เก็บตกความรู้จากงาน Zocial Awards 2016 ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งจะเป็นอย่างไรต่อไป?

งาน Zocial Awards โดย ThothZocial จบไปเรียบร้อยแล้ว ใครได้รางวัลกันไปบ้าง สามารถดูได้จากที่นี่ ประกาศแล้ว! รางวัล ZOCIAL AWARDS สุดยอดโซเชียลของประเทศไทย ปี 2016 แต่ช่วงท้ายของงานมีการสัมมนาโดย 6 ผู้ทรงอิทธิพลในโลกดิจิทัล ได้แก่ Facebook, Instagram , Twitter, Youtube, LINE และ Pantip.com ต่างมาแสดงทัศนะในมุมมองของตัวเองว่า Digital Marketing ในก้าวต่อไปจะเป็นอย่างไร

จำนวน Like ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายอีกต่อไป

สำหรับ Facebook สื่อดิจิทัลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเวลานี้ เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมากได้ทั่วโลก ให้ข้อมูลในประเทศไทยว่า องค์กรทุกระดับรู้จัก Facebook และใช้งานกันแทบทั้งหมดแล้ว เพราะเป็นช่องทางให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึง และมีปฏิสัมพันธ์ได้อย่างรวดเร็ว แต่หลายๆ แบรนด์ยังยึดติดกับจำนวน Like ของ Page อยู่ ซึ่งต้องทำความเข้าใจว่าไม่ใช่คำตอบเดียว

สิ่งที่แบรนด์ต้องให้ความสนใจคือ การ Engagement ของผู้ติดตาม ว่ามีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหน แบรนด์มีคอนเทนต์ที่ตรงใจ และดึงดูดให้ผู้บริโภคสนใจเข้าร่วมมากน้อยแค่ไหน นี่คือเป้าหมายที่ต้องให้ความสำคัญมากขึ้น และเชื่อว่าในอนาคตจะมีเครื่องมือและแพล็ตฟอร์มใหม่ๆ ออกมาเพื่อช่วยให้การทำตลาดง่ายขึ้น แต่ต้องใช้งานอย่างถูกต้อง

IG น้องใหม่มาแรง

สำหรับ Instagram หรือ IG ถือเป็นแพล็ตฟอร์มน้องใหม่ เพราะเพิ่งเปิดให้ทำโฆษณาได้ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการปรับปรุงระบบเพื่อความเหมาะสม และได้รับการตอบรับจากแบรนด์ต่างๆ พอสมควร สิ่งที่ IG พยายามสร้างคือ ระบบ Placement Optimization เพื่อบริหารการลงโฆษณาระหว่าง Facebook และ IG อย่างลงตัวมากขึ้น ช่วยให้การทำโฆษณามีประสิทธิภาพในทั้ง 2 แพล็ตฟอร์ม

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญสำหรับการทำโฆษณาบน IG คือการสร้างสรรค์ ตามข้อมูลพบว่าคนไทยใช้เวลาดู Facebook และ IG 2 วินาทีต่อโพสต์ในการสไลด์ผ่าน ดังนั้นเนื้อหาต้องดึงดูดและโดนใจให้หยุดในทันที ถ้าใช้เนื้อหาเดียวกับสื่ออื่นๆ อาจจะไม่ได้ผล

ลูกค้าระดับกลางบน คือ ฐานของ Twitter

Twitter เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่คนระดับกลางบน และกลุ่ม Influencer นิยมใช้เพื่อนำเสนอคอนเทนต์ ปัจจุบันมีคนไทยใช้งานเกิน 5 ล้านราย ซึ่งแบรนด์สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลนี้ในการสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ และแน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ คอนเทนต์ที่จะนำเสนอออกไป

ในทุกสื่อ รวมถึง Twitter ซึ่งมีข้อจำกัดที่ความยาวของข้อความ ดังนั้นคอนเทนต์ต้องไม่เน้นการขายของเพียงอย่างเดียว ต้องสื่อสารกับผู้บริโภคในเรื่องอื่นๆ เพื่อสร้าง Engagement ที่ดีขึ้นด้วย

4G พา Youtube เติบโตแบบก้าวกระโดด

Youtube ประเทศไทยบอกว่า ภายหลังจากมีบริการ 4G เกิดขึ้น ทำให้การบริโภควิดีโอบน Youtube เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด มีคนไทยพัฒนาคอนเทนต์ใหม่ๆ ออกมาพอสมควร ซึ่งสิ่งที่นักการตลาดใช้งาน Youtube ต้องตอบได้ว่า คนที่มาดู Youtube ต้องการอะไร เช่น Nike ที่นำเสนอวิดีโอการออกกำลังกาย เพราะรู้ว่าคนไม่ได้เข้ามาดูแค่รองเท้า เพราะ Youtube คือ แคมเปญการตลาดแบบถาวร ย้อนมาดูกี่ครั้งก็ได้ไม่รู้จบ (ถ้าไม่ลบไปซะก่อน)

และควรจับตาดู Channel ที่เป็น User Generate Content ให้ดี ที่กำลังมาแรง มียอด Subscribe เกินล้านไปหลายช่องแล้ว แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างชัดเจน

LINE รวมแพล็ตฟอร์มเป็นหนึ่ง มาที่เดียวจบ

LINE ไม่ได้เป็นแค่แอพแชทอีกแล้ว แต่เป็นเครื่องมือให้บริการทางออนไลน์ที่ครบวงจร ด้วยฐานลูกค้า 33 ล้านรายในไทย มี Official Account ของแบรนด์ต่างๆ ที่เป็นเครื่องมือในการทำตลาดแบบถึงมือผู้บริโภคโดยตรงในทันที หลายแบรนด์อาจจะถามถึงยอด Block Rate ใน Official Account แต่ความจริงควรมองในมุมกลับว่ามียอดผู้ใช้ที่ติดตามอยู่เท่าไรมากกว่า เพราะนั่นคือจำนวนคนที่แบรนด์สามารถเข้าถึงได้

จากสถิติ ผู้ใช้ LINE 33 ล้านราย เฉลี่ยมีการ Follow 40 Official Account คำถามคือ จะทำอย่างไรเพื่อเข้าไปเป็น 1 ใน 40 แบรนด์นั้น

“หน้าม้า” คือหายนะของแบรนด์ใน Pantip

Pantip มียอดผู้ใช้งานเฉลี่ย 4.5 ล้านรายต่อวัน เปิดดู 16 ล้านเพจวิว มีคอนเทนต์มหาศาลที่พร้อมให้คำตอบที่น่าเชื่อถือกับผู้บริโภค เพราะผู้บริโภคเชื่อผู้บริโภคด้วยกันเอง จึงเกิดสิ่งที่เรียกวา “รีวิว” ขึ้น ดังนั้นแบรนด์ต่างๆ จึงจ้าง Influencer มารีวิวสินค้า

แต่ปัญหาคือ แบรนด์ต่างๆ จ้าง “หน้าม้า” มาโพสต์ ถามตอบกันเองเพื่อสร้างกระแส ชมกันเอง ซึ่งบอกเลยว่าจะเกิดหายนะกับแบรนด์ เพราะนอกจาก Pantip มีระบบตรวจสอบแล้ว ผู้ใช้ใน Pantip ก็รู้ได้ และจะเกิดผลเสียที่ยากจะแก้ไขกับแบรนด์แน่นอน ทางที่ดีที่สุดคือ ทำดี แล้วผู้บริโภคจะบอกต่อเอง