาจเป็นที่มาของความสมบูรณ์ที่สุดของโค้กขวดแก้ว
ในนิทรรศการ ‘The Coca-Cola Bottle Art Tour’ จากโค้ก ได้บอกเล่าประวัติความเป็นมาของโค้กขวดแก้วให้เราทราบกันด้วย ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1899 นั้น โค้กขวดแก้ว มีรูปทรงแบบ Hutchison ต่อมาได้เปลี่ยนรูปทรงมาเป็นทรง Crown Top Straight Sided Bottle ในปี ค.ศ.1900 ซึ่งทั้งสองรูปทรง ยังคงเป็นโค้กขวดแก้วที่ไม่ได้มีความเว้าโค้งบริเวณตรงกลางขวดเหมือนเช่นในทุกวันนี้
แต่ด้วยความโค้กได้รับความนิยมมากในช่วงต้นปี ค.ศ. 1900 ส่งผลให้คู่แข่งลอกเลียนสัญลักษณ์ทางการค้าของโค้ก เพื่อยุติความสับสนดังกล่าว อันไหนของจริง อันไหนของปลอม โค้กจึงได้ตั้งโจทย์ให้ 8 โรงงานผลิตขวดแก้ว ออกแบบขวดโค้กรูปทรงใหม่ขึ้น โดยที่ต้องมีความโดดเด่น และ ถึงจะแตกที่พื้น อย่างไรก็ต้องทราบว่านั่นคือโค้ก กลายเป็นโจทย์ให้แต่ละทีมของโรงงานผลิตขวดแก้วต้องคิดหนัก และด้วยความผิดพลาดบางประการ ทำให้ทีมของ The Root Glass Company เข้าใจผิดคิดว่าการที่โคคา-โคล่า (Coca-Cola) นั้นมีรสชาติอร่อยติดใจคนทั่วโลกได้ มีส่วนผสมมาจากโกโก้ (Cocoa) ด้วยความที่คำว่า Coca-Cola กับ Cocao นั้นออกเสียงใกล้เคียงกัน จึงคิดว่าเป็นเคล็ดลับความอร่อยของเครื่องดื่มโคคาโคล่านี้ ทำให้เกิดเป็นการดีไซน์รูปแบบขวดโค้กขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1915 โดยใช้แรงบันดาลใจมาจากเมล็ดโกโก้ ที่ดูโค้งเว้าเหมือนเมล็ดในบริเวณตรงกลางขวด กลายมาเป็นรูปทรงโค้กขวดแก้วสุดพิเศษที่สมบูรณ์แบบที่สุด ดังเช่นทุกวันนี้ที่เราหยิบออกมาจากตู้เย็น แล้วดื่มมันอยู่ทุกวัน
แต่อย่าได้ลืมว่าที่จริงแล้ว Cocoa isn’t Coca-Cola!
และตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 2015 นี้ โค้กขวดแก้ว ก็มีรูปทรงลักษณะนี้มาโดยตลอด กลายเป็นเอกลักษณ์ที่โค้กคงไว้ โดยแค่เปลี่ยนแปลงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของขวดเพิ่มเติมเท่านั้น และวันนี้โค้กขวดแก้วก็มีอายุถึง 100 ปีกันแล้ว…
ว่าแล้วเรามาเฉลิมฉลองให้กับ “โค้กขวดแก้ว” ที่ครองใจมานาน ด้วยการไปหาโค้กขวดแก้วเย็นๆ สักขวด มาดื่ม เติมความสุขให้กับชีวิตกันดีกว่า :)
