[บทความนี้เป็น Advertorial]
“โรงรับจำนำ” สถานที่ที่อยู่คู่สังคมไทยมาช้านาน โดยเฉพาะช่วงใกล้เปิดเทอมที่พ่อแม่ต่างขวนขวายหาของมีค่าเท่าที่จะหาได้ไปเปลี่ยนเป็นเงิน แล้วเดินออกมาพร้อมนิ้วโป้งสีดำเลอะหมึก ถึงขนาดที่บางคนกล่าวติดตลกร้ายว่า เข้าโรงรับจำนำจนลายนิ้วมือเลือนหาย นั่นคือภาพลักษณ์เดิมๆ ของโรงรับจำนำสถานที่ที่เป็นเสมือนทางออกของปัญหาทางการเงิน เมื่อได้เวลาเปิดเทอม
ปัจจุบันภาพลักษณ์ของโรงรับจำนำเหล่านั้นกำลังจะเลือนหายไปด้วยรูปแบบการจัดการแบบดิจิทัลที่ให้ความน่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้ ที่สำคัญง่ายกว่ารูปแบบโรงรับจำนำเดิม เพราะแต่เดิมภาพลักษณ์ของคนที่เข้าโรงรับจำนำคือคนที่ต้องหาทางออกในการใช้เงินเมื่อยามขัดสน สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือการ “จำนำ” ไม่ใช่การ “ขายขาด” ดังนั้นหลายคนที่เข้าโรงรับจำนำเพื่อต้องการนำเงินไปใช้จ่ายก่อนจะนำเงินมารับของกลับไป
ซึ่งโรงรับจำนำยุคใหม่อย่าง Cash Express เตรียมสลัดภาพโรงรับจำนำเดิมทิ้งไป เพราะชูภาพลักษณ์ใหม่เป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน อยากลงทุนแต่ขาดเงินทุนอีกนิดหน่อย ก็มาแปลงทรัพย์สินให้เป็นทุน หรือเงินขาดมือก็เปลี่ยนทรัพย์ให้เป็นเงิน เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน แม้แต่ร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการกู้เงินมาลงทุนแต่ไม่มีสลิปเงินเดือน ก็สามารถนำทรัพย์สินมาเปลี่ยนเป็นทุนเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้
httpv://youtu.be/_g4ekWAs57I
โดย Cash Express เตรียมสื่อสารผ่านรูปแบบภาพยนตร์โฆษณาทางออนไลน์ที่ชี้ให้เห็นว่า การใช้บริการโรงรับจำนำที่ใช้ระบบดิจิทัลในการดำเนินงาน สะดวกสบายแค่ไหน ซึ่งในภาพยนตร์โฆษณาจะชี้ให้เห็น Pain Point ของ 3 กลุ่มคนที่ต้องการใช้เงินทั้งคนทำงานทั่วไปที่เงินใช้ไม่ถึงเดือน กลุ่มนักธุรกิจที่ต้องการเงินหมุนและกลุ่มผู้ค้าออนไลน์ ที่ต้องการกู้เงินมาลงทุน แต่ติดที่ไม่มีเครดิต ไม่มีสลิปเงินเดือนกู้ก็ไม่ผ่าน
สำหรับภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้จะใช้เพลงประกอบที่อธิบายถึงการแปลงทรัพย์สินให้กลายเป็นเงิน ตั้งแต่ทอง, เพชร หรือแม้แต่นาฬิกาที่ปัจจุบันมีมูลค่าสูงขึ้น นอกจากนี้ในภาพยนตร์ยังแสดงให้เห็นว่าการนำทรัพย์สินมาจำนำที่ Cash Express ง่าย สะดวก รวดเร็วและที่สำคัญใช้การสแกนลายนิ้วมือแทนการพิมพ์ลายนิ้วมือด้วยหมึกพิมพ์สีดำ นอกจากนี้มีการใช้สีสันและความทันสมัยอย่างเช่น การใช้สีส้ม สีน้ำเงินเพื่อให้เกิดสีสัน และการใช้กระจกใสเพื่อลดทอนความน่ากลัวของโรงรับจำนำ เพื่อให้ดูโมเดิร์นทันสมัยกว่าอาคารสีทึมๆ
หรือการปรับเปลี่ยนยูนิฟอร์มของพนักงานที่โรงรับจำนำ รวมไปถึงชื่อ Cash express ที่ทำให้ภาพลักษณ์ทันสมัยไม่เหมือนรูปแบบโรงรับจำนำแบบเดิม และด้วยการทำงานในระบบดิจิทัล ระบบการจัดการและระบบข้อมูล จึงมีความปลอดภัย ลดปัญหาทรัพย์สินสูญหาย ที่สำคัญยังโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ทั้งอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาจำนำ เป็นต้น
อีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะแชร์จากประสบการณ์การเข้าโรงรับจำนำ นั่นคือโรงรับจำนำรูปแบบเดิมจะมองเห็นทรัพย์สินประเภททองและเครื่องประดับเพชรพลอยมีมูลค่า แต่ปัจจุบันนาฬิกาบางเรือนมีมูลค่าไม่น้อยกว่าทองคำหรือเครื่องประดับราคาแพง หากแต่โรงรับจำนำเดิมจะตีมูลค่านาฬิกาบางเรือนเป็นแค่นาฬิกาไม่ใช่เครื่องประดับ ซึ่งรูปแบบโรงรับจำนำทันสมัยอย่าง Cash Express สามารถประเมินราคามูลค่าสินค้าได้อย่างสมราคาและมีมูลค่าตามราคาความต้องการของตลาดมากกว่า
และเพื่อความสะดวกสบายในการใช้บริการ Cash Express จึงมีสาขามากมายครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลถึง 11 สาขา โดยแบ่งเป็น 6 โซนต่อไปนี้
โซนในเมือง: ไท้เส็งหลี(หัวลำโพง), ประตูน้ำ
โซนบางนา: อุดมสุข, ลาดกระบัง-อ่อนนุช
โซนรามอินทรา: วัชรพล, คู้บอน
โซนนนทบุรี: กรุงเทพนนท์, ติวานนท์, ประชานนทบุรี(ถนนพิบูลสงคราม)
โซนปากเกร็ด: เมืองทองนนทบุรี
โซนรังสิต: รังสิต-เลียบคลอง3
ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ผ่านช่องทางออนไลน์ Website, Facebook, LINE, Instagram
[บทความนี้เป็น Advertorial]