เมื่อโครงการคมนาคมพื้นฐานและรถไฟฟ้า ขยายตัวออกไปตามชานเมือง ทำให้ที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย จากการสำรวจของ DDproperty ระบุว่า ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาบ้านเดี่ยวปรับตัวสูงขึ้น 12% นับเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมและทาวน์เฮ้าส์
บ้านเดี่ยว
บ้านเดี่ยวเป็นที่อยู่อาศัยอีกหนึ่งประเภทที่มีดัชนีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 12 เดือนอย่างน่าสนใจ เพราะเมื่อเทียบกับไตรมาสนี้เมื่อปีที่แล้ว ดัชนีราคาของที่อยู่อาศัยประเภทนี้เติบโตขึ้นถึงร้อยละ 12 นับเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียม และทาวน์เฮ้าส์ โดยย่านที่น่าจับตามองในกลุ่มบ้านเดี่ยวคือ บางพลัด เป็นผลจากการเปิดใช้ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกที่เชื่อมฝั่งธนบุรีและพระนคร ส่งผลให้บ้านเดี่ยวราคาไม่เกิน 5 ล้านบาทในโซนนี้เติบโตสูงถึง 18% ทั้งนี้หากเป็นกลุ่มบ้านเดี่ยวทั้งหมด มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 34%
สำหรับทำเลที่มีอุปทานบ้านเดี่ยวสูงสุดยังคงเป็นเขตประเวศที่ครองอันดับหนึ่ง
คอนโดมิเนียม
ในเดือนสิงหาคม 2562 ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแคจะเปิดให้บริการ ทำให้ราคาที่ดินเขตสัมพันธวงศ์ ปรับตัวสูงสุดในรอบไตรมาส 12% ตามมาด้วย เขตป้อมปราบศัตรธพ่าย 9% และเขตบางกะปิ 3%
ทาวน์เฮ้าส์
ในแง่ของอุปทาน ทาวน์เฮ้าส์ในเขตลาดพร้าวมีสัดส่วนมากที่สุด คิดเป็น 46% ของอุปทานทาวน์เฮ้าส์ในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ เขตที่มีการปรับราคาพุ่งสูงที่สุดคือ เขตคลองเติยเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในย่านสำคัญที่ปัจจุบันหาที่ดินสำหรับพัฒนาที่อยู่อาศัยในลักษณะนี้ได้ยากเต็มทีหรือหากมีราคาก็จะสูงมากส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ครึ่งปีหลังนี้ ผู้ประกอบการพยายามเร่งระบายสินค้าคงค้างของตัวเอง ผ่านแคมเปญและโปรโมชั่นส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย ไม่วาจะเป็นข้อเสนอส่วนลดเงินสด ค่าใช้จ่ายในการทำสัญญาจอง-ซื้อ-โอน รวมไปถึงของแถมต่าง ๆ ที่จะช่วยเร่งให้ผู้บริโภคตัดสินใจ ในขณะที่จำนวนสินค้าใหม่ที่เข้าสู่ตลาดในช่วงเวลาเดียวกันมีไม่มาก ทั้งนี้ คอนโดมิเนียม ซึ่งมีสัดส่วนอุปทานมากที่สุดในตลาดที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยทำเลที่มีอุปทานคอนโดมิเนียมสูงสุดยังคงเป็นเขตวัฒนาคิดเป็น 23% ของอุปทานคอนโดมิเนียมที่ขายในกรุงเทพฯ ทั้งหมด ขณะที่อุปทานที่อยู่อาศัยแนวราบมีการปรับตัวไตรมาสต่อไตรมาสเพิ่มขึ้น แบ่งออกเป็นทาวน์เฮาส์ 8% และบ้านเดี่ยว 4%
