ดีสนีย์แลนด์ใช้ “กำไลไฮเทค” เป็นศูนย์กลางของความสนุก

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

 เมื่อปีที่แล้วเราได้พูดถึงนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีต่างๆ มากมายที่จะมาเปลี่ยนภาคธุรกิจให้บริการลูกค้าได้สะดวก ไว และมีเงินเข้ากระเป๋ามากขึ้น เช่น แอปฯมือถือ ระบบตรวจจับใบหน้า QRcode, RFID, NFC และ AR 

 วันนี้ขอยกตัวอย่างอีกหนึ่งธุรกิจที่นำเอาเทคโนโลยีมาเปลี่ยนโฉมภาคธุรกิจไปอย่างสิ้นเชิง และธุรกิจนี้หลายคนก็รู้จักดี และหวังว่าครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องไปสัมผัส นั่นคือ “ดีสนีย์แลนด์” สวนสนุกสุดจินตนาการที่มีอยู่ทุกเมืองใหญ่ของโลก มีผู้เข้าชมปีละ 30 ล้านคน

 ล่าสุดดีสนีย์แลนด์ได้อัปเกรดพื้นที่สวนสนุก โรงแรม โรงอาหาร และระบบตั๋วใหม่ทั้งหมด โดยใช้เทคโนโลยีพื้นฐานเดียวกันคือ RFID

 

RFID (Radio Frequency Identification) คือ เทคโนโลยีที่อยู่ในรูปแบบของชิปขนาดเล็ก ที่สามารถบรรจุข้อมูล และสื่อสารกับเครื่องอ่านได้แค่แตะในระยะใกล้ ซึ่งเทคโนโลยีนี้ได้ใช้แพร่หลายกับระบบขนส่งมวลชน เช่น บัตรรถไฟฟ้า เป็นต้น

 โดยทางดีสนีย์ได้นำเอา RFID ไปจัดทำอยู่ในรูปแบบของกำไรข้อมือ (MagicBands) เพื่อเป็นเหมือนบัตรเข้าชมสวนสนุก บัตรจองเครื่องเล่น คูปองซื้ออาหาร (เมื่อแตะกำไรแล้วต้องกดรหัสลับเพื่อยืนยันการจ่ายเงินด้วย) และกุญแจเข้าที่พักได้พร้อมๆ กัน โดยเทคโนโลยีนี้เรียกรวมๆ ว่า  MyMagic+ ใช้เงินลงทุนไปประมาณ 3,200 ล้านบาท 

นอกจากนี้ที่ผ่านมายังออกแอปฯ My Disney Experience ซึ่งใช้ดูแผนที่ต่างๆ ทั้งหมดของดีสนีย์แลนด์ นั่นก็เพราะทุกดีสนีย์แลนด์มีไว-ไฟให้ใช้บริการฟรีทั้งหมด

ความไฮเทคของดีสนีย์แลนด์และการลงทุนมโหฬารครั้งนี้เพื่อตอบโจทย์เพียงอย่างเดียวนั่นคือ ทำให้ลูกค้าสะดวกที่สุด เมื่อโจทย์นี้ถูกตอบอย่างถูกต้องและชัดเจนแล้ว กำไรมหาศาลก็จะตามมานั่นเอง

 แหล่งข่าว 


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •