แม้ในปัจจุบันจะมีการทำงานในรูปแบบ Paperless ซึ่งใช้เทคโนโลยีในการบันทึกทดแทนการใช้กระดาษ แต่การบันทึกเช่นนั้นก็มีความเสี่ยงในเรื่องของการรั่วไหลของข้อมูล รวมไปถึงข้อมุลเหล่านี้จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์อย่างคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พกพาอื่น ในการเปิดใช้งานซึ่งอุปกรณ์เหล่านั้นล้วนแต่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก และหากเมื่อถึงเวลาสำคัญที่ต้องการใช้ แต่แบตฯ ดันหมด คงเข้าใจสถานการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
นั่นจึงทำให้หลายองค์กรยังคงใช้กระดาษในการบันทึกข้อมูลเพื่อใช้ในการอ้างอิง ซึ่งสามารถเรียกใช้งานเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ปัญหาอยู่ที่ระบบการพิมพ์ที่หากต้องการความคมชัดสูง จำเป็นต้องใช้เครื่องพิมพ์ที่มีราคาสูงเช่น เครื่องพิมพ์เลเซอร์เจ็ท นั่นหมายถึงต้นทุนด้านการพิมพ์สูงขึ้น และถือเป็นหนึ่งต้นทุนที่สำคัญ
โดยเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทระบบแท็งก์ถือเป็นหนึ่งทางออกที่จะช่วยลดต้นทุนในเรื่องการพิมพ์ ซึ่ง Canon ได้เปิดตัว PIXMA G Series เครื่องพิมพ์ระบบแท็งก์แท้จากโรงงานมาตั้งแต่ปลายปี 2015 อันได้แก่ G1000 / G2000 / G3000 และ G4000 และได้มีการปรับปรุงพัฒนารายละเอียดเพิ่มเติมจนมาอย่างต่อเนื่อง
Canon ยกทัพเครื่องพิมพ์เจาะกลุ่มธุรกิจ
นั่นจึงทำให้ Canon ผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทในไทย 19 ปีซ้อน เปิดตัวอิงค์เจ็ทตระกูล PIXMA G Series ทั้งรุ่น G6070, G5070 และ GM2070 เพื่อตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ รวมถึงภาคอุตสาหกรรม โดยในปี 2561 Canon มียอดจำหน่ายเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท 373,942 เครื่อง คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 40% ของตลาดรวม
ด้าน นายฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ชี้ว่า แคนนอนมุ่งเน้นการขยายธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท เพื่อตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของผู้บริโภคตั้งแต่ผู้บริโภครายย่อย (B2C) ตลอดจนทุกระดับธุรกิจ (B2B) ที่หลากหลายตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง รวมไปถึงขนาดใหญ่
ด้วยการพัฒนาไปยังกลุ่มธุรกิจมากขึ้น ทำให้เครื่องพิมพ์ Canon PIXMA G Series มีการ Design หน้าตาใหม่หมด โดยออกแบบให้มีขนาดเล็กลง รวมถึงเพิ่มความสามารถในการพิมพ์ที่เร็วขึ้น เพิ่มความจุกระดาษให้มากขึ้น รวมไปถึงเปลี่ยนระบบการเติมหมึกและขวดหมึกแบบรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นการพัฒนาเพื่อเติมเต็มความต้องการใช้การในแบบธุรกิจมากขึ้น
G6070 แม่ทัพใหม่เครื่องพิมพ์ Canon
เริ่มกันที่ Canon PIXMA Ink Efficient G6070 เครื่องพิมพ์แท็งก์แท้จากโรงงาน แบบ All-In-One ที่อัดแน่นทุกความสามารถที่ธุรกิจต้องการ ทั้ง Print, Scan และ Copy ในเรื่องเดียว เรียกได้ว่าเป็นรุ่นท้อปของ G Series ที่อาจเรียกได้ว่าคุ้มค่าที่สุดเมื่อเทียบกับความสามารถและฟังก์ชั่นที่หลากหลายของเครื่องพิมพ์
โดย G6070 รองรับงานพิมพ์ทั้งแบบขาวดำและแบบสีได้ในปริมาณมาก โดยสามารถพิมพ์งานขาวดำได้มากถึง 8,300 แผ่นต่อปริมาณหมึกหนึ่งขวดในโหมด Eco Mode และสามารถพิมพ์งานสีได้ถึง 7,700 แผ่นต่อปริมาณหมึกหนึ่งขวดเช่นกัน ด้วยการพัฒนาคุณภาพหมึกดำใหม่ ช่วยเพิ่มคุณภาพงานพิมพ์ให้คมชัดขึ้น (New Pigment Black Ink)
นอกจากนี้ยังเพิ่มความเร็วในการพิมพ์ขึ้น โดยสามารถพิมพ์ขาวดำได้ถึง 13 ipm (Image per Minute) และสามารถพิมพ์สีได้ถึง 6.8 ipm รองรับการโหลดกระดาษได้สูงสุดถึง 350 แผ่น โดยแบ่งเป็นถาดรองรับกระดาษด้านหน้า (Front Cassette) จำนวน 250 แผ่น และด้านหลังเครื่อง (Rear Tray) อีกจำนวน 100 แผ่น ช่วยให้ไม่ต้องเสียเวลาเติมกระดาษบ่อย
แถมด้วยฟังก์ชั่นการพิมพ์ 2 หน้าแบบอัตโนมัติ ไม่ต้องมาเสียเวลาพลิกกระดาษแล้วใส่กลับไปใหม่ รวมถึงฟังก์ชั่นการพิมพ์รูปภาพแบบไร้ขอบ (Borderless) เมื่อคำนวณต้นทุนการพิมพ์แล้วจะตกเพียง 3 สตางค์ต่อแผ่น (ในโหมด Eco Mode) รองรับระบบการเชื่อมต่อแบบ Full Connectivity ทั้งการเชื่อมต่อแบบ IP ผ่านสาย LAN และแบบไร้สายผ่าน Wi-Fi และ Wi-Fi Direct
รองรับรูปแบบการทำงานพร้อมกันหลายเครื่อง และรองรับการทำงานแบบ Remote Working ให้เครื่องหลักสามารถ Monitor การทำงานของพร้นเตอร์ได้ รวมกึงการระบุความสามารถในการพิมพ์ของแต่ละ Account เมื่อทำงานร่วมกับ Software Canon MIB
โดย Canon PIXMA Ink Efficient G6070 รองรับการเติมกับขวดหมึกแบบ Spill-Free ที่เติมง่าย ไม่หกเลอะเทอะ ไม่ต้องออกแรงบีบ พร้อมฝาปิดแท็งก์หมึกที่ใช้งานสะดวก ช่วยให้เติมหมึกง่ายมากขึ้น ทั้งนี้พร้อมรับประกัน 2 ปีหรือพิมพ์ 50,000 แผ่นแล้วแต่ระยะใดถึงก่อน โดยการรับประกันรวมค่าอะไหล่, หัวพิมพ์, แผ่นซับหมึกและค่าแรงไว้แล้ว
ทัพเสริม G Series ช่วยเพิ่มความคุ้มค่า
ขณะที่ Canon PIXMA Ink Efficient G5070 เครื่องพิมพ์แท็งก์แท้จากโรงงาน โดยมีคุณสมบัติและการรับประกันเช่นเดียวกับในรุ่น G6070 หากแต่มีความแตกต่างเพียง G5070 เป็นเครื่องพิมพ์แบบ Single Function หรือพรินเตอร์ที่รองกับการพริ้นต์เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถ Scan และ Copy ได้
ส่วนในรุ่น Canon PIXMA Ink Efficient GM2070 เครื่องพิมพ์แท็งก์แท้จากโรงงานแบบพริ้นต์งานเฉพาะขาวดำ (Monochrome Single Function) สามารถรองรับงานพิมพ์ขาวดำได้ถึง 8,300 แผ่นในโหมด Eco Mode ต่อปริมาณหมึกหนึ่งขวด โดยสามารถพิมพ์ขาวดำได้เร็วถึง 13 ipm (Image per Minute)
รองรับการโหลดกระดาษได้สูงสุดถึง 350 แผ่น โดยแบ่งเป็นถาดรองรับกระดาษด้านหน้า (Front Cassette) จำนวน 250 แผ่น และด้านหลังเครื่อง (Rear Tray) อีกจำนวน 100 แผ่น ช่วยให้ไม่ต้องเสียเวลาเติมกระดาษบ่อย สามารถเพิ่ม Option การพิมพ์สีได้ด้วย Option Color แบบตลับหมึก Cartridge รับประกัน 4 ปีหรือพิมพ์ 50,000 แผ่นแล้วแต่ระยะใดถึงก่อน โดยการรับประกันรวมค่าอะไหล่, หัวพิมพ์, แผ่นซับหมึกและค่าแรงไว้แล้ว
G Series เหมาะกับทุกระดับองค์กร
อย่างที่กล่าวไว้แล้วว่า เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทในตระกูล G Series ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งานในกลุ่มธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท Canon PIXMA Ink Efficient GM2070 เหมาะกับร้านค้าปลีกออนไลน์หรือธุรกิจส่วนตัวที่มีความต้องการงานพิมพ์ โดยเฉพาะคำสั่งซื้อ, ที่อยู่ลูกค้าบนกล่องพัสดุ, โลโก้สินค้าลงบนพัสดุ
ขณะที่ธุรกิจขนาดกลางที่เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท Canon PIXMA Ink Efficient G6070 เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการให้เครื่องพิมพ์สามารถรองรับการเชื่อมต่อ สามารถทำได้มากกว่าแค่การพิมพ์ รองรับการทำงานร่วมกับพนักงานประมาณ 5-10 คน สามารถทำงานได้หลากหลายในเครื่องเดียว ช่วยอำนวยความสะดวกในการสั่งงานพิมพ์ได้อย่างครบวงจร
ส่วนธุรกิจขนาดใหญ่ที่เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท Canon PIXMA Ink Efficient G5070 เหมาะกับการพิมพ์งานในหลากหลายรูปแบบ อย่างบริษัทเอเจนซีในด้านต่างๆ นอกจากรูปแบบงานพิมพ์ที่หลากหลายแล้ว ความสามารถในการพิมพ์ที่รวดเร็ว การเชื่อมต่อที่ง่าย ตลอดจนโซลูชันการจัดการงานพิมพ์ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในองค์กรขนาดใหญ่
เรียกได้ว่านี่คือเครื่องพิมพ์เรือธงที่ต้องจับตาของ Canon ซึ่งหลังจากได้รับการพัฒนาเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานในเชิงธุรกิจ โดย Canon PIXMA Ink Efficient G6070 ที่เป็นระบบ All in One เปิดตัวที่ราคา 9,900 บาท ขณะที่ Canon PIXMA Ink Efficient G5070 กับระบบพริ้นต์เพียงอย่างเดียว (Single Function) เปิดตัวที่ราคา 6,900 บาท
และ Canon PIXMA Ink Efficient GM2070 เครื่องพิมพ์แบบขาวดำ (Monochrome Single Function) เปิดตัวที่ราคา 6,490 บาท
