โคล้ด รัมเพลอร์ CEO L’ Oreal ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทยังตั้งเป้าอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด หรือคิดเป็นสามเท่าของตลาดเพื่อความงามที่มีมูลค่า 4.4 หมื่นล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 6% ต่อปี แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกและในไทยจะผันผวนก็ตาม เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา แม้จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจแต่ตลาดเพื่อความงามยังคงมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง และจากแนวโน้มในช่วง 5 เดือนแรก พบว่าการใช้จ่ายกับผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด
ทั้งนี้ แนวทางการทำตลาด บริษัทจะไม่เน้นการเปิดแบรนด์ใหม่ แต่จะให้ความสำคัญกับการเติบโตจากภายในด้วยการเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ที่ทำตลาดอยู่แล้ว ผ่านการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ที่แตกต่าง และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และกำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรงในการทำตลาดเท่านั้น โดยจะใช้งบประมาณสนับสนุนอย่างเต็มที่ จากเดิมการออกผลิตภัณฑ์ใหม่จะทำในลักษณะเหวี่ยงแห หรือออกผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกเซ็กเมนท์
“กลยุทธ์ของเรา คือ การเพิ่มน้ำหนักการวิจัย การมุ่งเน้นเฉพาะนวัตกรรมหลัก และความต่อเนื่องของการบริหารและการวางแผน เราให้ความสำคัญกับการทำวิจัยอย่างต่อเนื่องและสูงขึ้นทุกปี โดยในส่วนของคนไทยมีจำนวนกว่า 11,400 คนใน 1 ปี การเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคอย่างถ่องแท้ เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้การเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ของเราประสบความสำเร็จอย่างดี” นายรัมเพลอร์ กล่าว
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 100 ปีของลอรีอัล บริษัทได้เปิดตัว “หนึ่งร้อยโครงการเพื่อสังคม” ซึ่งสำหรับประเทศไทย มีโครงการเพื่อสังคม ภายใต้ชื่อ “Beautiful Tomorrows” ซึ่งเป็นโครงการมอบทุนฝึกอาชีพเสริมสวยให้กับผู้หญิงที่ประสบปัญหาชีวิต ที่พักอยู่ในบ้านพักฉุกเฉินจำนวน 10 ทุนต่อปี และต่อเนื่องจนครบ 100 ทุน
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์