ใครจะนึกว่า สงคราม Digital Banking จะเดินมาถึงจุดที่ดุเดือดเพียงนี้! จากอานิสงส์ของเทคโนโลยี ที่ส่งผลให้ความต้องการและพฤติกรรมใช้งานของคนไทยเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน กลายเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ภาคการเงินรีบขยับตัวสู่ความเป็นดิจิทัล ไม่ว่าจะออกโปรโมชั่น บริการใหม่ การทำตลาด หรือแม้แต่พัฒนาช่องทางเข้าถึงผู้บริโภค ก็ต้องตรงใจตรงความต้องการ ไม่ใช่แค่เรื่องของการสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์เพียงอย่างเดียว
ไม่ว่าจะเรียก e-Banking หรือ Mobile Banking กระทั่ง Internet Banking แต่ศักยภาพในการตอบสนองการใช้งาน ที่ผู้บริโภคคาดหวังก็คือ บทบาทที่มากกว่าการเป็นช่องทางทำธุรกรรมออนไลน์ของธนาคาร ต้องสามารถสะท้อนภาพการเป็น Digital Banking ได้ครบวงจร จึงไม่น่าแปลกใจที่วันนี้ แอปพลิเคชั่นของสถาบันการเงินต่างๆ จะถูกแต่งองค์ทรงเครื่อง เพื่อให้เป็นได้มากกว่าที่เคย! ไม่ใช่การกดเพื่อถอนเงิน โอนเงิน หรือชำระบิลต่าง ๆ
แต่นาทีนี้ ไม่เฉพาะเจาะจงแค่สายการเงินที่ปรับตัวเข้าหาผู้บริโภค เพราะทุกธุรกิจ ทุกอุตสาหกรรม ต่างพากันกระโจนใส่เทคโนโลยี ยิ่งย้ำชัดว่าหมดยุคตั้งรับรอการเปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนผ่านใด ๆ ทั้งสิ้น แต่สถานการณ์ที่พิสูจน์แนวทางดังกล่าวได้ชัดเจน ก็คือ การปรับตัวของสถาบันการเงินทั้งเล็ก-ใหญ่ หรือแม้แต่ธนาคารระดับโลกอย่าง ซิตี้แบงก์ ที่ลุกขึ้นมาย้ำทฤษฎี “ปลาเร็วกินปลาช้า” หากองค์กรใหญ่ไม่ปรับตัวก็คงไม่ทันเกมองค์กรเล็ก ทำให้ภาพการดึงเทคโนโลยีมานำเสนอช่องทางให้บริการได้ตรงความต้องการ ตอบไลฟ์สไตล์ยุค 4.0 ดิจิทัล ซึ่งต้องการเครื่องมือที่ทำได้ทุกอย่างดังใจ ผ่านการปรับโฉมแอปพลิเคชั่นสำหรับลูกค้าบัตรเครดิตของซิตี้
พิสูจน์ภาพ Digital Banking ครบวงจร เพื่อผู้ใช้บัตรเครดิต
บทบาทใหม่ที่ซิตี้แบงก์ใช้พิสูจน์ภาพการก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว ไม่ใช่แค่ภารกิจที่ซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เริ่มเดินหมาก แต่เป็นก้าวใหญ่ครั้งสำคัญที่ทำเพื่อลูกค้ากว่า 1 ล้านรายในประเทศไทย และลูกค้ากว่า 200 ล้านราย ในอีก 160 ประเทศที่ซิตี้ให้บริการ ด้วยการเปิดตัว Citi Mobile Application ด้วยรูปแบบ Global Platform ซึ่งหมายความว่าการพัฒนาแอปโฉมใหม่ในครั้งนี้
ตอบโจทย์ครบ “ง่าย เร็ว ปลอดภัย” หัวใจหลักธนาคารยุค 4.0
แน่นอนว่าในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นแต่ละครั้ง โฉมใหม่ต้องสามารถตอบสนองการใช้งานได้ครอบคลุม ชนิดที่เรียกว่าสร้างปรากฏการณ์ใหม่แก่ผู้ใช้งานได้ดังใจ แต่สิ่งที่ Citi Mobile Application ยกมาตอบโจทย์ลูกค้านั้น คือแนวคิด Freedom to do more ที่สะท้อนความง่าย รวดเร็ว และปลอดภัย เป็นหัวใจหลักในการใช้งาน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้ ที่ลูกค้าจะสามารถจัดการการใช้บัตรซิตี้ได้เอง และแน่นอนว่าต้องรวมถึงการใช้งานได้ทั่วโลกภายใต้คำที่ซิตี้ย้ำอยู่เสมอว่า ประสบการณ์เดียวกันทั่วโลก แถมสิ่งที่ซิตี้แบงก์หยิบมาเพิ่มเติมและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งาน ยังเป็นการสะท้อนปัญหาและความชื่นชอบจากลูกค้าตัวจริง ซึ่งทางซิตี้แบงก์มีการทำสำรวจความพึงพอใจจากผู้ใช้งานอยู่แล้ว และเมื่อกระแสนิยม Mobile Banking เพิ่มขึ้น จากการเข้ามาของพร้อมเพย์และสงครามยกเลิกค่าธรรมเนียมธุรกรรมออนไลน์ ซิตี้ยิ่งรุกหนักช่องทางดังกล่าวจนตกผลึกเป็นโฉมใหม่ของ Citi Mobile Application เพื่อเติมเต็มการใช้งานลูกค้าบัตรเครดิตได้ตั้งแต่การจัดการบัตร สิทธิประโยชน์ และบริการด้านต่าง ๆ
ไม่ใช่แค่แอปฯ แต่เป้าหมายคือ Ecosystem ตอบสนองทุกความต้องการ
หากไม่นับเรื่องการพัฒนาฟีเจอร์การใช้งานแอปพลิเคชั่นเพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้งานของลูกค้าบัตรเครดิต อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจของ Citi Mobile Application ก็คือ บริการแลกคะแนนสะสมบัตรเครดิตผ่านระบบดิจิทัล ด้วยเทคโนโลยี API ฟังดูอาจเป็นเรื่องเล็ก ๆ กับการกดแลกคะแนนสะสมผ่านแอป แต่ในความเป็นจริง…ถือเป็นมิติใหม่ของลูกค้าบัตรเครดิตที่จะไม่ต้องใช้การโทรติดต่อ Call Center เพื่อใช้บริการแลกคะแนนสะสม เรื่องนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า Citi Mobile Application กำลังจะพาลูกค้าของซิตี้แบงก์ก้าวสู่การเป็น Digital Banking ได้อย่างไร
พาร์ทเนอร์ที่ซิตี้แบงก์ร่วมมือและพร้อมนำสิทธิพิเศษมามอบเพื่อมัดใจลูกค้า ล้วนเป็นพาร์ทเนอร์ชั้นนำ อาทิ การแลกคะแนนสะสมเป็นคูปองเงินสดและส่วนลดผ่าน Citi LINE Connect ซึ่งจะมีการทำโปรโมชั่นของรางวัลสับเปลี่ยนไปในช่วงเวลาต่าง ๆ หรือ แลกคะแนนสะสมเพื่อใช้จ่ายผ่าน SAMSUNG Pay โดยความร่วมมือนี้ทำให้ซิตี้แบงก์กลายเป็นธนาคารแห่งแรกในประเทศไทยที่เปิดให้ลูกค้า SAMSUNG Pay สามารถเลือกใช้คะแนนสะสมบัตรเครดิตในการชำระแทนเงินสดทันทีหลังทำรายการ และการใช้คะแนนสะสมแลกเป็น BIG Points รับไมล์จาก AirAsia ผ่านแอปพลิเคชั่นของ AirAsia แบบเรียลไทม์ สร้างความสะดวกแบบ Seamless ให้ลูกค้าซิตี้แบงก์ ซึ่งสามารถทำได้ทันทีระหว่างจัดการจองตั๋วเครื่องบินผ่านแอปพลิเคชั่นของ AirAsia เรียกว่าการจับมือกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำแต่ละราย ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ซิตี้ตั้งใจนำมาเติมเต็มไลฟ์สไตล์ลูกค้า ที่อาจชื่นชอบและต้องการรับสิทธิ์แตกต่างกันไปในแต่ละไลฟ์สไตล์อีกด้วย
Citi World Privileges ย้ำแนวคิดประสบการณ์เดียวกัน…มีได้ทั่วโลก!
อย่างที่บอก ว่าซิตี้แบงก์ให้ความสำคัญกับการใช้งานด้วยประสบการณ์แบบเดียวกันทั่วโลก จึงมีการมอบสิทธิประโยชน์แบบที่เรียกว่า Citi World Privileges ผ่าน www.citiworldprivileges.com เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ถือบัตรเครดิตซิตี้ สามารถค้นหาสิทธิประโยชน์จากทั่วโลกผ่านมือถือ รวมถึงร้านค้าใกล้พื้นที่ที่ผู้ถือบัตรอยู่ ด้วยเทคโนโลยี Geolocation ที่จะช่วยระบุพิกัดและส่วนลดต่าง ๆ ทั้งจากร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก รวมกว่า 11,000 แห่ง ใน 90 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจะแสดงผลเป็นแผนที่และ Location แก่ผู้ถือบัตรเครดิตซิตี้ เพื่อเติมเต็มความต้องการได้ทุกไลฟ์สไตล์แม้แต่ระหว่างเดินทางอยู่ในต่างประเทศ
ทุกฟีเจอร์ยกเครื่องใหม่ เพื่อผู้ใช้บัตรเครดิต
แม้ในช่วงแรก ซิตี้แบงก์จะพัฒนา Citi Mobile Application เพื่อรองรับการใช้งานลูกค้ากลุ่มบัตรเครดิตเป็นหลัก แต่ในอีก 3-4 เดือนจากนี้ จะมีการขยายฟังก์ชันการใช้งานสู่กลุ่มลูกค้าอื่น เช่น รีเทลและแบงก์กิ้ง
นอกจากฟีเจอร์ที่ถูกพัฒนาให้ตอบโจทย์การจัดการบัตรเครดิตผ่านแอปพลิเคชั่นได้ดีกว่าที่เคย การออกแบบการใช้งานก็ผ่านการดีไซน์มาแล้วว่าเหมาะกับการใช้งานบนมือถือ ภายใต้จุดเด่นที่สำคัญ ๆ ซึ่งมีทั้งการนำเทคโนโลยี AI และ QR code มาอำนวยความสะดวกและดูแลเรื่องความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บัตรเครดิตซิตี้ โดยจุดเด่นของ Citi Mobile Application ได้แก่…
มุมมองบัญชีบัตรเครดิตแบบใหม่: สามารถรวมทุกบัตรเครดิตที่มีเข้าไปในแอปพลิเคชั่น เพื่อสะดวกในการตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ เช่น ยอดใช้จ่าย วงเงินคงเหลือ คะแนนสะสม ยอดเงินที่ต้องชำระ โดยลูกค้าจะเห็นรายการใช้จ่ายได้ทั้งหมดภายในหน้าเดียว ขณะเดียวกันก็สามารถค้นหารายการใช้จ่ายย้อนหลังได้จากการพิมพ์คีย์เวิร์ดที่ต้องการค้นหา และดูใบแจ้งยอดบัญชีย้อนหลังได้ถึง 12 เดือน หรือแม้แต่การเปิดใช้บัตรใหม่ผ่านแอปพลิเคชั่นก็สามารถทำได้
ชำระเงินค่าบัตรเครดิตง่ายขึ้น: เนื่องจาก Citi Mobile Application มีเทคโนโลยี QR code จึงทำให้ลูกค้าสามารถทำรายการได้โดยไม่ต้องพกใบแจ้งยอดบัญชี ซึ่ง QR code ดังกล่าวสามารถใช้ทำรายการชำระเงินผ่านพร้อมเพย์ของธนาคารที่เข้าร่วม หรือใช้เพื่อชำระเงินที่จุดรับชำระบัตรเครดิตต่าง ๆ
แบ่งยอดชำระ จัดการการใช้จ่าย: เป็นฟีเจอร์เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้บริหารจัดการการใช้จ่าย ด้วยการเลือกแบ่งชำระรายเดือน ทั้งยังสามารถทำรายการเงินสดสั่งออนไลน์ที่เปลี่ยนวงเงินบัตรเครดิตเป็นเงินสด พร้อมโอนเข้าบัญชีธนาคารได้ตามที่ลูกค้าระบุ ทุกขั้นตอนทำได้ผ่านแอปพลิเคชั่นทันทีไม่ต้องยุ่งยากกับงานเอกสาร
ความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก: ส่วนนี้เป็นการเติมเต็มการใช้งานด้วยเทคโนโลยี AI โดยช่วยให้ลูกค้าสามารถสั่งระงับการใช้บัตรชั่วคราวได้เมื่อบัตรหาย และสามารถเปิดใช้งานได้เองทุกที่ ทุกเวลา โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะจัดเก็บข้อมูลการใช้งานของลูกค้าเป็นประจำ ทำให้สามารถวิเคราะห์ได้ว่ายอดใช้จ่ายที่เกิดขึ้นนั้นมีความเสี่ยงจะเป็นการแอบอ้างใช้บัตรเครดิตหรือไม่ ขณะเดียวกัน Citi Mobile Application ยังมีฟีเจอร์เปลี่ยนรหัสเอทีเอ็มผ่านแอป โดยไม่ต้องหาตู้เอทีเอ็ม หรือติดต่อ Call Center เพื่อทำรายการเหมือนในอดีต และยังคงรักษาความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากระบบจะมีการส่งแจ้งเตือนและรายการใช้บัตรที่น่าสงสัยผ่าน SMS ไปยังเลขหมายที่ลูกค้าแจ้งไว้ เพื่อให้ทำการยืนยันรายการ
อัดหนักโปรโมชั่น สร้างแรงกระเพื่อม เพิ่มลูกค้า
นอกเหนือจากเทคโนโลยีที่กล่าวไปแล้ว ซิตี้แบงก์ยังถือเป็นธนาคารแรกในประเทศไทยที่ผ่านการทดสอบ Regulatory Sandbox หรือ การทดสอบและพัฒนานวัตกรรมทางการเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้ลูกค้าซิตี้สามารถใช้งาน Citi Mobile Application แทนบัตรเครดิตได้โดยไม่ต้องพกบัตร ผ่านสถานที่และร้านค้าที่ร่วมรายการ อาทิ เดอะมอลล์กรุ๊ป, เซ็นทรัล, เมเจอร์ซิเนเพล็กซ์ และอื่น ๆ ซึ่งทางซิตี้แบงก์ยังได้จัดโปรโมชั่นเพื่อส่งเสริมการใช้งานได้อย่างน่าสนใจ เช่น เครดิตเงินคืน 120 บาท สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการสแกนและจ่ายด้วยบัตรเครดิตซิตี้เป็นครั้งแรกด้วยยอดใช้จ่ายขั้นต่ำ 300 บาทต่อเซลล์สลิป พร้อมสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น C-250 มูลค่ากว่า 3.62 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่ทำรายการผ่านบัตรเครดิตซิตี้ วีซ่า
