นุ่น วรนุช เปิดตัวธุรกิจเครื่องสำอาง พร้อมบุกตลาดจีน ยืนยันไม่ได้ทำเป็นของเล่น ไม่คิดยืมมือ ‘สิงห์’ ช่วยอุ้ม

อาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่ดาราหันมาจับธุรกิจ แต่จะมีดาราสักกี่คนต่างหากที่ทำธุรกิจแล้วประสบความสำเร็จ “นุ่น วรนุช ภิรัมย์ภักดี” นักแสดงสาวระดับแถวหน้าของวงการ ไม่มีใครปฏิเสธความสามารถระดับสุดยอดด้านการแสดงของเธอ แต่เธอก็เป็นศิลปินอีกคนหนึ่งที่ทำธุรกิจมากมาย แต่ในการทำธุรกิจของเธอนั้นจะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับงานด้านการแสดงของเธอหรือไม่ ลองมาฟังทัศนะจากเธอกันดู

“นุ่น วรนุช” มาในชุดเดรสสีดำดูสง่าสวยสมกับเป็นนางเอกแถวหน้า เธอมาเพื่อที่จะแถลงข่าวเปิดธุรกิจตัวใหม่ของเธอ WORRA By WORANUCH ธุรกิจเครื่องสำอางตัวใหม่ล่าสุดในนามนุ่น วรนุช ซึ่งเธอกล่าวว่า สนใจในธุรกิจเครื่องสำอางนี้มา 7-8 ปีแล้ว และอยากจะมีแบรนด์เป็นของตัวเองสักแบรนด์หนึ่ง แต่ยังไม่มีความรู้เพียงพอ จึงต้องไปหาความรู้มาเพิ่มเติม เก็บข้อมูลต่างๆ จนในที่สุดก็ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวนี้ที่ชื่อว่า Brightening Day & Overnight Cream ในนามแบรนด์ WORRA BY WORANUCH ซึ่งใช้เวลาในการพัฒนาโปรดักส์อยู่ 2 ปี เพราะอยากจะให้คนไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ดีๆ ที่เป็นของคนไทยทำเอง

สำหรับงบประมาณในการทำแบรนด์นั้น นุ่น เผยสั้นๆ ว่า ใช้เงินเยอะพอสมควรอยู่ที่ตัวเลข 8 หลักด้วยกัน โดยแบ่งเป็นงบด้านการตลาด 20% เนื่องจากว่าแบรนด์นี้ตั้งใจว่าจะส่งออกไปที่ตลาดจีน ลาว และพม่าด้วย ทำให้ใช้งบประมาณเยอะพอสมควร โดยตอนนี้ต้องไปจดลิขสิทธิ์ที่จีนและลาวก่อน

สำหรับช่องทางในการจัดจำหน่ายที่จีนนั้นนอกจากช่องทางออนไลน์แล้วก็ยังวางไว้ที่ไทยพาวิเลียนทั้ง 7 สาขา ส่วนสาเหตุที่ไปจีนนอกจากตลาดจีนจะเป็นตลาดที่ใหญ่แล้ว ตนยังมีฐานแฟนคลับที่นั่นด้วยก็น่าจะช่วยในการทำตลาดได้ สำหรับกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่อายุ 18 ปีถึง 45 ปี เป็นตลาดกลุ่มแมส

“ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ นุ่นเองก็ใช้มา 2 ปีแล้ว ก็ใช้ตัวเองนี่แหละการันตีว่าผลิตภัณฑ์ดีจริงๆ เพราะมีสารสารสกัดจากธรรมชติ Gigawhite ดอกไม้และพืช 7 ชนิดจากเทือกเขาแอลป์, อัลฟ่า อาร์บูติน, รังนก, โสม, ทับทิม, ไข่มุก ช่วยลดและป้องกันการสร้างเม็ดสี ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ฟื้นฟูกระบวนการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื่น กระชับ และขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ คืนความอ่อนเยาว์และเผยผิวใหม่ที่สดใสและเนียนยิ่งขึ้น ฟื้นฟูผิวลึกถึงระดับเซลล์ผิวเพื่อคงผิวสวยไว้ให้อยู่คู่คุณอย่างยาวนาน ที่สำคัญคือปลอดสารต้องห้าม 100% ในราคาจำหน่ายกระปุกละ 2,480 บาท แต่ในช่วงโปรโมชั่นนี้จะเหลือเพียงแค่ 1,480 บาท”

สำหรับช่องทางการขายนั้น จะเริ่มต้นจาก Online โดยสั่งซื้อได้ที่ LINE@ – @worra และทาง Facebook Worra Worra ขณะที่ทิศทางในทางการตลาดนั้น นุ่น กล่าวว่า เราจะใช้วิธีการติดตามมอนิเตอร์ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกก่อนว่าฟีดแบ็คเป็นอย่างไร ต้องเพิ่มเติมตลาดในส่วนไหนหรือไม่ ดังนั้น นอกเหนือจากช่องทางออนไลน์แล้ว ก็ยังอยู่ในช่วงพิจารณาว่าจะจัดจำหน่ายช่องทางอื่นๆ อีกหรือไม่ โดยตั้งเป้าในเดือนแรกคาดว่าน่าจะทำยอดขายได้ 10,000 ชิ้น แต่ในกลางปีนี้ราวๆ เดือนเมษายนก็จะมีผลิตภัณฑ์กันแดดออกมาใหม่ด้วย

ในส่วนของจุดขายของแบรนด์นั้น วรนุช กล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ให้มั่นใจในความเป็น นุ่น วรนุช แน่นอนว่าเราปฏิเสธไม่ได้ว่ามีนุ่นเป็นจุดขาย แต่ในความเป็นนุ่นนั้น คือเราจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับทุกคน ยืนยันว่าสิ่งที่นุ่นทำออกมานั้นทุกอย่างตั้งแต่ดีไซน์โลโก้ แพ็คเกจ วัตถุดิบในการทำ รวมไปถึงขั้นตอนต่างๆ เราใส่ใจในทุกรายละเอียดจริงๆ และในราคาที่เรียกว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน แต่แม้ว่านุ่นจะบอกแค่ไหนว่ามันดีอย่างไร ก็ไม่เท่าที่ลูกค้าใช้แล้วเห็นผลเอง และบอกว่ามันดี”

อย่างไรก็ตาม คุณนุ่นกล่าวยืนยันว่า ธุรกิจของตัวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับทางสิงห์คอร์เปอเรชั่นเลย มีแค่ช่วยในเรื่องการทำประชาสัมพันธ์เชิญสื่อแถลงข่าวให้ แต่การทำงานทั้งหมดเป็นคนลุยเองทำเอง

“เรื่องธุรกิจนุ่นก็ซึมซับมาจากคุณต๊อด (ปิติ ภิรมย์ภักดี) บ้าง เช่นเรื่องการได้ติดตามข่าวสารบ้านเมือง ว่าอะไรเป็นอะไรเราต้องรู้เรื่องรอบๆ ตัวด้วย เพื่อวิเคราะห์การทำธุรกิจให้ออก อย่างเมื่อก่อนก็ไม่เคยเล่นเฟซบุ๊กหรือโซเชียลอะไรเลย ตอนนี้ก็ต้องศึกษาให้มากเพราะว่าทุกอย่างมันกำลังไปในทางทิศทางดิจิทัลก็เลยต้องหันมาเล่นเฟซบุ๊กบ้าง ไอจีบ้างเพื่อให้ความเข้าใจในการขายสินค้าออนไลน์ด้วย”

เชื่อมั่นในสภาวะเศรษฐกิจไทยแค่ไหน?

ในปีนี้คิดว่าผู้บริโภคน่าจะมีกำลังซื้อมากกว่าปีก่อนๆ เยอะ อันนี้เราเปรียบเทียบกับตัวเองที่เห็นนักท่องเที่ยวเยอะขึ้น ผู้คนจับจ่ายมากขึ้น หรือแม้แต่ร้านอาหารของตัวเองที่มีหุ้นอยู่กิจการก็คึกคักและกำไรค่อนข้างดีด้วย ดังนั้น คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจจะคึกคักมากขึ้น เรื่องนี้จึงไม่ได้กังวลอะไร

คิดอย่างไรกับคำที่ว่าการเปิดธุรกิจของดาราคือของเล่นใหม่สำหรับคนรวย?

คุณนุ่นกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “นุ่นไม่ใช่คนรวยอะไร ก็เป็นแค่คนทำมาหากินธรรมดาคนหนึ่ง ธุรกิจทุกวันนี้ที่มีก็เก็บเงินด้วยตัวเอง ทำด้วยตัวเอง อย่างการทำแบรนด์เครื่องสำอางตรงจุดนี้ก็เพราะเราคิดว่าเรามีความสนใจ และเติบโตมากับการดูแลเรื่องความสวยความงาม ดังนั้น จึงอยากใช้ความรู้และประสบการณ์ตรงนี้แบ่งปันกับทุกคนมากกว่า อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าใช้ตัวเองในการพีอาร์ เพราะมีคนรู้จักเราเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว”

ความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ?

คุณนุ่นกล่าวว่า มันคือเรื่องการลงทุน อย่างการเป็นนักแสดงการลงทุนของเราคือ ‘ตัวเรา’ คือเราเอาตัวเราและความสามารถของเราไปใช้ แต่การทำธุรกิจเราต้องลงทุนแรง เงิน ด้วยตัวของเราเอง และมันมีกระบวนการมากมายในการทำธุรกิจตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น การตัดสินใจเลือกโลโก้ คอนเซ็ปต์ สี ทุกขั้นตอนมันต้องเริ่มจากศูนย์หมด มันมีรายละเอียดมากๆ เลย

เคล็ดลับในการทำธุรกิจแบบนุ่น?

“เราเลือกทำในสิ่งที่เราชอบ และสิ่งที่เราสนใจจริงๆ เพราะถ้าเรามีความหลงใหลในสิ่งไหนเราก็จะทำมันออกมาได้ดี อย่างมีครั้งหนึ่งตนเคยต้องให้สัมภาษณ์เรื่องธุรกิจ แต่เกิดความผิดพลาดเรื่องสคริปต์ทำให้ต้องด้นสด สุดท้ายเราก็ทำได้และทำได้น่าพอใจด้วย ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดนุ่นคิดว่าการรันโปรเจ็คต์นั้นๆ ด้วยความชอบด้วยตัวเองจะทำให้เรารู้จริงและทำให้มันสำเร็จได้จริงด้วย”

ธุรกิจของ นุ่น วรนุช ในปัจจุบัน

สถาบันนาฏก เป็นโรงเรียนนาฏศิลป์ เปิดรับสอนรำไทย บัลเลต์ โมเดิร์น แจ๊ส ฯลฯ
ร้านส้มตำแสนแซ่บ ร้านอาหารอีสานสไตล์โมเดิร์น
ธุรกิจคอนโดมีเนียม The Peace condominium เดอะ พีซ คอนโดมิเนียม
รถสุขาเคลื่อนที่/รถบ้าน
ธุรกิจขายหมวกนำเข้าจากต่างประเทศ

สำหรับธุรกิจเครื่องสำอางนั้นเธอเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว 100% ขณะที่ธุรกิจอื่นๆ นั้นเธอมีหุ้นส่วนเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยที่ร้านส้มตำแสนแซ่บถือหุ้นใหญ่สุดและเป็นกิจการที่สร้างกำไรมากที่สุดของเธอด้วย