เมื่อแบรนด์ประสบความสำเร็จในการควบคุมวิกฤตและหาทางทำให้ทุกอย่างกลับไปสู่ปกติได้แล้ว คุณอาจกลับไปนั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่งและฉลองความสำเร็จ
แต่ช้าก่อนอย่าเพิ่งรีบนิ่งนอนใจเพราะหลายครั้งวิกฤตมันเกิดตามมาอีกครั้งเป็นระลอกที่สองอย่างไม่ให้ตั้งตัว ลองดู 4 ขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณพัฒนาสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำและเตรียมแผนการณ์ให้ทีม crisis communication team เพื่อรับดราม่าในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นได้
1.จำไว้ว่าการกระทำเสียงดังกว่าการพูด
เมื่อแบรนด์ของคุณพัฒนาการทำงานและบอกเรื่องนี้ให้สาธารณชนรับรู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปัญหาเกิดจากสิ่งที่ผู้บริโภคไม่พอใจ อย่าคิดว่าวิกฤตนั้นผ่านไปแล้วก็ผ่านไปแต่จงพัฒนาสิ่งที่ผู้บริโภคเตือนคุณให้ตลอดรอดฝั่ง หากคุณทำได้ก็สามารถพัฒนาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและ engagement บนโลกโซเชียลมีเดีย
2.ทบทวนสถิติต่างๆ
ตัวเลขและสถิติต่างๆ เป็นสิ่งที่คุณต้องนำมาทบทวนและนำเสนอกับผู้บริหารและผู้ถือหุ้นอีกครั้งหนึ่งเพื่อระบุว่าหลังจากวิกฤตแล้วแบรนด์สามารถกลับมาทำกำไรได้อย่างปกติหรือไม่ รวมถึงดูว่าคุณจะมีแผนรับวิกฤตในอนาคตหรือแผนการณ์ PR อะไรบ้าง
3.พัฒนาแผนรับมือวิกฤตในอนาคต
เมื่อเกิดวิกฤตขึ้นครั้งหนึ่งแล้ว คุณควรวางแผนสำรอง A B ไว้ในอนาคต จำลองเหตุการณ์วิกฤตที่อาจเกิดขึ้นและพัฒนาสูตรที่สามารถนำไปใช้ได้ทันที หากมีกลยุทธ์อยู่แล้วก็สามารถพัฒนาแนวทางเดิมๆ ให้ทันสมัยมากขึ้น
4.ปรับเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่
ทุกครั้งที่เกิดวิกฤต คุณอาจได้มุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับบริษัทของคุณในมุมมองของผู้บริโภคหรือได้รู้พฤติกรรมผู้บริโภคใหม่ๆ จงเก็บมันไว้เป็นสมบัติล้ำค่าและกลับมาทบทวนทุกครั้งที่คุณจะเริ่มทำแคมเปญหรือประชาสัมพันธ์ใหม่ๆ ออกไป