ดูเหมือนว่าประวัติศาสตร์โลกต้องบันทึกเรื่องราวของการแพร่ระบาด COVID-19 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะวิกฤติครั้งนี้ส่งผลต้องความเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ โดยเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยีที่เรียว่าก้าวกระโดดเพียงช่วงระยะเวลาเพียงปีเดียวเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น จากที่ e-Commerce เป็นเพียงช่องทางเสริมของธุรกิจ แต่ปัจจุบันหลายธุรกิจผลักดันให้ e-Commerce กลายเป็นช่องทางหลักในการทำธุรกิจ เป็นต้น
ไม่เพียงเท่านี้กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพอย่าง ประกันชีวิตก็เริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอบริการที่ตอบความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้อย่างตรงจุด หรือแม้แต่ในวงการแพทย์ที่เริ่มมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการรักษา เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งกับผู้มารักษาและแพทย์ผู้รักษา ทั้งนี้จากข้อมูลของ Business Insider ชี้ว่า 4 Big Tech ของโลกกำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเข้าสู่ธุรกิจ Health Tech อย่างเต็มตัว
โดย 4 Big Tech หลักที่คาดว่าจะเข้าสู่ธุรกิจ Health Tech อย่างเต็มตัวประกอบไปด้วย Alphabet (เจ้าของ Google), Amazon, Apple และ Microsoft จุดที่ทำให้คาดว่าทั้ง 4 Big Tech จะหันมาให้ความสำคัญกับ Health Tech คือการพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีในการวิเคราะห์ที่จะช่วยให้การวิเคราะห์ด้านการดูแลสุขภาพสามารถทำได้ดีขึ้นมากกว่าในอดีต
โดยทางด้าน Google และ Apple เป็น 2 บริษัทที่มีระบบปฏิบัติบนสมาร์ทโฟนไม่ว่าจะเป็น Android และ iOS ทำให้ทั้งสองสามารถนำเสนอแอปพลิเคชันในการติดตามความเคลื่อนไหวของสถานการการแพร่ระบาดได้ง่าย รวมไปถึงการนำเสนอข้อมูลข่าวสารด้านการแพร่ระบาดส่งตรงเข้าสู่สมาร์ทโฟน
ขณะที่ Microsoft มีการนำระบบ Telemedicine สำหรับการดูแลสุขภาพ รวมถึงการให้บริการ Cloud และ Microsoft Teams ที่ช่วยให้เกิดการทำงานประสานกันอย่างรวดเร็วในโรงพยาบาลและสามารถติดตามการรักษาตั้งแต่เริ่มต้นได้ และยังช่วยให้แพทย์สามารถเยี่ยมไข้และติดตามอาการได้อย่างใกล้ชิด ด้วยระบบทั้งหมดจะช่วยให้สามารถพัฒนาไปสู่การให้บริการ “Telehealth” ส่วน Amazon มีการเปิดตัว Amazon Care สำหรับการให้บริการด้าน Telehealth สำหรับพนักงานและมีโอกาสในการขยายการให้บริการไปสู่กลุ่มลูกค้าสมาชิก Amazon ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยติดตามการแพร่เชื้อระบาด
จากการวิเคราะห์ของ Business Insider ทั้ง 4 Big Tech จึงมีโอกาสอย่างมากในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีเดิมที่มีออยู่แล้วให้ไปสู่ Health Tech ซึ่งคาดว่าจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในอนาคตนับจากนี้ไป และเทคโนโลยีเหล่านี้ยังสามารถใช้งานกับโรคอื่นๆ หากเกิดการระบาดที่รุนแรงเช่นสถานการณ์ที่ผ่านมา
Source: Business Insider