ถ้าถามว่าค่ายรถยนต์อะไรที่มีรถวิ่งบนท้องถนนเมืองไทยมากที่สุด หลายคนคงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “TOYOTA” นั่นเป็นเพราะโตโยต้าเป็นค่ายรถยนต์ที่มีไลน์การผลิตรถยนต์ครบทุกเซ็กเม้นต์ (Segment) ตั้งแต่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ไปจนถึงรถยนต์นั่งส่วนบุคคล แม้ว่าจะมีบางค่ายที่มีไลน์การผลิตรถยนต์ครบทุกเซ็กเม้นต์เช่นเดียวกับโตโยต้า แต่ด้วยคุณภาพและราคา รวมไปถึงโปรโมชั่นที่โดนใจและอะไหล่ต่างๆ ทำให้สามารถเห็นรถยนต์โตโยต้าได้อย่างน้อย 5 วินาที/คัน
ยิ่งในตลาดอีโคคาร์ที่แข่งกันอย่างดุเดือดจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหาทัพเสริมอย่าง Yaris ATIV อีโคคาร์ 4 ประตูเพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ แน่นอนว่าในตลาดนี้มีทัพหลวงอย่าง VIOS กรำศึกในสงครามนี้มานาน และนั่นคือสัญญาณกลายๆ ให้ VIOS เตรียมตัวล่าถอยก่อนจะปล่อยให้ทัพเสริมบุกเข้าโจมตีอีกระลอก
TOYOTA ส่ง Yaris ATIV
Eco Car 4 ประตู เปิดเกมรุกรถเล็ก
เมื่อโตโยต้าเห็นจังหวะรอบของการเปลี่ยนรถยนต์คันแรก จึงไม่รอช้ารีบส่ง Yaris ATIV รถยนต์อีโคคาร์ 4 ประตูหรือที่เรียกว่ารถซีดาน (Sedan) ลงสู้ศึกตลาดนี้หลังจากที่ในปี 2016 โตโยต้าเพิ่งเปิดตัว Yaris Hatchback 5 ประตูในรูปแบบของรถอีโคคาร์ไป ซึ่งการเปิดตัว Yaris ATIV เพื่อต้องการเสริมตลาดสำหรับคนที่ต้องการใช้รถยยนต์ 4 ประตูมากกว่า 5 ประตู
โดยทางโตโยต้ามองว่ากลุ่มเป้าหมายของ Yaris Hatchback จะเป็นกลุ่มที่ต้องการรถยนต์คันแรกหรือเพิ่งเปลี่ยนรถคันใหม่ เป็นกลุ่มที่มีอายุตั้งแต่ 18-29 ปี มีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเองและไม่ชอบซ้ำใคร ในขณะที่ Yaris ATIV จะเป็นอีกกลุ่มที่มีความใกล้เคียงกันมีอายุตั้งแต่ 22-29 ปี มีความคิดเป็นแบบแผน ชอบความทันสมัย ซึ่งแน่นอนว่าเป็นได้ทั้งกลุ่มที่ต้องการรถยนต์คันแรกหรือเพิ่งเปลี่ยนรถคันใหม่
VIOS กระทบแน่นอน
พร้อมปรับลดยอดการขาย
เมื่อ Yaris ATIV เปิดตัวออกมา คำถามแรกที่เกิดขึ้นตามมาคือ กลุ่มเป้าหมายของ Yaris ATIV และ VIOS มีความใกล้เคียงกันมากจนถึงขั้นเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน แน่นอนว่าต้องมีการเปรียบเทียบและย่อมต้องเกิดผลกระทบกับ VIOS ที่ครองตลาดนี้อยู่ เนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้มีการแบ่งเซ็กเม้นต์ของตลาดได้อย่างชัดเจนในเรื่องของดีไซน์ระหว่าง 5 ประตู (Yaris Hatchback) และ 4 ประตู (TOYOTA VIOS)
แต่เมื่อในตลาดมีรถยนต์ 4 ประตูให้เลือกถึง 2 รุ่น สินค้าใหม่ย่อมมีผลต่อการตัดสินใจ นั่นจึงทำให้หัวเรือใหญ่ของโตโยต้าอย่าง คุณวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ โตโยต้า เอ่ยอย่างชัดเจนว่า “Yaris ATIV กินตลาดของ VIOS อย่างแน่นอน” นอกจากนี้โตโยต้ายังเตรียมรับลดยอดการขาย VIOS ลงจากเดิมที่ตั้งเป้าขายเดือนละ 2,500 คันต่อเดือนลงมาเหลือ 1,500 คันต่อเดือน ขณะที่ Yaris ATIV ตั้งเป้ายอดขายไว้เดือนละ 4,700 คัน แต่คุณวุฒิกรยังแอบหยอดยาหอมว่า
“โตโยต้าคงยังไม่มีมาตรการในการยกเลิกสายการผลิต VIOS เนื่องจากโตโยต้าเชื่อว่า มีกลุ่มเป้าหมายบางส่วนที่ยังชอบเครื่องยนต์ขนาด 1,500 ซีซีอยู่”
Yaris ATIV 4 จุดเด่นกับ 2 ไฮไลต์ต้องจับตา
พร้อมเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ด้วยข้อเสนอพิเศษ
ด้วยภาพลักษณ์ที่โตโยต้าใส่เข้าไปใน Yaris ATIV ให้มีความ Smart Active ภายใต้แนวคิด “Life Activated…เริ่มต้นสู่โลกที่กว้างกว่า” ทำให้มองเห็นถึงจุดเด่นของ Yaris ATIV ได้อย่างชัดเจน โดยโตโยต้าแบ่งจุดเด่นออกเป็น 4 เรื่อง ทั้งเรื่องของ ดีไซน์ (Design) ทั้งภายนอกที่ดูสปอร์ตพร้อมกับสีที่มีมาให้เลือกถึง 7 สีและการออกแบบภายในที่ดูล้ำพร้อมการตกแต่งให้เลือกถึง 2 สีด้วยสีดำและสีเบจ สิ่งอำนวยความสะดวก (Comfort) ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสียงหรือเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ รวมถึงเบาะที่นั่งที่ออกมาแบบให้นั่งขับได้อย่างสบาย
สมรรถนะ (Performance) ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1,200 ซีซี รองรับน้ำมัน E20 และประหยัดพลังงานแบบอีโคคาร์ และความปลอดภัย (Safety) ที่เรียกว่าขนระบบความปลอดภัยในรถยนต์ซีดานรุ่นใหญ่ลงมาใส่ไว้เต็มพิกัด ซึ่งไฮไลต์ที่โดดเด่นของ Yaris ATIV อยู่ที่การออกแบบภายในห้องโดยสารให้มีความเงียบที่เทียบเท่ากับรถยนต์ซีดานในรุ่นใหญ่และแอร์แบค (Airbags) ลุงลมนิรภัยที่ติดตั้งไว้ถึง 7 จุดในทุกรุ่น
ไม่เพียงเท่านี้ โตโยต้ายังได้เปิดราคาแนะนำในช่วงนี้ตั้งแต่ราคา 469,000 – 619,000 บาท พร้อมด้วยข้อเสนอพิเศษครั้งแรกจากโตโยต้า ในรูปแบบของการเช่าซื้อพร้อมประกันภัยและการขยายระยะรับประกันคุณภาพ ซึ่งช่วยให้เจ้าของรถสามารถออกรถได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเงินค่าประกันและอื่นๆ เป็นเงินสด เนื่องจากค่าประกันภัยและค่าการขยายระยะรับประกันจะรวมอยู่ในยอดจัดเช่าซื้อ รูปแบบข้อเสนอพิเศษนี้จะเริ่มทะยอยนำไปใช้กับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ของโตโยต้าอีกด้วย ปัจจุบันข้อเสนอพิเศษดังกล่าวจัดให้เฉพาะกับผู้ที่ใช้บริการโตโยต้า ลีสซิ่ง (Toyota Leasing) เท่านั้น
อย่างที่กล่าวไว้แล้วว่ากลุ่มเป้าหมายอยู่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ดังนั้นการสื่อสารของ Yaris ATIV จึงเน้นไปที่การบ่งบอกตัวตนและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดยโตโยต้าได้เตรียมพร้อมรถโมบายล์เพื่อโปรโมทรถยนต์ Yaris ATIV ในพื้นที่ต่างๆ ที่กลุ่มเป้าหมายนิยมไป พร้อมด้วยกิจกรรมที่ดึงดูดใจ นอกจากนี้โตโยต้ายังเตรียมการสื่อสารผ่านช่องทางโลกออกไลน์ โดยเฉพาะในโลกโซเชียลมีเดียต่างๆ
เปิดตำนานคู่หูฝาแฝด VIOS-Yaris
ตะลุยตลาด Sub-Compact
ในอดีตอาจกล่าวได้ว่า Yaris คือฝาแฝดของ VIOS เพราะแตกต่างกันเพียงรูปทรงเท่านั้น โดยในอดีตรถยนต์ขนาดเล็กสุดในตลาดคือกลุ่ม City Car หรือที่โตโยต้าเรียกว่า Compact Car ในยุคนั้นมี TOYOTA VIOS (ปรับเปลี่ยนมาจาก TOYOTA Soluna) และคู่แข่งอย่าง HONDA City จนกระทั่งคู่แข่งอย่างฮอนด้าเปิดตัว HONDA Jazz รถยนต์ Hatchback 5 ประตูขนาดเล็ก ซึ่งเป็นเซ็กเม้นต์ที่เล็กลงไปอีกในแง่ของขนาด และมีการเรียกตลาดรถยนต์ในเซ็กเม้นต์นี้ว่า Sub Compact ทั้งที่ Jazz ใช้เครื่องขนาด 1,500 ซีซีเท่ากับ City
นั่นทำให้ TOYOTA จำเป็นต้องออกมาสร้างพื้นที่ของตัวเองในตลาดใหม่ด้วยการเปิดตัว Yaris ในปี 2548 (คนละโฉมกับที่สร้างมาทดแทน Starlet) ด้วยสเปคเครื่องยนต์แบบเดียวกับ VIOS ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 1,500 ซีซี จนกระทั่งเมื่อกระแส Eco Car มาคุู่แข่งอย่างฮอนด้าจึงชิงความได้เปรียบด้วยการเข้าสู่ตลาดก่อน ขณะที่โตโยต้ายังไม่เห็นด้วยกับบางเรื่องของตลาดอีโคคาร์ในประเทศไทย จนเมื่อตลาดอีโคคาร์มีการผ่อนปรนมากขึ้น โตโยต้าจึงได้นำ Yaris มาปัดฝุ่นพร้อมทั้งใช้โอกาส “Model Change” รุ่น Yaris ให้ลงมาสู้ศึกอีโคคาร์อย่างเต็มตัว
งานนี้บอกได้เลยว่าเป็นศึกภายในของโตโยต้าเอง เพราะแม้ว่าความต้องการของเครื่องยนต์ 1,500 ซีซีจะยังมีอยู่ แต่ด้วยความสดใหม่ของ Yaris ATIV แน่นอนว่าโตโยต้าคงต้องอัดฉีดทุกกลยุทธ์การตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ซึ่งหมายถึงการช่วงชิงพื้นที่ในใจของกลุ่มเป้าหมาย และจากท่าทีของโตโยต้าที่มีการปรับลดยอดการขายของ VIOS ลง นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า นับจากนี้ VIOS จะไม่มีการทำการตลาดหรือทำการตลาดน้อยลงกว่าเดิม และเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ภาษาการตลาดเรียกว่า “ยอดขายต่ำกว่าจุดคุ้มทุน” ก็อาจจะได้เห็น VIOS เป็นเพียงตำนานบทหนึ่งของตลาดยานยนต์ไทย…เว้นแต่จะมีปฏิหารย์!!!
Copyright © MarketingOops.com