รถคันแรกได้เวลาเปลี่ยน จุดพลิกเกมส์ดันยอดขายโตโยต้าโตอีกรอบ

  • 338
  •  
  •  
  •  
  •  

toyota-overweegt-claim-brexit-campagneteam

โตโยต้า มอเตอร์ส ประกาศเดินหน้าต่อเนื่องหลังเพิ่งเปิดตัว Toyota New VIOS มั่นใจปีนี้ถือเป็นปีทองของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย เพราะรถยนต์คันแรกตามนโยบายของรัฐบาลจะมีอายุการใช้งานรถยนต์ราว 5 ปี ซึ่งเป็นจังหวะรอบของการเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ ประกอบกับโตโยต้าเล็งขยายภูมิภาคในการส่งออกรถยนต์ไปจำหน่ายเพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย หลังภูมิภาคตะวันออกกลางซบเซาส่งผลให้ยอดส่งออกลดลง

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด แถลงผลประกอบการประจำปี 2559 ที่ผ่านมาว่า โตโยต้ามียอดขายรถยนต์รวมทั้งสิ้น 245,087 คันลดลง 7.9% เมื่อเทียบกับปี 2558 ยังคงครองส่วนแบ่งทางการตลาดไว้ที่ 31.9% ซึ่งตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลหรือรถเก๋งมีสัดส่วนลดลงจากปี 2558 มากที่สุด โดยมีจำหน่ายเพียง 87,271 คัน ลดลงจากปี 2558 ถึง 17.2% ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาเครื่องยนต์ของ Toyota VIOS เพื่อให้ลดารปล่อยก๊าซ CO2 ทำให้ต้องหยุดการผลิตในต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดรวมรถยนต์ในประเทศไทยปี 2559 มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 768,788 คัน ลดลงจากปี 2558 ถึง 3.9%

3e6fbc83dd3dd7013b2b6c671370baed3f4406f7cb344939c8899c1ea6e82504

ส่วนการส่งออกรถยนต์ของโตโยต้าในปี 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 318,658 คัน ลดลงจากปี 2558 ถึง 15% คิดเป็นมูลค่า 180,707 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะราคาน้ำมันที่ยังคงทรงตัวในระดับที่ต่ำ ส่งผลให้ภูมิภาคตะวันออกกลางที่เป็นภูมิภาคส่งออกอันดับหนึ่งต้องซบเซาลง

สำหรับโตโยต้ามองว่าปี 2560 จะเป็นปีที่ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลหรือรถเก๋งจะกลับมาคึกคักอีกครั้งอย่างแน่นอน เนื่องจาก Life Cycle ของรถยนต์จะเฉลี่ยอยู่ที่ 5-7 ปีซึ่งโครงการรถยนต์ครั้งแรกในปี 2555 จะมีกำหนดระยะเวลาครบ 5 ปี ค่ายรถยนต์จึงมีการเปิดตัวรถยนต์ในเซ็กเม้นต์ Compact พร้อมแคมเปญใหม่กันอย่างมากมาย เพื่อให้เกิดการซื้อรถยนต์คันใหม่

20170123_105929

โดยโตโยต้าเชื่อว่าศักยภาพของตลาดน่าจะมีกำลังซื้อ โตโยต้าจึงคาดว่าเป้าจำหน่ายของตลาดรวมรถยนต์ทั้งหมดปี 2560 น่าจะอยู่ที่ 800,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึง 4.1% และเชื่อว่าตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลหรือรถเก๋งจะมียอดขายแตะที่ 316,000 คันเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่ 12.9%

ขณะที่โตโยต้าตั้งเป้ายอดจำหน่ายรถยนต์ไว้ที่ 265,000 คัน เพิ่มขึ้น 8.1% โดยตั้งเป้ายอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลหรือรถเก๋งไว้ที่ 110,000 คัน เพิ่มขึ้น 26% ซึ่งหากทำได้ตามที่ตั้งเป้าไว้จะส่งผลให้โตโยต้ามีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ระดับ 33.1% สำหรับการส่งออกนั้นโตโยต้าจะหาตลาดที่มีศักยภาพ เพื่อทดแทนตลาดตะวันออกกลางที่กำลังซบเซาจากปัญหาราคาน้ำมันทรงตัวในระดับที่ต่ำ โดยเล็งไว้ที่กลุ่มโอเชียเนียและละตินอเมริกา โดยจะเข้ามาเพิ่มสัส่วนการส่งออกของภูมิภาคตะวันออกกลาง

toyota-australia-export

ผู้บริหารโตโยต้ายังชี้ว่าประเทศไทยยังมีศักยภาพในการเติบโต ซึ่งในปี 2553 ตลาดรวมรถยนต์เคยมียอดขายแตะจำนวน 8 แสนคัน ต่อมาในปี 2554 ยอดขายรถยนต์ตลาดรวมตกลงมาอยู่ที่ 7 แสนกว่าคัน และในปี 2555 รัฐบบาลในสมัยนั้นได้เปิดโครงการรถยนต์คันแรกด้วยการช่วยเหลือด้านภาษี จนตลาดรวมรถยนต์สามารถมียอดขายแตะที่หลักล้านคัน โดยในปี 2556 มียอดขายตลาดรวมรถยนต์ที่ 1.3 ล้านคัน ทว่าในปี 2557 จนถึงปี 2559 อัตรายอดขายของตลาดรวมรถยนต์ก็ปรับลดลงตัวลงตามลำดับ ผู้บริหารโตโยต้ามั่นใจว่าปี 2560 จะเป็นปีที่มีปัจจัยบวกโดยเฉพาะรถคันแรกเข้าสู่ปีที่ 5 แม้ว่าโตโยต้าจะมองว่าเศรษฐกิจของไทยภาพรวมจะยังทรงตัวก็ตาม

จากการเปิดเผยตัวเลขยอดขายทั่วโลกของ โดโยต้า คอร์ปอเรชั่นที่ญี่ปุ่นแสดงให้เห็นถึงตัวเลขยอดขายทั่วโลกที่ตกลงจนถูกค่ายโฟล์คสวาเกนขึ้นตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2016 โดยเป็นผลมาจากยอดขายรถยนต์ในประเทศจีน ซึ่งผู้บริหารโตโยต้าที่ญี่ปุ่นตั้งเป้าในการเพิ่มยอดขายในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งไทยและอินโดนีเซียเป็น 2 ประเทศที่มีศักยภาพและผลกระทบต่อตัวเลขยอดขายในภูมิภาคนี้

31102013_104330_All-New-Toyota-Yaris

 

Copyright © MarketingOops.com


  • 338
  •  
  •  
  •  
  •