เมื่อเทคโนโลยีพาเราเดินทางมาถึงยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะ Mobile First เทรนด์ Social Commerce หรือยุค Digital Transformation ทุกอุตสาหกรรมล้วนมีเทคโนโลยีการสื่อสารและนวัตกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเวทีธุรกิจทั้งเครือข่ายและเทคโนโลยีจะแข่งกันดุเดือดแค่ไหน เพื่อปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านธุรกิจและพฤติกรรมผู้บริโภค
โดยเฉพาะโอเปอเรเตอร์ ในฐานะผู้ให้บริการเครือข่ายยิ่งต้องลงทุนงบประมาณมหาศาลกับการพัฒนาเครือข่ายเพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจและดำเนินชีวิตของผู้คน ทำให้ระบบที่เปรียบเสมือนเทคโนโลยีหลังบ้านไม่สามารถหยุดนิ่งได้เลย วันนี้เราจึงได้เห็นทุกๆ โอเปอเรเตอร์พากันพูดถึงเทคโนโลยีขั้นกว่าที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ทั้ง 4.5G และ 5G
เรื่องล่าสุดที่เราได้เห็นการอัพเดท คือ การที่ทรูมูฟ เอช ประกาศนำหน้าเทคโนโลยีการสื่อสารแห่งอนาคตสู่ประเทศไทยด้วยการเตรียมความพร้อมสู่ 5G กับคำถามที่หลายๆ คนสงสัยว่า 5G จะเปลี่ยนภาพโลกแห่งการสื่อสารหรืออินเทอร์เน็ตบนมือถือได้อย่างไร
สิ่งที่ทรูมูฟ เอช กล่าวถึงยุคใหม่ของการสื่อสาร คือ การเปิดให้บริการเทคโนโลยี FDD Massive MIMO 32T32R เป็นรายแรกของโลก พร้อมๆ กับการทดสอบเทคโนโลยี LAA (Licensed Assisted Access) ซึ่งหากเป็นไปตามแผน ก็จะเริ่มทดลองให้บริการในบริเวณที่มีการใช้งานหนาแน่นทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดหัวเมืองใหญ่ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเครือข่ายจำเป็นต้องมีพาร์ทเนอร์ที่ดี ซึ่งทรูมูฟ เอช ยกประโยชน์ให้กับการเป็นพันธมิตรธุรกิจกับไชน่า โมบายล์ ซึ่งถือเป็นโอเปอเรเตอร์ยักษ์ใหญ่รายหนึ่ง มีทั้งฐานลูกค้าและศักยภาพทางเทคโนโลยี ทำให้กลุ่มทรูมีโอกาสได้ผสานความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
หากมองถึงประเด็นการลงทุน ทรูมูฟ เอช ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ว่าใช้งบประมาณกว่า 57,000 ล้านบาทกับงานเครือข่าย รวมถึงแผนเปิดให้บริการ FDD ดังกล่าว เพื่อสร้างโอกาสทางเทคโนโลยีรองรับ 5G และก้าวหน้ากว่ารายอื่น เนื่องจาก FDD สามารถแบ่งช่วงความถี่ของคลื่นส่ง (downlink) และคลื่นรับ (uplink) ออกจากกัน ส่วน MIMO ทำให้สามารถรับ-ส่งคลื่นหลายชุดได้พร้อมกันในช่องความถี่เดียวกัน เท่ากับประสิทธิภาพในการกระจายช่องสัญญาณ การรับส่งข้อมูล ประสิทธิภาพที่จะเพิ่มขึ้น และสามารถรองรับปริมาณการใช้งานจากลูกค้าจำนวนมากขึ้นได้พร้อมกัน ซึ่งตอนนี้ทรูมูฟ เอช ได้ทดลองเปิดให้บริการบริเวณมหาวิทยาลัยสยาม ถนนเพชรเกษม และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) ถนนรามคำแหง ไปบ้างแล้ว ซึ่งมีการเปิดให้ทดสอบร้านทรูสเฟียร์ ทุกสาขา เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพดาวน์โหลดด้วยความเร็วสูงสุดถึง 1050 Mbps
ส่วนประสิทธิภาพเครือข่ายแบบ 5G ที่ทรูมูฟ เอช กล่าวถึงนั้น เป็นการนำคลื่นความถี่แบบ Unlicensed มาใช้งานด้วยเทคโนโลยี LTE (Long Term Evolution) หรือนำ WiFi มาใช้บนเทคโนโลยี 4G เพื่อเพิ่มแบนด์วิธให้กว้างขึ้น สำหรับมือถือที่สามารถรองรับเทคโนโลยีดังกล่าวนั้น แน่นอนว่ายังคงเป็นมือถือรุ่นเรือธงจากแบรนด์ต่างๆ แต่ในส่วนของเทคโนโลยี LAA เริ่มมีหลายรุ่นที่รองรับการใช้งานแล้วเช่นกัน
