ในยุคที่มนุษย์หันมาให้ความสำคัญกับการใช้ “ชีวิตบนโลกออนไลน์” แทบทุกกิจกรรมต้องมีบริการพร้อมตอบโจทย์ ตอบสนองความต้องการได้ง่ายๆ จากปลายนิ้วกดผ่านสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ ยิ่งทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเดินหน้า เพื่อนำอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ เข้าถึงคนไทยทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่ทันยุค IoT ที่เชื่อมโยงโลกทั้งใบผ่านสมาร์ทดีไวซ์ แต่หมายถึง “การขยายโอกาส” และ “เติมเต็มศักยภาพ” เพื่อการใช้ชีวิต
หากไม่นับภารกิจของเหล่าโอเปอเรเตอร์ ในการขยายเครือข่ายมือถือและอินเทอร์เน็ตให้เข้าถึงทุกพื้นที่ทั่วประเทศ สิ่งที่เราควรหยุดมองและพิจารณาความสำคัญ มากกว่าเรื่องคนไทยลงทะเบียนซิมการ์ดมากกว่า 120 ล้านเลขหมาย ขณะที่จำนวนประชากรมีไม่ถึง 70 ล้านคน หรือแม้แต่ตัวเลขการลงทะเบียนใช้งานโซเชียลมีเดีย และชั่วโมงการใช้อินเทอร์เน็ตต่อวันที่ไทยแลนด์ 4.0 ก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของโลก ก็คือประโยชน์ของเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้เพื่อ “ยกระดับชีวิตและสังคม” และไม่ใช่แค่การทำกิจกรรม CSR ระยะสั้น แบบจบโครงการแล้วผ่านไป แต่เป็นการพิจารณาและปลูกฝังแนวคิด วางพื้นฐานทางเทคโนโลยีระยะยาวสู่ “ชีวิตใหม่” ที่มีคุณภาพของคนไทยล่ะ เรามีภาพจำโครงการใดผุดขึ้นในหัวบ้างหรือไม่
หนึ่งโครงการที่เรานึกถึง ด้วยความประทับใจหลังจากมีโอกาสรู้จัก “CAT Digital Come Together” ทำให้ภาพที่มีต่อ CAT หรือ กสท โทรคมนาคม ในยุค IoT ที่อินเทอร์เน็ตมีศักยภาพในการเชื่อมโยงและช่วยควบคุมอุปกรณ์ผ่านเครือข่ายเด่นชัดขึ้น มากกว่าแค่ประโยชน์ด้านการสื่อสาร ขณะเดียวกัน ก็เปลี่ยนบทบาทของ CAT Telecom จากผู้เชื่อมโยงการสื่อสารของไทย สู่บทบาท “ผู้นำเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาสังคม” คู่ขนานกันไป!
ก้าวที่ยิ่งใหญ่ ต่อยอด IoT พลิกโฉมเกษตรกรรม
สิ่งที่ CAT สะท้อนประโยชน์ของ IoT สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคม คือโครงการ CAT Digital Come Together ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้กับด้านเกษตรกรรม ผ่านภูมิปัญญาและความเชี่ยวชาญของบุคลากรในหน่วยงาน CAT ซึ่งกลายเป็นวิทยากร และเป็นผู้เปลี่ยนวิถีชีวิตคนในชุมชนให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยดูแลพืชผลทางการเกษตร ด้วยการพัฒนาวิธีปั้มน้ำเพื่อรดน้ำพืชผลโดยอัตโนมัติ แทนการเดินไปเปิด-ปิดปั้มน้ำซึ่งต้องสิ้นเปลืองแรงงานโดยไม่จำเป็น รวมถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
การทำงานของระบบ IoT ช่วยรดน้ำ ได้เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของครู นักเรียน และบุคลากร โรงเรียนเทศบาล 3 บ้านต่ำบุญศิริ จังหวัดนครนายก จากที่เคยมีปัญหาใช้น้ำปริมาณมากส่งผลกระทบให้สิ้นเปลืองค่าน้ำเป็นจำนวนมากต่อเดือน สู่การวางท่อน้ำให้เหมาะสมกับพื้นที่ปลูกพืชของโรงเรียน พร้อมกับใช้เทคโนโลยีเพื่อวางระบบวัดอุณหภูมิความชุ่มชื้นในดินและแจ้งผลผ่านมือถือ เพื่อสั่งการและควบคุมระบบปล่อยน้ำเพื่อรดน้ำแก่พืชผลโดยอัตโนมัติ แม้ระบบดังกล่าวอาจดูเรียบง่าย แต่สามารถใช้งานเพื่อตอบสนองความต้องการได้อย่างแท้จริง ช่วยประหยัดเวลาและแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ และอาจเป็นต้นแบบไอเดียในการต่อยอดสู่ความไฮเทคอื่นๆ ที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต
ส่วนประโยชน์ในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ก็เปรียบเป็นผลพลอยได้จากการที่ IoT เข้ามาลดเวลาในการดูแล รดน้ำพืชผล ทำให้ผู้คนในชุมชนมีแรงและเวลาในการนำผลผลิตมาคิดค้นและแปรรูปเป็นสินค้าต่างๆ สร้างรายได้เสริมแก่ครอบครัว
สะท้อนปัญหาจากพื้นที่จริง สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
ขณะเดียวกัน การนำเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตเข้ามาใช้งานร่วมกันผ่านรูปแบบ IoT เพื่อเกษตรกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุด จำเป็นต้องมีการลงพื้นที่เพื่อรับทราบและเห็นปัญหาจริง ก่อนจะนำมาประเมินหาขั้นตอนที่เหมาะสมในการแก้ไข ซึ่งบุคลากรจาก CAT ที่ได้รับฟังปัญหาและลงพื้นที่จริงก็ยึดถือและปฏิบัติตามแนวคิดดังกล่าว ทำให้สามารถเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง โดยเฉพาะปัญหาการเสียแรงงานและความเสี่ยงในการถูกสัตว์มีพิษทำอันตรายจากการเดินผ่านดงหญ้าเพื่อรดน้ำพืชผล
ทั้งหมด ยิ่งตอกย้ำว่าแนวคิดระบบ IoT รดน้ำอัตโนมัติ คือ ตัวอย่างในการประยุกต์เทคโนโลยีเข้ากับปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นปัญหาที่ยังไม่เคยมีผู้เชี่ยวชาญหรือหน่วยงานที่มีเทคโนโลยี เข้ามาดูแล ให้คำแนะนำ หรือช่วยคลี่คลาย สะท้อนถึงความสำเร็จในการใช้อินเทอร์เน็ตและเปลี่ยนบทบาทจากช่องทางสื่อสาร-ค้นหาข้อมูล สู่ประโยชน์ในการพัฒนาแนวคิด พัฒนาคุณภาพชีวิต หรือแม้แต่พัฒนาเกษตรกรรมสู่วิถีใหม่
ขยายโอกาส สร้างประโยชน์จากชุมชน สังคม สู่ประเทศ
ปัจจุบันโครงการ CAT Digital Come Together ได้สร้างองค์ความรู้ให้โรงเรียน กระจายไปยังชุมชน สู่คนในครอบครัว และจุดประกายความคิดเพื่อต่อยอดสู่สิ่งที่ดีขึ้น ภายใต้เป้าหมายของ CAT ที่มุ่งหวังให้เกิดประโยชน์และพัฒนาสู่สังคม สู่การสร้างอาชีพและความสำเร็จของคนไทย ควบคู่กับการใช้ชีวิตอย่างสุจริต พอเพียง และสามารถช่วยเหลือสังคมได้ต่อไป
แม้ว่าบทบาทของ CAT Telecom จะเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคม แต่ก็ยังมีบทบาทด้านอื่น เช่น ผู้ส่งต่อเทคโนโลยีและองค์ความรู้ผ่านโครงการ CAT Digital Come Together กับภารกิจในการเน้นย้ำและปลูกฝังความรู้ทางเทคโนโลยีแก่เยาวชน ซึ่งจะกลายเป็นอนาคตของชาติ เป็นผู้นำครอบครัว ชุมชน หรือสังคม ที่สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตโดยเฉพาะเกษตรกรรมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล สู่ประโยชน์ระยะยาวของประเทศไทย