“เซ็นทรัล” ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ขานรับมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 2 พร้อมเปิดให้บริการภายใต้มาตรการด้านสุขอนามัย โดยให้ความสำคัญกับการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ภายใต้กลยุทธ์ “Center of New Normal Life” ศูนย์กลางการใช้วิถีชีวิตใหม่อย่างปลอดภัย พร้อมนำเทคโนโลยีนวัตกรรมรูปแบบใหม่เข้ามาช่วยสร้างความปลอดภัย
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา, เซ็นทรัลเฟสติวัล, เซ็นทรัล ภูเก็ต และ เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่เอาท์เล็ตแห่งแรกของไทย เปิดแผน “พลังไทยช่วยไทย Reunite Thailand Together” ช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ ชวนคนไทยอุดหนุนสินค้าไทยจากชุมชน และผู้ประกอบการในประเทศ ชู 3 กลยุทธ์ เสริมสร้างความเชื่อมั่น ขับเคลื่อนธุรกิจร่วมกัน สร้างเศรษฐกิจไทยช่วยไทย
พร้อมเปิดให้บริการ “ศูนย์การค้าเซ็นทรัล” ทั้ง 33 สาขาทั่วประเทศ เพื่อเป็น “Center of New Normal Life” ศูนย์กลางการใช้วิถีชีวิตใหม่อย่างปลอดภัย และเปิดตัว New Normal Innovation จากร้านค้าในศูนย์ฯ พร้อมประกาศช่วยลดค่าเช่าร้านค้าต่อเนื่องไปอีก 3-6 เดือน คาดว่าจะมีลูกค้ากลับเข้าศูนย์ฯ ในช่วงแรก 25%-40% มั่นใจคุมความหนาแน่นของผู้ใช้บริการได้
เตรียมหนุนร้านค้าจัด Clearance Sales ช่วยระบายสต็อก พร้อมเปิดตลาดพื้นที่ขายสินค้าฟรีรวมกว่า 40,000 ตร.ม. ทั้งตลาดเกษตรกร, SMEs ท้องถิ่น, ตลาดคนว่างงาน, เปิดท้ายขายของ สร้างเงินสะพัดหมุนเวียนในชุมชน ช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยเดินหน้าต่อไปอย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ทั้ง 33 สาขาทั่วประเทศ พร้อมคุมเข้มมาตรการ “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” ด้วยการรณรงค์ให้ทุกคนมีวินัยในการใช้ชีวิตแบบ New Normal ด้วยการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอลล์ และสแกนเข้า-ออกจากศูนย์การค้าด้วยแอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” หรือ LINE @centralLife หรือแอพพลิเคชั่น The 1 โดยแนะนำให้ลูกค้าใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงภายในศูนย์การค้า
ด้าน ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ชี้ว่า สำหรับเซ็นทรัลพัฒนามีการเตรียมความพร้อม สร้างความมั่นใจด้วยมาตรการความสะอาดปลอดภัยในเชิงรุกมาตั้งแต่เริ่มต้นสถานการณ์ อีกทั้งยังเป็นผู้นำสร้างบรรทัดฐานตอบรับ New Normal และยินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นทุกภาคส่วนพร้อมใจกันนำไปปฏิบัติในวงกว้าง
ซึ่งเซ็นทรัลได้ดำเนินแผนงานฟื้นฟูประเทศ (Reunite Thailand Together) พลังไทยช่วยไทย ด้วย 3 กลยุทธ์หลัก ที่เน้นกระตุ้นเศรษฐกิจทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ด้วยการเป็น “Center of New Normal Life” ศูนย์กลางการใช้วิถีชีวิตใหม่อย่างปลอดภัย และร่วมแรงร่วมใจกันกับคนไทยให้ประเทศเดินหน้าต่อไป
โดยกลยุทธ์แรก Reassure Confidence เสริมสร้างความเชื่อมั่น ในการใช้ชีวิตของประชาชน เน้นศูนย์การค้าไม่เพียงดูแลลูกค้าภายในศูนย์ฯ เท่านั้น แต่ต้องดูแลตลอดเวลา โดยมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในส่วนของศูนย์ฯ เช่น Touchless Lift ลิฟต์ไร้สัมผัสที่เริ่มนำร่องไปแล้วที่เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสวิลล์, เครื่อง UV-C เช็ดบันไดเลื่อน, ตู้ UV-C ทำความสะอาดถุงสินค้า ร่วมด้วยพันธมิตรต่างๆ เช่น หุ่นยนต์วัดอุณหภูมิจาก AIS, หุ่นยนต์ ฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV-C ของ Central Food Hall & Tops, Uniqlo มีเครื่อง UV-C ทำความสะอาดเสื้อผ้าหลังลองสินค้า และ Sephora มีบริการ Find my shade ทดลองเครื่องสำอาง เป็นต้น
กลยุทธ์ต่อมา Reopen Business ขับเคลื่อนธุรกิจร่วมกัน รักษาความเติบโตต่อเนื่องของธุรกิจ โดยไม่เลิกจ้างพนักงาน CPN และเดินหน้าลงทุนระยะยาวอย่างต่อเนื่องด้วยงบลงทุนกว่า 15,000-20,000 ล้านบาทต่อปี รวมถึงดูแลคู่ค้าร้านค้าให้สามารถฟื้นตัวและพร้อมที่จะกลับมามีรายได้ โดยมีการดูแลเรื่องค่าเช่าต่อเนื่องไปอีก 3-6 เดือนเพื่อช่วยให้กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง
นอกจากนี้ยังเสริมความแข็งแกร่งของ Omnichannel ที่เริ่มให้บริการ New Normal Lifestyle เช่น One Call x One Click โทร. 02-021-9999 และ LINE: @CentralLife, บริการ Drive Thru, บริการ Central Eats ร่วมกับ Grab Food, บริการ Food Delivery & Food Pick Up Counter และบริการล่าสุด CentralLife: Chat & Shop เหมือนช้อปด้วยตัวเองจากเซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นทรัล วิลเลจ
กลยุทธ์สุดท้าย Rebuild Economy สร้างเศรษฐกิจไทยช่วยไทย ด้วยการสร้างงาน สร้างรายได้ สนับสนุนคนไทยอุดหนุนคนไทย โดยตั้งเป้าเปิดพื้นที่ฟรีให้เกษตรกรและ SME รายย่อยทั่วประเทศ รวมกว่า 40,000 ตร.ม. ต่อเนื่อง 3-6 เดือน เช่น ตลาดผลไม้รวมใจ ที่ช่วยเกษตรกรผลไม้ส่งออกให้มีช่องทางกระจายสินค้า และสนับสนุนร้านค้าจัด Clearance Sales ช่วยให้ลูกค้าได้เลือกซื้อสินค้าในราคาถูก รวมถึงการตรึงราคาสินค้าและลดราคาอาหารในศูนย์อาหารของเรา เพื่อช่วยลดค่าครองชีพอีกด้วย
ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ทั้ง 33 สาขาทั่วประเทศ เปิดให้บริการแล้ววันนี้ วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 11.00-20.00 น. วันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-20.00 น.