บี๊กมูฟแห่งปีของอุตสาหกรรมพลังงานหลัง ‘บางจาก’ ปิดดีล ‘เอสโซ่’ ด้วยค่าหุ้นมูลค่ากว่า 2,283 ล้านบาทหรือเท่ากับ 65.99% เตรียมที่จะเปลี่ยนปั๊มน้ำมันเอสโซ่ทั่วประเทศไทยกว่า 832 แห่งให้เป็นปั๊มน้ำมันบางจากภายใน 2 ปีนี้ การควบรวมแห่งปีนี้คือทำให้บางจากที่เป็นผู้เล่นในสมรภูมิพลังงานผงาดความแข็งแกร่ง บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กลุ่มธุรกิจผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2527 มีหน้าที่หลักคือดำเนินการกลั่นและผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ
ดำเนินธุรกิจภายใต้พันธกิจ “เรามุ่งมั่นขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงผ่านด้านพลังงานอย่างยั่งยืน โดยคงไว้ซึ่งสมดุลแห่งความมั่นคงทางพลังงานเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี ด้วยนวัตกรรมโซลูชั่นสีเขียว ดำเนินธุรกิจด้วยความคำนึงถึงเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและการกำกับดูแลกิจการ อย่างมีความรับผิดชอบต่อทุกภาคส่วน”
เปิดอาณาจักรบางจาก ผู้เล่นในตลาดพลังงานที่สร้างบิ๊กมูฟ
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กลุ่มธุรกิจผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2527 ในสมัยรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ มีมติให้จัดตั้งและจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งบริษัทในวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 ในชื่อ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีหน้าที่หลักคือดำเนินการกลั่นและผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศดำเนินงานใน 5 ธุรกิจหลักคือ
- กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน
- กลุ่มธุรกิจการตลาด
- กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ผ่านการดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของ บมจ. บีซีพีจี
- กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ดำเนินการภายใต้ บมจ. บีบีจีไอ
- กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและธุรกิจใหม่ ลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและมีสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC) เป็นผู้ลงทุน Corporate Venture Capital เน้นการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งช่วยสร้างระบบนิเวศน์สำหรับนวัตกรรมสีเขียว ส่งเสริมและผลักดันนวัตกรรมที่สนับสนุนการพัฒนาพลังงานสีเขียวและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ
เส้นทางความเปลี่ยนแปลงของ ‘บางจาก’ ที่ดำเนินธุรกิจกว่า 39 ปี
- 2527 : เข้าจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด
- 2528 : ดำเนินและบริหารธุรกิจภายใต้รูปแบบบริษัทเอกชน
- 2533 : สหกรณ์การเกษตรศรีประจันต์ จำกัด จังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งปั๊มชุมชนแห่งแรกและดำเนิน โครงการ “น้ำมันแลกข้าว”
- 2534 : ผลิตและจำหน่ายน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วและบางจากดีเซล 357 กำมะถันต่ำรายแรกของไทย
- 2548 : เปิดสถานีบริการน้ำมันด้วยตนเองแห่งแรกของประเทศไทย
- 2549 : เปิดร้านกาแฟอินทนิลสาขาแรก / เปิดตัวบัตรบางจากแก๊สโซฮอล์คลับ
- 2554 : ก่อตั้งโครงการผลิตไฟฟ้าเซลลืแสงอาทิตย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- 2558 : ลงทุนในแหล่งพลังงานธรรมชาติต้นน้ำ
- 2559 : ตั้งบริษัท ออมสุขวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด / ตั้งบริษัท BCPG และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย / เปิด SPAR Fresh and Easy Food Market
- 2560 : เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ตั้งสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจบางจาก (BiiC) / ตั้งบริษัทร่วมทุน BBGIผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย /ตั้งมูลนิธิใบไม้ปันสุข / Inthanin Bio Cup
- 2561 : ปั๊มน้ำมันลอยฟ้าแห่งแรกของไทย / บัตร Bangchak Green Miles
- 2562 : GEMS ต้นแบบแห่งอนาคตจากซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด
- 2563 : สตาร์ทอัพ “Winnonie” นำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตวินมอเตอร์ไซค์ / BBGI และ Manus Bio ตั้งบริษัทร่วมทุน ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงในเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- 2564 : จัดตั้งบริษัท กรุงเทพขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อและโลจิสติกส์ จำกัด (BFPL) พร้อมจัดตั้ง Carbon Markets Club ร่วมกับองค์กรชั้นนำในประเทศไทย
- 2565 : BBGI ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จัดตั้งบริษัท BSGF เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) จากน้ำมันใช้แล้วเปลี่ยนแปลงโลโก้ขององค์กร เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจใหม่ “รังสรรค์โลกยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว”
- 2566 เข้าซื้อหุ้นบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จาก ExxonMobil Asia Holdings Pte. Ltd. คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 65.99 เสร็จสมบูรณ์
(ข้อมูลจาก : บริษัทบางจากคอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน)
เปิดทิศทาง ‘บางจาก’ ความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
หลังปิดดีล ‘ESSO’ ความยั่งยืนที่เหมือนกฎของธรรมชาติ สู่ความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม กวาดกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา 39 ปี อยู่ที่ 11,011 ล้านบาท!
กลุ่มบริษัทบางจากรายงานผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 2566 รายได้รวม 242,931 ล้านบาท มี EBITDA 31,433 ล้านบาท ไตรมาส 3 ปี 2566 มีรายได้ 94,528 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 39 จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาส 3 ปี 2566 มีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา 39 ปี อยู่ที่ 11,011 ล้านบาท
พร้อมเปิดปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันที่ได้รับปัจจัยหนุนจากราคาที่ปรับเพิ่มขึ้น ปริมาณการจำหน่ายของธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจพลังงานไฟฟ้ามีการรับรู้การผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ มีการรับรู้ผลการดำเนินงานของเอสโซ่ (ประเทศไทย) ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นมา รวมถึงมีการบันทึกกำไรพิเศษจากเข้าซื้อหุ้นเอสโซ่ (ประเทศไทย)
‘บางจาก’ กางแผนทิศทางธุรกิจปีหน้า พร้อมชูกลยุทธ์ “Greenovate to Regenerate”
แผนการดำเนินธุรกิจของบางจากในปีหน้าคือ “การสร้างสมดุล” ให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน โดยบางจากฯ ได้สื่อสารแบรนด์ไอเดีย “Greenovate to Regenerate สมดุลธรรมชาติ สรรค์พลังไม่สิ้นสุด” สะท้อนความเป็นตัวตนของแบรนด์บางจากที่ให้ความสำคัญกับการรักษา ‘สมดุล’ ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสมดุลระหว่างมูลค่าในการดำเนินธุรกิจ และคุณค่าทางสิ่งแวดล้อมและสังคม สมดุลในการคำนึงถึงเศรษฐกิจ ผ่าน 3 เสาหลัก
Regenerative Power สรรค์พลังใหม่ๆ เพื่อการเดินทางอย่างยั่งยืน และพลังงานสะอาด ไปจนถึงพลังที่เติมให้กับชีวิตผ่านเครื่องดื่มต่างๆ และพลังแห่งความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อร่วมบรรเทาวิกฤตสภาวะภูมิอากาศ
Regenerative Innovation สรรค์พลังแห่งนวัตกรรมเพื่อสร้างอนาคตที่สดใส ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยั่งยืน
Regenerative Life สรรค์พลังแห่งความสุขที่ยั่งยืนด้วยการพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคม ให้ความสำคัญของการรักษาสมดุลระหว่างมูลค่าและคุณค่า บนรากฐานของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ถือเป็นประวัติศาสตร์แห่งการเปิดดีลที่นำไปสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ ‘บางจาก’ เป็นประวัติการณ์ของอุตสาหกรรมพลังงานที่น่าติดตามอย่างต่อเนื่อง!