ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์และ เทคโนโลยีพัฒนาไปมาก ผู้คนดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้จำนวนประชากรที่มีอายุยืนมากขึ้นมีจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้ “ผู้สูงอายุ” เป็นกลุ่มคนที่น่าสนใจของตลาดและเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง
ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ จัดอันดับประเทศในเอเชียไว้ว่าในปี 2030 ประเทศญี่ปุ่นจะมีประชากรสูงอายุเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนประเทศไทยมาเป็นอันดับสามรองจากประเทศสิงคโปร์ ประเทศไทยจะมีเปอร์เซ็นต์การเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 19% รวมเป็น 29% ของจำนวนประชากร จากเดิมที่ประเทศไทยในปี 2015 มีประชากรสูงอายุเพียง 10%
ตลาดผู้สูงอายุในประเทศไทยจึงยังมีโอกาสในการทำธุรกิจได้อีกมากโดยที่เราคาดไม่ถึง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุในการใช้ชีวิตประจำวันที่ลำบากยากขึ้น เนื่องด้วยสภาพร่างกาย สภาพความเป็นอยู่ของที่อยู่อาศัย การต้องการคนดูแลช่วยเหลือ พออายุมากขึ้นอะไรๆ ก็เหมือนยากลำบากขึ้นในการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าใครมีญาติผู้ใหญ่ที่มีอายุมากๆ คงจะนึกภาพออกทันที
คน Gex X วันนี้กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุรุ่นใหม่ในวันข้างหน้า
คน Gen X ที่เกิดระหว่างปี 2504-2524 มีอายุประมาณ37- 57ปี ต่อไปกำลังจะเป็นกลุ่มที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุรุ่นใหม่ (The Young Old) ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ คนกลุ่มนี้ยังชอบใช้ชีวิตในเมือง การเดินทางที่สะดวกสบาย อยากอยู่ใกล้เพื่อน ใกล้ลูกหลาน ไม่กลัวการใช้เทคโนโลยี ชอบเข้าสังคม และมีความพร้อมทางการเงินที่ได้มีการวางแผนเป็นอย่างดี
ธุรกิจเพื่อผู้สูงอายุในญี่ปุ่น ประเทศที่ผู้สูงอายุมากอันดับหนึ่งของโลก
ญี่ปุ่นเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวนานหลายปี ผู้สูงอายุในญี่ปุ่นตอนนี้ คือคนรุ่นที่ช่วยกันสร้างชาติหลังจากญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งตอนนี้มีอายุเฉลี่ยประมาณ 85ปี บางคนอยู่คนเดียวเนื่องจากคู่สมรสได้เสียชีวิตไปแล้ว บางคนโสดไม่มีลูกหลาน บางคนไม่อยากเป็นภาระของลูกหลานที่ต้องมาดูแล บางคนลูกหลานไม่มีเวลาดูแล จึงมีธุรกิจหลายอย่างพัฒนาเกิดขึ้นพื่อตอบสนองตลาดผู้สูงอายุในญี่ปุ่น จะขอยกตัวอย่างมา 4 ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุ ดังนี้
1. Nursing Home
Charm Premier Fukasawa คือ ธุรกิจบ้านพักผู้สูงวัยในญี่ปุ่น ดำเนินงานโดยบริษัท มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ จำกัด บริษัทในเครือ มิตซูบิชิ เอสเตท พื้นที่ภายในได้รับการออกแบบให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้สูงวัย โดยมีการจัดสรรให้เป็นส่วนของห้องพักและพื้นที่ส่วนกลางเพื่อใช้ทำกิจกรรมร่วมกัน ให้ทุกวันของการพักอาศัย รู้สึกเหมือนเป็นชุมชนของการอยู่อาศัยที่มีความสุข โดยมีผู้ดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด มีการแสดงคอนเสิร์ต มายากล และกิจกรรมอื่นๆ แม้แต่อาหารยังถูกออกแบบมาเพื่อผู้สูงอายุในแต่ละคนอย่างถูกต้องตามหลักโภชนาการ เช่น อาหารจะถูกออกแบบให้ คำเล็ก, ให้ผู้ป่วยทานง่าย, อาหารแบบเหลว ตัดละเอียด เป็นต้น โดยมีอาหารให้ทาน 3มื้อ ร่วมอาหารว่าง 1มื้อ ส่วนค่าใช้จ่าย ถ้าเป็นสถานที่ตั้งใจกลางเมืองที่ตั้งของ Charm Premier Fukasawa ซึ่งเทียบได้ประมาณแถวทองหล่อบ้านเรา
สำหรับห้องพื้นที่ 21 ตร.ม ราคาประมาณเดือนละ 160,000บาท ต่อคน
สำหรับห้องพื้นที่ 30 ตร.ม ราคาประมาณเดือนละ 220,000บาท ต่อคน
สำหรับห้องพื้นที่ 41 ตร.ม ราคาประมาณเดือนละ 260,000บาท ต่อคน
มีผู้สูงอายุอายุเฉลี่ยประมาณ 85ปี และ สูงสุด อายุ 102ปี ที่ผู้มาใช้บริการอยู่ 34คน จากทั้งหมดที่รองรับได้ 91คน ในขณะนี้ โดยที่นี่มี Mission ที่ว่า ดูแลผู้สูงอายุให้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่ามากที่สุดในช่วงเวลาที่เหลืออยู่
2. Wellness Community
Wellness Square in Fujisawa SST by Panasonic Corporation คือ อาคารพักอาศัยเพื่อผู้สูงวัย ตั้งอยู่ในโครงการ Fujisawa Sustainable Smart Town พัฒนาโดย Panasonic Corporation โดยใช้พื้นที่เก่าโรงงานของ Panasonic โดยที่ Wellness Square in Fujisawa SST ภายในประกอบด้วย 2 อาคาร คือ North และ South พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ สังคมผู้สูงอายุมีการปฎิสัมพันธ์ทางสังคมซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพและจิตใจ ที่นี่สามารถลองรับบุคคลได้ทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงวัย พื้นที่ได้ถูกออกแบบมุ่งเน้นไปที่การใช้สอยของผู้สูงวัย และสามารถเชื่อมโยงทุกเพศทุกวัยเข้าด้วยกัน มีทั้ง บ้านพักผู้สูงวัย คลีนิคตรวจรักษาสุขภาพ ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ศูนย์ดูแลผู้สูงวัย ห้องจัดกิจกรรม และ อื่นๆ และภายในโครงการ Fujisawa Sustainable Smart Town ก็จะมีโครงการหมู่บ้านจัดสรร 600หลัง และ คอนโด 400ห้อง อยู่ด้วย และจะมีร้านอาหาร และ ร้านค้าอยู๋ในโครงการด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นชุมชนที่ทันสมัยและพร้อมเพียง สำหรับผู้สูงอายุและครอบครัวของลูกหลานที่จะได้อยู่ใกล้ๆกัน
3. Renovation Business for Elderly Friendly
Mitsubishi Estate ( MEH ) ดำเนินธุรกิจสร้างบ้านและรีโนเวทที่อยู่อาศัยโดยมีมาตรฐานการออกแบบที่เป็นมิตรสำหรับผู้สูงวัย ด้วยความเชี่ยวชาญในธุรกิจเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย ซึ่งการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุ เช่น การออกแบบให้มีสิ่งกีดขวางบนพื้นที่ให้น้อยที่สุด, มีสเต็ปให้น้อยทีุ่สด ไม่มีธรณีประตู, พื้นเรียบ ไม่มีขั้น ,มีการติดตั้งราวจับเพื่อความปลอดภัยในการเคลื่อนไหวของผู้สูงวัย, การออกแบบประตูทางเข้าให้มีความกว้างมากกว่าปรกติ รถเข็นของผู้ป่วย Wheelchair สามารถเข็นไปได้ทั่วบ้านอย่างสะดวกสบาย ,ห้องน้ำ เตียงนอน และทุกอย่างถูกออกแบบเพื่อเหมาะกับผู้สูงอายุใช้งานได้ง่าย สะดวกสบาย ,และมีการจัดวางระบบไฟส่องสว่างทั้งกลางคืนและกลางวัน รวมถึงการจัดการอุณหภูมิภายในบ้ายให้เหมาะสมตลอดทั้งวัน เป็นต้น
สำหรับราคาบ้านพื้นที่ 220 ตร.ม มี 2ชั้น ที่ถูกออกแบบเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ บ้านเปล่าๆ ่ราคา 21ล้านบาท และ ถ้ารวมตบแต่งด้วย ประมาณ 36ล้านบาท
4. Materials & Innovation
NODA Corporation เป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุปูพื้นชั้นนำของญี่ปุ่น ได้พัฒนาผลิตภัณท์เพื่อการอยู่อาศัยของผู้สูงวัย โดยมีการคิดค้นพัฒนาวัสดุปูพื้นช่วยลดแรงกระแทกเพื่อผู้สูงวัยจะรองรับแรงกระแทกได้ดี, อบอุ่นเมื่อสัมผัส และ กันลื่น ช่วยลดแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ถ้าผู้สูงอายุหกล้ม พื้นนี้จะช่วยลดแรงกระแทกและยุบตัว จึงทำให้ลดการบาดเจ็บได้ดี อันนี้เป็นแค่หนึ่งตัวอย่างโปรดักซ์ของ NODA ที่ผลิตขึ้นเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
ทาง NODA ยังคิดค้นผลิตภัณท์พิเศษสำหรับผู้สูงอายุอีกมาก อาทิเช่น ประตูห้องน้ำที่เปิดกว้างพิเศษ, ประตูบานสวิงที่พับได้, บันไดที่กว้างพิเศษมีราวจับ และถ้าไฟดับจะมีไฟเรืองแสงตลาดทางเดินบนขั้นบันได้ เป็นต้น
จากการศึกษาตลาดกลุ่มผู้สูงอายุที่กำลังเป็นเทรนด์ ทาง AP Thailand ได้ออกข่าวประกาศตัว ร่วมมือกับ มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ (บริษัทในเครือ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป – MECG ) ที่จะสร้างคอนโดเพื่อผู้สูงวัยรุ่นใหม่ เป็นรายแรกในธุรกิจอสังหาฯในไทย และได้เล็งพื้นที่แถว สาธร-ตากสิน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ เป็นตลาดใหม่ในวงการอสังหาฯ ที่ยังไม่มีใครเคยทำตลาดคอนโดในเมืองสำหรับผู้สูงอายุในเมืองไทย และได้ข่าวมาว่า ทางทีม Product Design ของทาง AP Thailand ร่วมมือกับทางญี่ปุ่น กำลังคิดค้นพัฒนาเพื่อเปิดตัวโครงการให้ได้ในปี 2563 นี้