ก่อนหน้านี้ “ซัมซุง รีเสิร์ช” (Samsung Research) เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ได้จัดตั้ง “ศูนย์ปัญญาประดิษฐ์” 2 แห่งที่กรุงโซล เกาหลีใต้ และ ซิลิคอน วัลเลย์ สหรัฐอเมริกา เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ศักยภาพด้านการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของซัมซุง รวมถึงแสวงหาแนวทางการใช้งานจาก AI ให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น โดยยึดความต้องการของผู้ใช้งานเป็นหลัก
ล่าสุดได้เปิดตัวศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ 3 แห่งใหม่ในเมืองใหญ่ของโลก คือ เมืองเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ (22 พฤษภาคม) / เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา (24 พฤษภาคม) / กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย (29 พฤษภาคม)
ทำให้ปัจจุบัน “ซัมซุง รีเสิร์ช” มีศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ภายใต้การบริหารงานรวมทั้งหมด 5 แห่งทั่วโลก โดยจะทำหน้าที่ต่อยอดศักยภาพด้านปัญญาประดิษฐ์ในระดับโลกด้วยความก้าวหน้าล่าสุดของซัมซุง และยังได้ขยายเครือข่ายความเชี่ยวชาญด้าน AI ด้วยการสร้างศูนย์ปัญญาประดิษฐ์แห่งใหม่ๆ
นอกจากนี้ “ซัมซุง รีเสิร์ช” ยังวางแผนเพิ่มจำนวนนักวิจัยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ระดับสูงให้เพิ่มขึ้นถึงประมาณ 1,000 คนทั่วโลกภายในปี พ.ศ. 2563 เพื่อเป็นการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ชั้นนำระดับโลกไว้ในองค์กรให้มากที่สุด
มร. คิม ฮยอน ซอก ประธานและหัวหน้า ซัมซุง รีเสิร์ช กล่าวระหว่างพิธีเปิดศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ในเคมบริดจ์ว่า “ซัมซุงมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในการมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรม เรามีความยินดีที่ได้สานต่อความมุ่งมั่นตั้งใจนี้ รวมถึงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีมาสู่การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ ด้วยการเปิดตัวศูนย์ปัญญาประดิษฐ์แห่งใหม่และการคัดสรรผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในสาขานี้มาร่วมงาน เรามีเป้าหมายผลักดันองค์กรให้เป็นผู้พลิกโฉมอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ที่สำคัญของโลก”

ดึง Talent สาขาปัญญาประดิษฐ์ บริหารศูนย์แห่งใหม่
ผู้นำศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ของซัมซุงแห่งใหม่ในเคมบริดจ์ คือ “มร. แอนดรูว์ เบลค” ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการเคมบริดจ์ของไมโครซอฟท์ และเป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาทฤษฎีและอัลกอริทึมที่เปลี่ยนคอมพิวเตอร์ให้มีพฤติกรรมเหมือนเครื่องจักรที่มีสมองกล ด้วยความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงในสาขานี้ อาทิ ศาสตราจารย์มาจา ปานติช (อิมพีเรียล คอลเลจ) ศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ของซัมซุงที่เคมบริดจ์จะมีบทบาทสำคัญในการทำวิจัยเทคโนโลยี AI ในระดับสูงของซัมซุง รีเสิร์ช
มร. แอนดรูว์ เบลค ผู้นำศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ของซัมซุงแห่งใหม่ในเคมบริดจ์ กล่าวว่า “ศูนย์แห่งใหม่นี้แสดงถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้มีความก้าวหน้า การวิจัยที่นี่จะช่วยให้เรามีความเข้าใจในพฤติกรรมของมนุษย์มากขึ้น รวมถึงการศึกษาวิจัยภายใต้หัวข้อต่างๆ เช่น การจดจำอารมณ์ความรู้สึก และขยายขอบเขตของการสื่อสารที่มีผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง เพื่อสามารถพัฒนาเทคโนโลยีเอไอที่จะช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนได้อย่างแท้จริง”
ขณะที่ศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ของซัมซุงในเมืองโตรอนโต อยู่ภายใต้การนำของ “ดร. แลร์รี่ เฮ็ค รองประธานอาวุโส ซัมซุง รีเสิร์ช อเมริกา (เอสอาร์เอ)” ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีผู้ช่วยส่วนตัวเสมือนจริง พร้อมทั้งยังเป็นผู้นำศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ของซัมซุง รีเสิร์ช อเมริกา ทั้งนี้ ศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ในโตรอนโตจะมุ่งเน้นการวิจัยในแกนหลักของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ด้วยการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับมหาวิทยาลัยชั้นนำในแคนาดา
ส่วนศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ของซัมซุงในกรุงมอสโกนั้น ได้รับการคาดหมายว่าจะใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของรัสเซียในด้านคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานอื่นๆ โดยมีแผนทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้าน AI อาทิ “ศาสตราจารย์ ดมิทรี เวทรอฟ” (สถาบันบัณฑิตศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ) และ “ศาสตราจารย์วิคเตอร์ เลมพิทสกี” (สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโคลโกโว) เพื่อนำการวิจัยด้านอัลกอริทึมปัญญาประดิษฐ์ระดับสูงของศูนย์ที่นี่

5 หลักสำคัญขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ปัญญาประดิษฐ์ของซัมซุง
วิสัยทัศน์ปัญญาประดิษฐ์ของซัมซุงให้ความสำคัญกับปัจจัยหลัก 5 ประการเพื่อขับเคลื่อนการวิจัย ประกอบด้วย
1. ปัญญาประดิษฐ์ที่มี “ผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง” (User centric) ตอบสนองความต้องการอย่างเฉพาะเจาะจงด้วย Interface ที่มีรูปแบบหลากหลาย
2. มีการ “เรียนรู้ตลอดเวลา” (Always learning) ผ่านการเรียนรู้จากข้อมูลได้เองอย่างต่อเนื่อง
3. ต้อง “พร้อมเสมอ” (Always there) ในฐานะการบริการรอบด้าน
4. “ช่วยเหลือตลอดเวลา” (Always helpful) ด้วยการลดการแทรกแซงของผู้ใช้งานและตอบสนองต่อการสั่งการ
5. มีความ “ปลอดภัยเสมอ” (Always safe) เพื่อสร้างความมั่นใจในด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
การวิจัยที่ให้ความสำคัญกับปัจจัยหลัก 5 ประการนี้ ทำให้ศูนย์ปัญญาประดิษฐ์แห่งใหม่ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมการวิจัยที่ล้ำสมัยและจากความเชี่ยวชาญอันเป็นจุดแข็งของนักวิจัยในระดับภูมิภาคเพื่อยกระดับศักยภาพปัญญาประดิษฐ์ของซัมซุงให้สูงขึ้นไปอีกขั้น และจะเดินหน้าขยายการพัฒนาความก้าวหน้าและความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยี AI ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกาที่มีศักยภาพในด้านนี้เป็นพิเศษ
นอกจากนี้ในอีกหลายปีข้างหน้า “อุปกรณ์ Internet of Things” (IoT) ที่มีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะสร้างฐานข้อมูลปริมาณมหาศาลที่สามารถป้อนรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับชีวิตของผู้ใช้งาน ทำให้ผู้คนได้รับประโยชน์จากการบริการอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองพฤติกรรมและความต้องการส่วนบุคคล อุปกรณ์ที่รองรับปัญญาประดิษฐ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของเทคโนโลยีเอไอในอนาคตอันใกล้ เพื่อส่งมอบระบบนิเวศที่มีผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง
เป้าหมายใหญ่ของซัมซุงในการลงทุนสร้านศูนย์ AI อยู่ในเมืองใหญ่ทั่วโลก คือ ต้องการสร้างแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ที่เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างลึกซึ้งที่สุด ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ปัญญาประดิษฐ์มีความสำคัญและเป็นประโยชน์กับชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้น