นักเขียนชื่อดัง Oscar Wilde ได้ให้นิยามของคำว่า “ประสบการณ์” ได้อย่างน่าสนใจว่า “ที่แท้คำว่า ประสบการณ์ มีชื่อที่เรียกง่ายกว่านั้นอีกนั่นคือ ความผิดพลาด” นั่นแปลว่า ในทุกครั้งของการเริ่มต้นธุรกิจคุณจะต้องพบกับความผิดพลาดอย่างแน่นอน ไม่มากก็น้อย
การดำเนินธุรกิจใหม่ๆ ต้องการทักษะที่หลากหลายจากหลายวิชา อาทิ บัญชี การตลาด กฎหมาย ฝ่ายบุคคล การออกแบบสินค้าและบริการ ฯลฯ และถ้าอยากให้ธุรกิจเติบโตผู้ก่อตั้งจะต้องมีความสามารถมากจริงๆ ดังนั้น ไม่ต้องแปลกใจเลยถ้าพบว่า 80% ของธุรกิจใหม่จะล้มเหลวใน 18 เดือนแรก
ดังนั้น สำหรับนักธุรกิจใหม่ เรามีคำแนะนำดีๆ ไว้ให้สำหรับคุณ 5 ข้อผิดพลาดโดยปกติของผู้เริ่มต้นทำธุรกิจซึ่งควรจะหลีกเลี่ยง เพื่อพัฒนาโอกาสทางด้านธุรกิจให้ประสบความสำเร็จดังต่อไปนี้
1.ทิ้ง ‘อีโก้’ ของคุณไว้หลังประตู
การจะประสบความสำเร็จในธุรกิจได้นั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำชุดการตัดสินใจที่ดี แต่มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก เพราะสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ถูกต้องก็คือข้อมูลและทักษะ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเติมใส่ให้ได้หากว่าคุณมีอีโก้
ทั้งนี้ ผู้นำที่เก่งจะภูมิใจกับความผิดพลาด พวกเขาจะสามารถพัฒนาความสามารถในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้ ฉะนั้น หากคุณต้องการที่จะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ก็ควรจะต้องเป็นคนที่เปิดใจ เปิดสมอง รับฟังความคิดเห็นและไอเดียของผู้อื่นๆ ด้วย
2.อย่าดูแลทุกๆ คนให้เหมือนกันหมด
เรียนรู้เรื่องการจัดการคนคือทักษะซึ่งต้องใช้เวลาอย่างมาก มันไม่ใช่อะไรที่จะเกิดมาแล้วรู้เรื่องได้เลย ซึ่งหนึ่งในความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการจัดการคนก็คือ ผู้นำส่วนใหญ่จะดูแลทุกคนเหมือนๆ กันหมด ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ใช่
ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไร พนักงานคือทรัพยากรที่มีค่าสำคัญที่สุด ดังนั้น ในฐานะผู้นำ งานของคุณคือการใส่ใจพวกเขาให้มากที่สุด หาทางที่จะเข้าใจพวกเค้าในแต่ละคนๆ เช่น ลองหาเวลาพูดคุยทำความรู้จักในแบบส่วนตัวบ้าง เพื่อมองหาแรงผลักดันขับเคลื่อนในการทำงานของแต่ละคน แต่ควรหลีกเลี่ยงข้อมูลหรือสิ่งที่เขาป้อนให้เรา ซึ่งถ้าคุณสามารถทำเช่นี้ได้จริง คุณจะได้รับความเคารพจากพวกเขามากทีเดียว
3.อย่าจ้างใครเร็วเกินไป
บริษัทใหญ่มักจะให้ความสำคัญกับกระบวนการจ้างงาน บางบริษัทมีขั้นตอนมากมายกว่าจะรับคนเข้าทำงานได้ บางที่มีมากกว่า 8-9 ครั้ง แล้วทำไมถึงใช้เวลานานมากขนาดนั้น?
เพราะว่าบริษัทใหญ่เหล่านั้น เข้าใจว่าราคาของการจ้างคนที่ผิดคือการเสียเวลาที่สูญเปล่าอย่างไร้ค่าของบริษัท เสียทั้งเงินและเวลามากมาย ขณะที่บริษัทเล็กๆ จะทำตรงกันข้าม คือสัมภาษณ์งานอย่างง่ายๆ ผ่านมุมมองของผู้จัดการ หรือบางทีก็ซีอีโอ แต่คุณจงอย่าไปติดกับดักนี้เป็นอันขาด
ในขณะที่บริษัทของคุณยังเล็กๆ อยู่นั้น ทุกๆ สิ่งก็ดูจะไม่ลงตัวไปเสียหมด แต่จะทำอย่างไรให้ทุกๆ คนได้ทำงานที่เหมาะสมกับทั้งทักษะและความต้องการของบริษัท แต่หากจะใช้วิธีการซื้อตัวมาจากที่อื่นเลย ก็อาจจะมีปัญหาในเรื่องของแรงจูงใจความเป็นทีมได้ ดังั้น ควรจะคัดเลือกผู้สมัครอย่างถี่ถ้วน และถ้าคุณสามารถจ้างเขาในฐานะที่ปรึกษาไปก่อนได้ 2-3 เดือนก็ควรทำ อย่างน้อยก็เป็นการทดลองใช้งานก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ
4.ยอมรับในจุดอ่อนของตัวเอง
แม้กับคนที่มีพรสวรรค์ที่สุดก็ยังมีจุดอ่อน หนึ่งในข้อผิดพลาดที่ง่ายที่สุดสำหรับซีอีโอมือใหม่ ก็คือมักจะเพิกเฉยต่อจุดอ่อนของตัวเอง ดังคำที่ว่าไม่มีใครเก่งไปหมดเสียทุกอย่าง
ดังนั้น คำแนะนำก็คือ เมื่อรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณทำได้ดีก็จงทำ แต่อะไรที่คุณไม่ถนัดก็อย่าทำ ปล่อยให้เป็นงานของผู้เชี่ยวชาญจะดีกว่า ซึ่งตรงจุดนี้สามารถใช้วิธีการจ้างที่ปรึกษาเข้ามาช่วยซัพพอร์ทงานบางอย่างได้ สรุปคือ ไม่ต้องทำตัวเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ นั่นเองห
5.ใช้เวลากับการวางแผนให้มาก
ส่วนใหญ่ที่มีการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ก็เพราะผู้ก่อตั้งหรือทีมมีทักษะหรือเก่งในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ แต่มันอาจจะไปตัดการเรียนรู้เรื่องอื่นได้ ซึ่งอาจจะทำให้คุณทำงานผิดพลาดได้ ดังนั้น การให้เวลากับการวางแผนเยอะจะช่วยให้งานลุล่วงได้ ดังเช่นที่ Benjamin Franklin กล่าวอยู่เสมอๆ ว่า “ถ้าคุณไม่วางแผน แผนทั้งหมดของคุณจะล้มเหลว”