เปิดตัวสุดว้าว! WoW Nut by Taokaenoi ยกระดับถั่วลายเสือแม่ฮ่องสอนสู่ตลาด Healthy Snack พรีเมียม

เมื่อพูดถึง “เถ้าแก่น้อย” เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงสาหร่ายอบกรอบแสนอร่อยที่สร้างชื่อจนโด่งดังไกลระดับโลก แต่ล่าสุดทางแบรนด์กำลังขยายธุรกิจครั้งสำคัญ กับการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “WoW Nut by Taokaenoi” ที่มีสินค้าหลัก เป็นผลิตภัณฑ์ถั่วลายเสือคั่วสุดพรีเมียม โดยหยิบเอาวัตถุดิบขึ้นชื่อจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาปั้นใหม่ในตลาดขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ พร้อมโมเดลธุรกิจช่วยเหลือสังคม รวมถึงเกษตรกรในพื้นที่อย่างเข้มข้น ลุยตลาด Healthy Snack เต็มตัว ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภครักสุขภาพ

‘WoW Nut by Taokaenoi’ ความอร่อยที่มาพร้อมสุขภาพ

สำหรับถั่วลายเสือนั้นมีความพรีเมียม มีแหล่งปลูกที่อุดมสมบูรณ์ไม่มาก ขึ้นชื่อเรื่องเอกลักษณ์ที่เม็ดมีลวดลายเสือ และหายากที่สุดชนิดหนึ่งในประเทศไทย โดยเฉพาะถั่วลายเสือ GI ที่ถือเป็นถั่วลายเสือที่ดีที่สุด ต้องปลูกเฉพาะใน 4 อำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอนเท่านั้น ได้แก่ อำเภอขุนยวม, อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน, อำเภอปางมะผ้า และ อำเภอปาย ซึ่งพื้นที่ทั้ง 4 อำเภอนี้มีสภาพดิน น้ำ และอากาศเฉพาะตัว ทำให้ได้ถั่วลายเสือคุณสมบัติพิเศษ

ลวดลายเสือชัดเจน เอกลักษณ์สำคัญในการยืนยันถึงแหล่งที่มา และคุณภาพของผลิตภัณฑ์
เมล็ดใหญ่พิเศษ ถูกคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันทุกเมล็ด มีความพรีเมียม ผ่านกระบวนการคัดกรองคุณภาพในทุกขั้นตอนการผลิต
รสชาติพรีเมียมที่หาทานได้ยากจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนเท่านั้น แตกต่างจากถั่วประเภทอื่นอย่างชัดเจน เพราะถั่วลายเสือมีรสชาติหวานมันโดดเด่นด้วยตัวเองตั้งแต่ต้น
คัดสรรคุณภาพที่ดีที่สุด ด้วยการยกระดับเกษตรกรในพื้นที่ และระบบการคัดเลือกพิถีพิถัน

นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญต่อสุขภาพอย่างครบถ้วน

โปรตีนคุณภาพสูง เหมาะกับทั้งผู้รักการออกกำลังกาย-ผู้ที่กำลังดูแลรูปร่าง
วิตามินอี ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณ พร้อมต้านอนุมูลอิสระ
วิตามินบี จำเป็นต่อระบบประสาทและการทำงานของสมอง
แมกนีเซียม–โพแทสเซียม ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบหัวใจ
ใยอาหารสูง ช่วยระบบขับถ่าย พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย

หลังจากศึกษาวิจัย และพัฒนาสูตรเป็นเวลามากกว่า 1 ปี โดยทีม R&D ผู้เชี่ยวชาญของเถ้าแก่น้อย จนเกิดเป็นแบรนด์ WoW Nut ในที่สุด ถั่วลายเสือคั่วสุดพรีเมียม ซึ่งมาพร้อมกับ 2 รสชาติที่ผ่านกระบวนการคั่วแบบดั้งเดิม โดยไม่ทำลายรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของถั่วลายเสือ ใช้วิธีคั่ว ไม่ทอด ตอบโจทย์ทุกเพศ ทุกวัยที่รักสุขภาพ

รสออริจินัล โดดเด่นด้วยรสชาติธรรมชาติ และผ่านการคั่วจนได้กลิ่นหอมกรุ่นของถั่วแท้ ไม่มีการปรุงแต่งเพิ่มเติม ใครที่ชื่นชอบความอร่อยแท้จากวัตถุดิบคุณภาพสูงน่าจะถูกใจรสนี้
รสเกลือชมพู ผสานเกลือหิมาลายันสีชมพูซึ่งกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ ช่วยเพิ่มมิติความอร่อยด้วยรสชาติกลมกล่อม เหมาะเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ต้องการรสชาติเค็มเบาๆ ในรูปแบบ Healthy Snack

ทั้ง 2 รสชาติ มาใน 2 ขนาด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ได้แก่ ขนาด 25 กรัม เหมาะสำหรับเป็นสแน็คติดตัว ทานง่ายได้ทุกที่ ทุกเวลา ส่วนขนาด 55 กรัม จะเหมาะสำหรับแบ่งปันความอร่อยกับเพื่อนหรือครอบครัว

นอกจากการใส่ใจในผลิตภัณฑ์แล้ว เถ้าแก่น้อยยังสร้างความโดดเด่นทางการตลาดด้วยการเปิดตัวแมสคอตสุดน่ารัก “น้องเสือไนเกอร์” เพื่อเป็นตัวแทนในการสื่อสารคุณค่า พร้อมความสนุกสนานของแบรนด์ไปสู่กลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัย ตอกย้ำแนวคิด “อร่อยจนร้องว้าว!” อย่างน่าจดจำ

ต่อยอดกลยุทธ์ ‘GO BROAD’ ขยายธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง จับโอกาสเทรนด์สุขภาพมาแรง

ด้านคุณต๊อบ อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) เผยกลยุทธ์ 3 GO ซึ่งทางแบรนด์เถ้าแก่น้อยยึดถือเป็นหลักในการดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน ประกอบไปด้วย

– GO FIRM

– GO BROAD

– GO GLOBAL

ผลิตภัณฑ์ถั่วลายเสือคั่ว จากแบรนด์ ‘WoW Nut by Taokaenoi’ เรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ GO BROAD โดยมุ่งเน้นการขยายธุรกิจ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์ เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์สินค้าให้ตอบโจทย์ทุกเซกเมนต์ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

นอกจากนี้ ภายใต้แผนกลยุทธ์ Everywhere Every moment เน้นการขยายตลาด พัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทสแน็คที่เชื่อมโยงกับสาหร่ายเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะในช่วงหลังโควิด-19 ตลาดขนมขบเคี้ยวได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว สแน็คประเภทถั่วได้รับความนิยมจนขึ้นเป็น Top 3 ในกลุ่มขนมขบเคี้ยว และยังถือเป็น Healthy Snack ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย ทางแบรนด์จึงเล็งเห็นโอกาสตรงนี้ และเกิดเป็นแบรนด์ Wow Nut ในที่สุด

‘เถ้าแก่น้อย x แม่ฮ่องสอน’ โมเดลธุรกิจที่สร้างคุณค่าเพื่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

แม้การจับเทรนด์สุขภาพของผู้บริโภคจะเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของแบรนด์ แต่ความสำเร็จของการทำธุรกิจไม่ได้วัดกันที่ผลกำไรอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ยังวัดด้วยผลกระทบที่ธุรกิจสร้างขึ้นต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมด้วย ด้านแบรนด์ WoW Nut by Taokaenoi จึงดึงหลัก ESG (Environment, Social, Governance) เข้ามาเป็นแกนหลักของการดำเนินธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ มุ่งสร้างคุณค่าร่วมกันกับชุมชนอย่างยั่งยืน ผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับจังหวัดแม่ฮ่องสอน

“จุดเริ่มต้นของ WoW Nut มาจากการที่เถ้าแก่น้อยได้ลงพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และพบว่าถั่วลายเสือคือพืชเศรษฐกิจที่มีเอกลักษณ์ หาแหล่งปลูกที่อุดมสมบูรณ์ที่แม่ฮ่องสอนได้ยาก และมีคุณภาพสูง ทั้งยังต้องปลูกใน 4 อำเภอ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนเท่านั้น ถึงจะได้รับ GI ประกอบกับได้รับรู้ถึงความยากลำบากของเกษตรกรในพื้นที่ จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับชีวิตของเกษตรกรไทย” คุณต๊อบ เล่าถึงจุดกำเนิดของ WoW Nut

โดยคุณต๊อบเผยถึงการนำหลัก ESG มาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนด้วย 4 แกนหลักสำคัญ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การก้าวเข้าสู่ตลาดถั่วลายเสือครั้งนี้ ไม่ได้มีแค่ความอร่อยเท่านั้น แต่ยังแฝงไปด้วยความตั้งใจในการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น

ช่วยให้เกษตรกรมีอาชีพ

มีการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกถั่วลายเสือมากขึ้นกว่า 200 ไร่ ส่วนจำนวนเกษตรกรที่เคยปลูกถั่วลายเสือจากเดิมมีเพียง 88 ราย ขยายเพิ่มเป็น 207 รายในปัจจุบัน ทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กลายเป็นแหล่งรายได้หลักที่มั่นคงแก่เกษตรกรในพื้นที่

เพื่อให้เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว เถ้าแก่น้อยยังให้การสนับสนุนด้านความรู้ ผ่านการจัดอบรมด้านการเกษตรที่ถูกวิธี เพื่อบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย

สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

ในปี 2567 เกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำบ่อสะเป่ มีรายได้รวมสูงถึง 7,667,470 บาท ส่วนสมาชิกกลุ่มมีรายได้เฉลี่ยต่อปีเพิ่มขึ้นเป็น 164,755 บาทต่อคน จากเดิม 81,182 บาทต่อปี เพิ่มขึ้นกว่า 197% ทำให้ชาวบ้านในชุมชนหันมาสนใจการเกษตรมากขึ้น จนไม่จำเป็นต้องอพยพไปทำงานต่างพื้นที่อีกต่อไป ส่งผลให้ครอบครัวสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างอบอุ่นมั่นคงในถิ่นฐานเดิม

เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร

เถ้าแก่น้อยยังมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มาจากถั่วลายเสืออื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคต รวมถึงผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลจากเปลือก และลำต้นของถั่วลายเสือ อาทิ จาน ถ้วย และกระบอกน้ำ ซึ่งกลายเป็นกิมมิคในการสร้างแบรนด์ เพิ่มรายได้ และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของจังหวัดให้โดดเด่นขึ้น

รักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

อีกหนึ่งมิติสำคัญของความร่วมมือนี้คือ การช่วยลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ซึ่งเถ้าแก่น้อยได้ร่วมกับกรมป่าไม้ ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้พื้นที่ปลูกเดิมอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องเผาป่าหรือเผาวัชพืช เพราะต้นถั่วลายเสือมีวงจรการปลูกเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถนำซากพืชไปใช้ทำปุ๋ยชีวภาพได้ทันที

ลำต้น และเปลือกถั่วยังถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น เชื้อเพลิงชีวมวล กระดาษรีไซเคิล ปุ๋ย และอาหารสัตว์ รวมถึงผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ถ้วย จาน กระบอกน้ำ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย

ทั้งหมดนี้ทำให้เถ้าแก่น้อยกลายเป็นแบรนด์ที่ไม่ได้เพียงแค่ประสบความสำเร็จเชิงธุรกิจ แต่ยังมีส่วนร่วมในการยกระดับชีวิตผู้คน สร้างเศรษฐกิจเข้มแข็งให้แก่ชุมชน ทั้งยังคงรักษาสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนไปพร้อมกัน ถือเป็นต้นแบบธุรกิจแห่งอนาคตที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวกในทุกมิติอย่างแท้จริง

เครื่องหมาย GI พิเศษ เพื่อ ‘WoW Nut’ เท่านั้น

หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ WoW Nut ไม่เหมือนใคร คือการได้รับตรา GI (GEOGRAPHICAL INDICATION) ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาออกแบบพิเศษขึ้นมาใหม่ ซึ่งปกติสินค้าที่ได้รับตรา GI วัตถุดิบจะต้องเพาะปลูกและผลิตในพื้นที่นั้นเท่านั้น แต่ WoW Nut เป็นแบรนด์แรก แบรนด์เดียวในประเทศไทย ที่ใช้ตรา GI พิเศษนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำวัตถุดิบไปผลิตยังโรงงานที่ได้มาตรฐานนอกพื้นที่ได้

ตราสัญลักษณ์นี้จึงเป็นสิ่งยืนยันถึงคุณภาพของถั่วลายเสือที่ผลิตจากบ้านน้ำบ่อสะเป่ อำเภอปางมะผ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งมี GI รับรอง

ถั่วลายเสือ ถั่วไทยพรีเมียม หาทานยาก เถ้าแก่น้อยจัดให้ ‘ทั้งประเทศ!’

ก่อนหน้านี้ ถั่วลายเสือของแม่ฮ่องสอนถือเป็นของดีหาซื้อยาก เนื่องจากไม่มีการจัดจำหน่ายอย่างทั่วถึง ทำให้เถ้าแก่น้อยเป็นแบรนด์แรกที่เข้ามาพัฒนา พร้อมจัดจำหน่ายอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยช่องทางจำหน่ายครอบคลุมร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven, TAOKAENOI LAND, ร้านค้าของแม่ฮ่องสอน และเดือนมิถุนายนนี้ ในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศ กับแบรนด์ WoW Nut ถั่วลายเสือคั่วจึงขอส่งต่อถั่วลายเสือสุดพรีเมียมให้คนทั้งประเทศได้สัมผัสความอร่อย และสุขภาพดีไปพร้อมกัน