ขอบคุณภาพประกอบจาก Bloomberg
ผลิตภัณฑ์แยมช็อกโกแลตผสมฮาเซลนัต Nutella ถือเป็นแบรนด์ในตำนานที่ยืนยงมาเกือบครึ่งศตวรรษ ถือเป็นแบรนด์อิตาลีที่โด่งดังในระดับโลกอีกแบรนด์ แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังของ Nutella นั้นมีความเกี่ยวพันกับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย
ความนิยมของ Nutella เป็นที่เลืองลื่อมาก ถึงขนาด BBC เคยรายงานว่าปัจจุบันมีผู้บริโภคจาก 160 ประเทศบริโภค Nutella กว่า 365 ล้านกิโลต่อปี น้ำหนักนี้เท่ากับตึก Empire State เลยทีเดียว ขณะที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียในอเมริกาเพียงแห่งเดียวเสียเงินค่า Nutella สำหรับอาหารเย็นกว่า 6 พันดอลล่าร์ (ราว 1.8 แสนบาท) ต่อเดือนเลยทีเดียว ความนิยมรุนแรงถึงขั้นมีการประกาศให้วันที่ 5 ก.พ. เป็นวัน World Nutella Day
อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เนยช็อกโกแลตธรรมดานี้เป็นที่นิยมไปทั่วโลกในกระแสโลกป็อบเคาท์เจอร์ Jennifer Lee เจ้าของบล็อก Kirbie’s Cravings กูรูเกี่ยวกับอาหารระบุว่า ส่วนหนึ่งมาจากคนชื่นชอบรสชาติช็อกโกแลตผสมฮาเซลนัตอยู่แล้ว แต่อีกเหตุผลคือช็อกโกแลตกับอาหารเช้าถือเป็นการเติบเต็มแฟนตาซีของผู้ใหญ่ที่อยากกินอาหารเช้ากับช็อกโกแลตมาตั้งแต่เด็ก
ตำนานของ Nutella เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 1940s เมื่อนักอบขนมปังชาวอิตาเลียน Pietro Ferrero เริ่มใช้ช็อกโกแลตผสมกับถั่วเพื่อทดแทนน้ำตาลที่ขาดแคลนอย่างหนักในช่วงสงครามโลก เขาเรียกมันว่า Gianduja ในช่วงแรก และหลังจากเพิ่มเลซิทินลงไป Ferreros ก็เริ่มออกช็อกโกแลตที่สามารถทาขนมปังได้ตั้งชื่อว่า Supercrema Gianduja และต่อมาลูกชายของ Pietro ชื่อว่า Michele เริ่มต้นเรียกมันว่า Nutella ในปี 1964 เป็นคนแรก สโลแกนช่วงแรกของพวกเขาเขียนว่า “A delight to spread on bread” หรือความรื่นรมย์ที่สามารถป้ายลงไปบนขนมปังได้ โฆษณาของแบรนด์มักมาในรูปแบบคุณแม่กำลังเตรียมขนมปังทา Nutella ให้แก่ลูกๆ ก่อนไปโรงเรียน จากนั้นไม่นานโลกก็ยอมรับว่า “ช็อกโกแลต” ก็เป็นอาหารเช้าได้เช่นเดียวกับไข่ดาวและเบคอน
สำหรับในอเมริกา ชาวอเมริกากิน Nutella ได้ตลอดทุกมื้อเพราะคนอเมริกันเชื่อว่ากินช็อกโกแลตแล้วจะอิ่มกว่าปกติ ทั้งๆ ที่โดยทั่วไปแล้วแนะนำให้ทาน Nutella เพียง 2 ช้อต่อมื้อซึ่งจะมีไขมัน 11 กรัมและแคลอรี่มากถึง 200 แคล