รู้หรือไม่ว่า ?! สิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับ “ยาคูลท์” มายาวนานตลอดระยะเวลากว่า 80 ปีนับตั้งแต่ออกวางจำหน่ายในญี่ปุ่น นอกจาก “แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ สายพันธุ์ ชิโรต้า” หรือ “จุลินทรีย์ชิโรต้า” ที่เป็นจุดเด่น และจุดขายสำคัญที่อยู่ในการรับรู้ของผู้บริโภคแล้ว ยังมี “สาวยาคูลท์” หรือ “Yakult Ladies” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในต้นแบบของการพัฒนาระบบการขายรูปแบบ “Door to Door” หรือ “Direct Sale” ก็ว่าได้
สำหรับในประเทศไทย “ยาคูลท์” เริ่มจำหน่ายในไทยเมื่อปี 2514 โดย “คุณประพันธ์ เหตระกูล” ผู้ก่อตั้ง บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมทั้งนำโมเดลการขายรูปแบบ Door to Door “สาวยาคูลท์” มาปรับใช้กับประเทศไทย
โมเดลการขายผ่าน “สาวยาคูลท์” นี่เอง ที่ทำให้นมเปรี้ยวแบรนด์นี้ แจ้งเกิดในไทยได้ และเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ผลักดันให้ “ยาคูลท์” ครองความเป็นผู้นำตลาด Culture Yoghurt ในประเทศไทยมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ
ล่าสุดได้เห็น “บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด” เปิดรับสมัครพนักงานเพื่อปฏิบัติงานเป็น “สาวยาคูลท์” จำนวนมาก โดยมีมาตรการอย่างเข้มข้นในการดูแลด้านความสะอาด และปลอดภัยของกระบวนการผลิต อีกทั้งยังดูแลสุขภาพ สุขอนามัยของสาวยาคูลท์อย่างสูงสุด ซึ่งบริษัทฯ ได้ทำการแจกหน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์เจล สำหรับล้างมือ เพื่อให้สาวยาคูลท์ใช้สำหรับดูแลป้องกันตนเองจากเชื้อโรคต่าง ๆ และสามารถส่งนมเปรี้ยวยาคูลท์ ถึงมือผู้บริโภคได้อย่างปลอดภัย ถูกสุขอนามัยมากที่สุด
สำหรับคุณสมบัติของบุคคลที่จะมาเป็นสาวยาคูลท์ คือ มีอายุตั้งแต่ 18-40 ปี เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ขึ้นไป และ มีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ เพียงเท่านั้น
โดย สาวยาคูลท์จะได้รับเงินเดือนคอมมิชชั่น ซึ่งบริษัทการันตีว่าเป็นรายได้ที่ดีอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีสวัสดิการอื่น ๆ อาทิ มีค่ารักษาพยาบาล ประกันอุบัติเหตุ มีที่พักอาศัยในรูปแบบหอพักสำหรับสาวยาคูลท์ อีกทั้งสาวยาคูลท์ทุก ๆ คน บริษัทฯ จะมีรถจักรยานยนต์ให้ใช้ในการปฏิบัติงาน
นอกจากนี้ สาวยาคูลท์ที่มีครอบครัว บริษัทฯ ก็จะดูแล สนับสนุนด้านการศึกษาสำหรับบุตร โดยมีทุนการศึกษาค่าเล่าเรียนบุตรของสาวยาคูลท์ อีกด้วย
การรับสมัคร “สาวยาคูลท์” จำนวนมาก นับว่าสวนทิศทางเศรษฐกิจโลก และประเทศไทยที่อยู่ในภาวะชะลอตัว ที่ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ มักจะปรากฏข่าวลดจำนวนพนักงาน เพื่อประหยัดต้นทุนองค์กร หรือร้ายแรงกว่านั้น Lay Off พนักงาน!!
แต่ทำไม “ยาคูลท์” ถึงยังคงเลือกเดินหน้ารับสมัคร “สาวยาคูลท์” ?!? ไปค้นหาคำตอบกัน
3 เหตุผลเบื้องหลัง “สาวยาคูลท์” กองทัพขายสำคัญ
ปัจจุบันในประเทศไทยมี “สาวยาคูลท์” กว่า 3,000 – 4,000 ราย ทำหน้าที่กระจายสินค้าให้กับสมาชิกกว่าล้านครัวเรือน และถือเป็น “Role Model” ระบบขายตรงในตลาดผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนมในประเทศไทย
1. “สาวยาคูลท์” คือ Sale Force ที่มีบทบาทสำคัญผลักดันสินค้าถึงมือผู้บริโภคตามครัวเรือนต่างๆ และร้านค้าปลีกรายย่อย โดยเฉพาะร้านโชห่วยที่มีอยู่ทั่วทุกแห่งในประเทศไทย
ประกอบกับด้วยคุณลักษณะสินค้าที่ผลิตใหม่สดทุกวัน ดังนั้นระบบขายตรงผ่านสาวยาคูลท์ จึงสามารถรักษาคุณภาพสินค้าความสดใหม่และจุลินทรีย์ได้ดี
2. “สาวยาคูลท์” เป็นทั้ง Brand Ambassador และทำหน้าที่สร้าง Brand Relationship หรือความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์ “ยาคูลท์” กับ “ลูกค้า”
จะสังเกตได้ว่าคุณลักษณะหนึ่งของ “สาวยาคูลท์” คือ ยิ้มแย้ม อัธยาศัยดี และเมื่อบวกกับ “ตัวสินค้า” ที่ขายได้ในตัวเองอยู่แล้วด้วยจุดเด่นของ Functional Benefit จึงทำให้สามารถรักษาฐานลูกค้าประจำได้อย่างเหนียวแน่น ควบคู่กับ
3. “สาวยาคูลท์” ทำหน้าที่ Educate “คุณสมบัติสินค้า” นั่นคือ แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ สายพันธุ์ ชิโรต้า หรือ จุลินทรีย์ชิโรต้า