เวลาที่ “แบรนด์” พาตัวเองขึ้นไปฮิตติดลมบนแล้ว สิ่งที่ยากที่สุด ไม่ใช่แค่ “การรักษา” ทั้งตำแหน่งและภาพลักษณ์ในช่วงประสบความสำเร็จ แต่กลับอยู่ที่ “ความท้าทาย” ว่าจะทำอย่างไร เพื่อไม่ทำแบรนด์ยึดติดอยู่กับสิ่งเดิมที่เคยพาไปสู่จุดสูงสุดดังที่เคยผ่านมา ต้องทำอย่างไรให้แบรนด์ไม่เดินเกมแบบทะนุถนอมธุรกิจ – โปรดักท์ โดยลืมไปว่าผู้บริโภคล้วนชื่นชอบสีสัน และมองหาความแปลกใหม่อยู่เสมอ
จาก “เม็ดไข่มุก” สู่ “เทรนด์สุขภาพ” รถด่วนขบวนใหญ่ ที่ไม่มีใครอยากตกเทรนด์!
ยกตัวอย่างสมรภูมิ “เครื่องดื่ม” กับเมนูที่ชาวเอเชียคลั่งไคล้ ไม่ว่าจะเป็นชา กาแฟ ใส่เม็ดไข่มุก ต้องยอมรับว่าเครื่องดื่มลักษณะนี้แข่งขันกันอย่างดุเดือด ถือเป็นกรณีศึกษาในตลาด Red Ocean ของจริง เพราะไม่ว่าจะแบรนด์ใหญ่ แบรนด์เล็ก ล้วนพากันชิงพื้นที่สร้างแบรนด์ให้ตัวเอง ไม่ใช่แค่เสิร์ฟเครื่องดื่มแก่ลูกค้า แต่ต้องเสิร์ฟชื่อของแบรนด์สร้างการรับรู้ ชิงความโดดเด่นด้วยเครื่องดื่มหน้าตาดี รสชาติเด็ด พ่วงด้วยโปรโมชันกับสารพัดพาร์ทเนอร์เพื่อดึงดูดลูกค้า กระทั่ง กระโจนเข้าสู่เทรนด์ฮิตต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงใจลูกค้าทุกกลุ่ม ตั้งแต่…คนที่ถูกใจรสชาติแล้วและไม่อยากลุ้นกับแบรนด์ใหม่ คนที่ไม่ชอบเสี่ยงกับเงื่อนไขโปรโมชัน หรือแม้แต่คนที่เกาะกระแสชอบลองเมนูอินเทรนด์
มีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2023 ตลาดชาไข่มุกทั่วโลกจะมีมูลค่าถึง100,000 ล้านบาท
ขณะที่ ตัวเลขปี 2018 ในประเทศไทย มีมูลค่าราว 2,500 ล้านบาท
ดังนั้น การที่แบรนด์เครื่องดื่มประเภทนี้พยายามข้ามความเสี่ยงด้วยเมนูใหม่ ทั้งหน้าตาใหม่ ๆ รสชาติใหม่ ๆ ทั้งการเพิ่มเม็ดไข่มุกเข้าไป หรือการลดความหวานเพื่อตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ ล้วนถือเป็นความพยายามในการทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่า นอกจากความอร่อยแล้วแบรนด์ยังเป็น “ทางเลือก” ที่ดี เมื่อพวกเขารู้สึกกระหายหรืออยากดื่มอะไรที่อร่อยถูกใจในเวลาเดียวกัน และเมื่อสถานการณ์ตลาดเครื่องดื่มในตอนนี้ ยังคงอยู่ที่ “ไข่มุก” และ “เทรนด์สุขภาพ” จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นหลาย ๆ แบรนด์ พากันเติมเม็ดเหนียวนุ่มเคี้ยวหนึบหนับลงไปในแก้วเครื่องดื่ม แต่ก็พยายามสรรหาเมนูหวานน้อยมาปลอบประโลมใจคนรักสุขภาพไปพร้อมกันด้วย
ไม่ทำเพราะ “เทรนด์” แต่ต้องตอบโจทย์ “ไลฟ์สไตล์” ผู้บริโภคได้
นอกจากคนไทยจะรู้จัก “ชาตรามือ” ในฐานะผู้ผลิตชาแบรนด์เก่าแก่อายุเกือบ 100 ปี กระทั่งสร้างชื่อเสียงและเขย่าภาพลักษณ์ของใบชาแห้งบรรจุกระป๋อง สู่แบรนด์เครื่องดื่มยุคใหม่ที่รสชาติโดนใจ ยกตัวอย่างเช่นเมนูชากุหลาบ เมนูที่สร้างปรากฏการณ์ความนิยมอย่างล้นหลามเนื่องจากมีกระแสตอบรับว่าดื่มแล้วขับถ่ายคล่อง โดนใจผู้บริโภคไปเต็มๆ หรือแม้แต่ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟชาไทย และชาอื่นๆ ที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายขึ้น ไปสู่การมีท็อปปิ้งต่างๆ เช่น ไข่มุกมรกต ให้ผู้ที่มองหาสีสันในเครื่องดื่มได้มีตัวเลือก แต่ชาตรามือยังมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นยิ่งกว่า คือเรื่อง “ความคุ้มค่า ราคาเป็นมิตร” เมื่อเทียบกับเครื่องดื่มประเภทเดียวกันที่เป็นอินเตอร์แบรนด์ นั่นยิ่งดันให้ชาตรามือติดทำเนียบแบรนด์เครื่องดื่มขวัญใจคนไทยได้ไม่ยาก ทั้งยังกลายเป็นเมนูที่นักท่องเที่ยวต้องลอง! โดยเฉพาะชาวต่างชาติเมื่อเดินทางมาเยือนไทยต้องไม่พลาดลิ้มลองเมนูชาเข้มข้น หอมอร่อยจากแบรนด์นี้
หากสะท้อนความสำเร็จที่ชาตรามือทำไว้ในเชิงการสร้างแบรนด์นั้น โจทย์ดังกล่าวถือว่าสอบผ่านได้สบาย แต่ในแง่ความท้าทายที่แบรนด์พยายามพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดนิ่งนั้น ต้องถือว่า…ได้รับแต้มคะแนนมากขึ้นทุกวัน เพราะแม้จะแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายในเวลาอันรวดเร็ว ชาตรามือยังต่อยอดด้วย “ไพ่ใบใหม่” อย่างต่อเนื่อง โดยเกาะกระแสสุขภาพด้วยเมนูชื่อแปลกที่เรียกว่า “ชาไทย 1 ศูนย์ 2 ต่ำ” ไม่ใช่แค่การเอาใจผู้บริโภคที่ชื่นชอบเครื่องดื่มชาใส่ไข่มุก แต่ยังเป็นการขยายตลาดไปหาลูกค้าใหม่ ๆ ที่ใส่ใจดูแลสุขภาพ ให้มีทางเลือกด้วยเครื่องดื่มที่ไม่ใส่น้ำตาลทรายและนมข้นหวาน
ขยายไอเดียแหวกแนว “1 ศูนย์ 2 ต่ำ” กระแทกใจผู้บริโภค
แนวคิดในการเสิร์ฟเครื่องดื่มรสชาติเข้มข้น ที่ต้องหอมชา หวานมันด้วยน้ำตาลและนมข้นหวาน อย่างชานมนั้น แน่นอนว่าชาตรามือให้รสชาติที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ความอร่อยของแบรนด์มาได้ดีโดยตลอด แต่เมื่อแบรนด์เกิดปิ๊งไอเดียเมนูสำหรับคนรักสุขภาพแล้ว ชาไทย 1 ศูนย์ 2 ต่ำ จึงตอบโจทย์ความหอม หวาน เข้มข้น ด้วยการตัดน้ำตาลทรายให้เป็น 0% แคลอรี่ต่ำ ไขมันต่ำ และยังคงจุดเด่นเรื่องราคาเข้าถึงง่าย เพียง 50 บาท หรือ 55 บาทเมื่อเพิ่มมุกบุกเข้าไป
“ทางเลือกสุขภาพ” ความท้าทายของเมนู “ชานมไข่มุก”
ไม่ใช่แค่การผสมเครื่องดื่มสูตรใหม่ที่เป็นทางเลือกแก่ลูกค้า แต่แบรนด์ยังดำเนินการอย่างจริงจังกระทั่งผ่านการรับรองสัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ” กลุ่มเครื่องดื่ม จากการพิจารณาของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมีปริมาณไขมันและน้ำตาลผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนด ยังไม่รวมถึงปริมาณแคลอรี่ต่อแก้ว (ขนาด 22 ออนซ์) ที่ให้พลังงานโดยประมาณเพียง 125kcal เท่านั้น ถือว่าเป็นเครื่องดื่มรสหวานแต่แคลอรี่ต่ำที่น่าสนใจเมนูหนึ่งสำหรับคนรักสุขภาพที่อยากลิ้มลองชานม และนอกจากไม่ใส่น้ำตาลทรายและนมข้นหวานเป็นส่วนผสมแล้ว ชาไทย 1 ศูนย์ 2 ต่ำ ยังนำนมสดฮอกไกโดที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นมาเป็นวัตถุดิบพิเศษเพื่อเพิ่มความอร่อยให้กับเมนูทางเลือกสุขภาพนี้ พร้อมกับมีมุกบุกรสธรรมชาติเป็นท้อปปิ้งพรีเมี่ยมเอาใจคนห่วงสุขภาพกันเต็มที่ เพราะมุกบุกดังกล่าวให้ความหวานน้อยกว่าและมีแคลอรี่ต่ำกว่าไข่มุกโดยทั่วไป ทำให้เมนูดังกล่าวกลายเป็นเครื่องดื่มที่ถูกคอชาไทย ถูกใจคนรักสุขภาพ
และเมื่อกลยุทธ์การทำตลาดของชาตรามือไม่ได้หยุดอยู่กับเทรนด์ฮิตเพียงอย่างเดียว เมนูทางเลือกสุขภาพที่จะเปิดตัวในอนาคต จึงถูกวางแผนไว้เป็นซีรีส์! เพื่อต่อยอดตัวเลือกแก่ผู้บริโภค ทั้งชานมอัสสัม 1 ศูนย์ 2 ต่ำ, ชาเขียวนม 1 ศูนย์ 2 ต่ำ, ชากุหลาบนม 1 ศูนย์ 2 ต่ำ, กาแฟสด 1 ศูนย์ 2 ต่ำ และเมนูอื่นๆ ซึ่งคาดว่าแบรนด์เตรียมทยอยเปิดตัวสู่ตลาดในเร็ว ๆ นี้ หลังจากส่งชาไทย 1 ศูนย์ 2 ต่ำ ออกไปลุยตลาดสร้างเรทติ้งก่อนแล้ว
ขณะเดียวกัน แบรนด์ยังใส่เอกลักษณ์ให้ผู้คนจดจำมากกว่าแค่ความแปลกและความเข้มข้นของเมนู ด้วยการดีไซน์ที่ครอบแก้วแบบพิเศษ เพื่อใช้กับเครื่องดื่มซีรีย์ 1 ศูนย์ 2 ต่ำ อีกด้วย เพื่อสะท้อนถึงการเป็นเครื่องดื่มแนวคิดใหม่
เมื่อ “ดิจิทัล” ยังเป็น “ลมหายใจ” ของการทำตลาด
ต้องยอมรับว่าผู้คนยังใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คและสื่อออนไลน์ เป็นเสมือนลมหายใจ แน่นอนว่าชาตรามือก็ยังให้ความสำคัญกับเกมนี้เต็มกำลัง เราจึงได้เห็นช่องทางทำตลาดและสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านออนไลน์อย่างเต็มที่ ตั้งแต่เว็บไซต์ , Facebook , Instagram , LINE , Twitter หรือแม้แต่ YouTube โดยไม่ใช่แค่การใช้เครื่องมือเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าที่เสพสื่อดิจิทัลอยู่ตลอดเวลา แต่ยังเป็นช่องทางอัพเดทความเคลื่อนไหวของแบรนด์และการทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง แจ้งข่าวสารเมนูใหม่และโปรโมชันต่างๆ เช่นเดียวกับที่สามารถตรวจสอบสาขาทั่วประเทศ ที่จำหน่ายชาไทย 1 ศูนย์ 2 ต่ำ และเมนูอื่น ๆ ในซีรี่ส์ทางเลือกสุขภาพได้ ที่นี่
