Samsung กะรวบทุก segment

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

logo_samsung_s

จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่ายหรือเลือกซื้อเท่าที่จำเป็น   ทำให้บรรดาเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์เนมหลายรายต่างลดฟีเจอร์เพื่อนำเสนอสินค้าที่มีราคาคุ้มค่าไปสู่ผู้บริโภคมากขึ้น แต่ก็มิได้ทิ้งตลาดไฮเอนด์ กลยุทธ์ในการบริหารช่องทางจำหน่ายจึงถูกนำมาใช้มากขึ้นเพื่อบริหารพอร์ตสินค้าในกลุ่มต่างๆตั้งแต่ไฮเอนด์ไปถึงโลว์เอนด์

‘สินค้า Premium และ Mass  มีช่องทางการขายที่แตกต่างกัน Department store, Dealer, และ Discount Store ก็มีรูปแบบที่แตกต่างกัน เราจึงต้องแม็ตช์โปรดักส์กับลูกค้าให้สอดคล้องกับช่องทางการขายต่างๆให้มากขึ้น สินค้าใหม่ที่ออกมาราคาไม่ได้ลดลง แต่เทคโนโลยีดีขึ้น เพราะความคุ้มค่าไม่ได้อยู่ที่ราคา แต่ผู้บริโภคจะดูว่าแบรนด์มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน มีการบริการหลังการขายที่ดีหรือเปล่า’ ผู้บริหาร Samsung กล่าว

สำหรับช่องทางที่เป็น  Department Store ฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนมีการศึกษา ใช้ชีวิตในเมือง มีฐานะ สินค้าส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในช่องทางนี้จะเป็นรุ่นท็อป ในขณที่ไฮเปอร์มาร์เกตจะเป็นสินค้าที่แมสกว่าดีพาร์ตเมนต์สโตร์ และเป็นช่องทางที่แข่งสงครามราคากันแรง ดังนั้นสินค้าที่จะจำหน่ายในช่องทางนี้จะต้องให้น้ำหนักกับการทำราคาและโปรโมชั่น ส่วนช่องทางที่เป็นดีลเลอร์นั้นจะแตกต่างกันไปตามขนาดของดีลเลอร์และพื้นที่ บางรายมีศักยภาพในการทำตลาดไฮเอนด์ ขณะที่บางรายเหมาะกับสินค้าแมส นอกจากนี้ยังมีตลาดโครงการที่ช่วยสร้างมูลค่ายอดขายให้มากขึ้น

ปีนี้ซัมซุงจะให้ความสำคัญกับการบริหารสินค้าหน้าร้านและสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดสินค้าในสต๊อกของคู่ค้า โดยซัมซุงจะเลือกผลิตภัณฑ์ไปวางขายให้เหมาะสมกับตลาดในแต่ละพื้นที่ซึ่งจะช่วยให้คู่ค้าสามารถทำตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

samsung_fridge

นอกจากนี้ซัมซุงยังพัฒนาบริการหลังการขายโดยปัจจุบันซัมซุงมีร้านค้าที่ให้บริการลูกค้าภายใต้ชื่อ Customer Service Center ซึ่งมีกว่า 22 แห่งทั่วประเทศ โดยมีทีม SWAT (SAMSUNG Worldwide Advance Technician) คอยให้บริการทั้งก่อนและหลังการขายกับลูกค้า ภายใต้แนวคิด One Ring Fix All คือการให้บริการลูกค้าทุกกลุ่มสินค้าผ่านคอลเซนเตอร์เบอร์เดียวเพื่อความสะดวกของลูกค้า ที่สามารถโทรครั้งเดียวแต่แจ้งซ่อมผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มของซัมซุงได้

‘สำหรับซัมซุง เราจะบาลานซ์พอร์ต เพราะเราอยากได้ส่วนแบ่งการตลาดและเราก็อยากได้มูลค่าเพิ่มจากการขายด้วย ซึ่งส่วนแบ่งการตลาดเราต้องสร้างความคุ้มค่าเพื่อขยายฐานลูกค้า ส่วนมูลค่าเราได้จากตลาดไฮเอนด์ นอกจากนี้เรายังต้องพยายามเทรดอินเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ และยกระดับการใช้สินค้าของลูกค้าซึ่งกลุ่มนิวเอนทรี้จะใช้เวลา 3-4 ปี ในการเปลี่ยนรุ่นที่ดีกว่า แต่ถ้าเราทำการตลาดดีก็จะสามารถทำให้เขาเปลี่ยนมาใช้สินค้าที่ดีขึ้นเร็วกว่า 3-4 ปี’ ศศิธร กล่าว

ซัมซุงตั้งเป้าว่าจะสามารถครองความเป็นผู้นำในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์โดยคาดว่าไมโครเวฟจะสามารถสร้างส่วนแบ่งการตลาดได้ 40% ตู้เย็นไซด์บายไซด์ 70% ตู้เย็น 2 ประตู 18% เครื่องซักผ้าอัตโนมัติ 35%

Source: ผู้จัดการรรายสัปดาห์


  •  
  •  
  •  
  •  
  •