หนึ่งในสินทรัพย์ที่มีผู้คนนิยมนำไปจำนำแลกเป็นเงิน คงหนีไม่พ้น “รถยนต์” หากย้อนกลับไปช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา กระบวนการในการจำนำรถยนต์ จำเป็นต้องนำรถเข้าไปที่เต็นท์รถเพื่อขอจำนำ ซึ่งส่วนใหญ่เกือบ 100% จะถูกกดราคา ที่สำคัญยังต้องทิ้งรถไว้ที่เต็นท์รถเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันด้วย เรียกว่าเป็นข้อจำกัดสำหรับเจ้าของรถที่ต้องการเงินฉุกเฉินอย่างเร่งด่วนโดยไม่มีทางเลือกให้มาก
คาร์ ฟอร์ แคช (Car for Cash) ผู้นำตลาดสินเชื่อเพื่อคนมีรถ เดินหน้ารุกตลาดทุกเซ็กเมนต์ เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่พร้อมครองใจลูกค้าผ่านกลยุทธ์ “ผลิตภัณฑ์ต้องใช่ ใจต้องมา” ด้วยการสร้างสรรค์โซลูชันที่หลากหลาย ง่าย และเหมาะสมกับทุกโอกาสทางการเงิน พร้อมสร้างความผูกพันที่ยั่งยืนกับแบรนด์ ตอกย้ำจุดยืนการเป็นสินเชื่อสำหรับคนมีรถทุกคน ตั้งเป้าครองแชมป์ตลาดสินเชื่อเพื่อคนมีรถต่อเนื่อง ด้วยมูลค่ารวม 85,000 ล้านบาท เติบโต 6%
ด้าน นายพรเทพ ถิรสุนทรากุล ผู้บริหารสายงานการตลาด ธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ชี้ว่า ตลาดสินเชื่อเพื่อคนมีรถยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากหลายปัจจัย ทั้งความต้องการสินเชื่อที่ยังอยู่ในระดับสูง และนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากผู้ให้บริการสินเชื่อ สำหรับ คาร์ ฟอร์ แคช ซึ่งเป็น แบรนด์ผู้บุกเบิกตลาดรีไฟแนนซ์รถในประเทศไทย เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เข้าถึงความต้องการด้านการเงินของคนมีรถในทุกกลุ่ม
ขณะเดียวกัน ยังมุ่งมอบประสบการณ์ที่ดีในทุกจุดของ Customer Journey ซึ่งทำให้ คาร์ ฟอร์ แคช ยังคงครองตำแหน่งผู้นำตลาดมาตลอด 19 ปี ด้วยฐานลูกค้าปัจจุบัน 312,000 ราย และพอร์ตสินเชื่อมูลค่ารวม 80,220 ล้านบาท โดยในปี 2565 คาร์ ฟอร์ แคช จะตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดสินเชื่อเพื่อคนมีรถ ด้วยกลยุทธ์ที่ครอบคลุมทั้งด้านผลิตภัณฑ์และการสร้างความผูกพันกับแบรนด์ ในด้านผลิตภัณฑ์ จะเดินหน้าสื่อสารด้านความหลากหลาย
ทั้งรูปแบบการผ่อนชำระและกลุ่มเจ้าของรถที่ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ส่งมอบบริการที่ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น เงื่อนไขการอนุมัติที่ตอบโจทย์กับสถานการณ์เศรษฐกิจ และสิทธิรับวงเงินเพิ่มสำหรับลูกค้าปัจจุบัน รวมถึงโซลูชันที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย ซึ่งอาศัย Predictive Model ที่ชาญฉลาดและการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่ทำให้สามารถคาดเดาความต้องการลูกค้าได้อย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ คาร์ ฟอร์ แคช จะเดินหน้าสร้างความผูกพันกับแบรนด์ที่ยั่งยืนกับลูกค้าในหลากมิติ และส่งต่อความช่วยเหลือสู่สังคม โดยจะรุกแคมเปญสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเจาะทุกกลุ่มลูกค้าเป็นครั้งแรก ทั้งลูกค้าปัจจุบัน ลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่ เพื่อตอกย้ำจุดยืนการเป็นสินเชื่อเพื่อคนมีรถทุกคน ควบคู่กับการสร้างประสบการณ์ที่ดี เช่น บริการดิจิทัลที่สะดวกรวดเร็ว และสิทธิประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์บน GO Application by Krungsri Auto
รวมถึงสานต่อโครงการ “ถุงเติมรอยยิ้ม (Car4Cash Smile Pack)” ผ่านการผนึกกำลังกับสาขา กรุงศรี ออโต้ ทั่วประเทศในการมอบความช่วยเหลือแก่ชุมชนที่ได้รับความเดือนร้อนจากอุบัติภัยต่างๆ อย่างทันท่วงที
ด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อคนมีรถที่ครบวงจรที่สุดในตลาด ตัวเลือกอัตราดอกเบี้ยที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตที่ต่างกัน ไปจนถึงขั้นตอนการบริการที่รวดเร็วไร้รอยต่อ เชื่อว่า คาร์ ฟอร์ แคช จะสามารถสนับสนุนคนมีรถในทุกโอกาสทางการเงิน และรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเช่นปัจจุบันได้ โดยตั้งเป้าว่า สินเชื่อในปี 2565 จะเติบโต 6% ด้วยมูลค่ารวม 85,000 ล้านบาท ทำให้ คาร์ ฟอร์ แคช สามารถครองตำแหน่งผู้นำตลาดสินเชื่อเพื่อคนมีรถได้ต่อไป
สำหรับการดำเนินงานในต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อคนมีรถของเครือกรุงศรี ภายใต้แบรนด์ คาร์ ฟอร์ แคช มีการบุกตลาดในต่างประเทศถึง 2 ประเทศ คือ ที่ สปป.ลาว โดยเริ่มให้บริการในปี 2562 และฟิลิปปินส์ ที่เริ่มให้บริการในปี 2564 โดยได้นำ Best Practice และศักยภาพด้านดิจิทัลของตลาดไทย ไปประยุกต์ใช้ในการให้พัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการลูกค้าทั้ง 2 ประเทศ นอกจากนี้ผลการดำเนินการในไทยยังได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จาก Retention Rate หรืออัตราการกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์สูงถึงเกือบ 50%
