มือถือกลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตคนด้วยระยะเวลาไม่ถึง 20 ปี ยิ่งมือถือในปัจจุบันที่กลายเป็นสมาร์ทโฟนมีความฉลาดเทียบเท่าคอมพิวเตอร์ ยิ่งส่งผลให้มือถือมีความสำคัญมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้มือถือเป็นเสมือนเครื่องบ่งบอกตัวตนของผู้ใช้งานอีกด้วย หลายครั้งที่มือถือกลายเป็นเครื่องประดับที่ช่วยแสดงให้เห็นถึงฐานะทางการเงิน และหลายครั้งที่มือถือช่วยแสดงให้เห็นถึงความ Smart อีกด้วย
แต่มือถือก็คืออุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ที่มีวันเสียและล้าหลังตกรุ่นได้ ยิ่งในทุกวันนี้ที่มีการเปิดตัวมือถือใหม่ๆ ลงสู่ท้องตลาดทุกปี แถมราคาแทบจะปรับตัวขึ้นตลอดเวลา ทำให้หลายคนที่อยากเปลี่ยนมือถือจำใจต้องใช้เครื่องเก่าไปก่อน หรือบางครั้งที่มือถือมีอาการชำรุด แต่ค่าซ่อมก็แพงจนน่าใจหาย จะขายเพื่อซื้อเครื่องใหม่ก็โดนกดราคาจนเหลือแค่พอซื้อมาม่าได้ไม่กี่ลังเท่านั้น
เพราะความต้องการเปลี่ยนมือถือยังคงมีอยู่ SCI ผู้นำด้านไฟฟ้าและเทคโนโลยี จึงได้ร่วมมือกับ โกลด์ อีลิท ปารีส ผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือทองคำ สร้างบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ บริษัท ยืมมั้ย (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมพันธมิตรอีก 5 ธุรกิจยักษ์ใหญ่ เพื่อนำเสนอบริการยืมโทรศัพท์มือถือรายแรกในไทย ภายใต้แบรนด์ “ยืมมั้ย” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้โทรศัพท์มือถือยุคปัจจุบันและอนาคต พุ่งเป้ายืมทั่วไทย 100,000 เครื่องต่อปี
นายสุทธิเกียรติ กิตติภัทรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยืมมั้ย (ประเทศไทย) จำกัด หรือ คุณมาร์ค เห็นว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือของผู้บริโภคทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยกำลังเปลี่ยนไป โดยใช้โทรศัพท์มือถือนานขึ้นมากกว่า 2 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากราคาโทรศัพท์มือถือที่มีราคาสูงขึ้น หรือการปรับโฉมใหม่ที่แทบไม่แตกต่างจากรุ่นเก่า
แม้จะมีข้อจำกัดหลายด้าน แต่ทุกคนก็ยังอยากจะใช้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ และก้าวให้ทันเทคโนโลยี รูปแบบบริการยืมมือถือจึงเกิดขึ้นและตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด โดยไม่ต้องจ่ายเงินก้อน ไม่ต้องทนใช้มือถือเก่าอีกต่อไป และหมดปัญหาเรื่องมือถือพัง “ยืมมั้ย” จึงเป็นบริการที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้โทรศัพท์มือถือคนรุ่นใหม่ ด้วยแนวคิด “คุ้มกว่า สมาร์ทกว่า” โดยให้บริการยืมโทรศัพท์มือถือ “สมาร์ทโฟน” รุ่นยอดนิยมและรุ่นใหม่ล่าสุดผ่านแอพพลิเคชั่น “ยืมมั้ย” (Yuemmai) ทั้งในระบบ iOS และ Android
รูปแบบการยืมจะเป็นลักษณะสัญญาเช่า 12 เดือน (365 วัน) ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 30 บาทต่อวัน หรือประมาณ 900 บาทต่อเดือน พร้อมค่ามัดจำเริ่มต้นเพียง 575 บาทต่อเดือน และฟรีค่าโทรและค่าอินเทอร์เน็ตรายเดือน จึงทำให้คุ้มค่ากว่าการซื้อเครื่องเปล่าและยังต้องเสียเวลาไปหาแพ็คเกจที่ถูกที่สุด ส่วนค่ามัดจำจะได้รับคืนหลังคืนเครื่องไม่เกิน 7 วัน หรือใช้เป็นค่ามัดจำในการยืมเครื่องรุ่นใหม่ในปีถัดไป
ซึ่งผู้ยืมจะได้รับโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่แกะกล่องทุกครั้ง สามารถชำระเงินเป็นรายเดือนโดยไม่ต้องใช้เงินก้อน โดยพันธมิตรอย่าง SCB จะช่วยดูแลเรื่องการชำระผ่านบัตรเครดิตซึ่งมีความปลอดภัยสูง พร้อมประกันภัยความเสียหายตลอดการใช้งานจากพันธมิตรอย่างเมืองไทยประกันภัย นอกจากนี้ยังฟรีค่าจัดส่งรวมถึงบริการโอนถ่ายข้อมูลไปเครื่องใหม่ที่ปลอดภัย 100% และสิทธิพิเศษโปรโมชั่นร่วมกับร้านค้า/บริการมากมาย
สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักจะเน้นไปที่คนรุ่นใหม่ นักศึกษา พนักงานออฟฟิศและผู้ที่มองหาทางเลือกใหม่ของการใช้สมาร์ทโฟน โดยเฟสแรกผู้ใช้บริการจำเป็นต้องมีบัตรเครดิต รวมถึงกลุ่มลูกค้าองค์กรที่มีความต้องการใช้โทรศัพท์ในธุรกิจหรือเป็นสวัสดิการสำหรับพนักงาน ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายช่องทางการจำหน่ายให้แก่กลุ่มองค์กรจำนวน 15,000 เครื่องต่อปี โดยแบ่งสัดส่วนเป็นลูกค้าทั่วไป 70% และลูกค้าองค์กร 30%
นอกจากนี้ยังเหมาะกับกลุ่มผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานได้ใช้มือถือ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะพัง หรือลูกๆ ที่ต้องการให้คุณพ่อคุณแม่ใช้มือถือ โดยที่ไม่ต้องไปสนใจเรื่องของการชำระค่าบริการมือถือ เพราะแพ็คเกจที่ “ยืมมั้ย” ใส่ไว้ในเครื่องจะเป็นแพ็คเกจ Internet Unlimited โดย “ยืมมั้ย” ชำระค่าบริการรายปีให้เรียบร้อยแล้ว
หายคนอาจจะเริ่มหัวใสใช้บริการ “ยืมมั้ย” แล้วไม่คืนโดยแจ้งว่าเครื่องหาย ผู้ยืมจะต้องชำระค่าบริการทั้งหมดและบวกค่าส่วนต่างของราคามือถือรุ่นนั้นๆ ด้วย ฉะนั้นอย่าคิดหัวใสเพราะบัตรเครดิตที่ใช้มีการระบุตัวตนไว้ชัดเจน สามารถติดตามได้นะ…จะบอกให้!!!!
อ้อ…แว่วว่าในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนนี้จะมีการเปิดบริการให้ยืมนอกเหนือจากมือถือ อาทิ กล้อง Action Camera โดยคิดเป็นรายวัน นอกจากนี้จะมีการนำมือถือค่ายดังระดับโลกเข้ามาเสริมทัพอย่าง Samsung Huawei จากที่เปิดตัวด้วยมือถือเฉพาะ Apple เพียงอย่างเดียว