ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตอนนี้การเรียนกวดวิชามีความจำเป็นอย่างมากสำหรับเด็กไทย เนื่องจากปัจจุบันหลักสูตรการเรียนในห้องเรียนมีความยากและซับซ้อนมากขึ้น เนื่องด้วยสังคมในทุกวันนี้เน้นการสอบ การแข่งขัน ทำให้นักเรียนส่วนใหญ่เลือกเรียนกวดวิชา เพราะต้องการเทคนิคการสอนที่แตกต่างจากในโรงเรียน อยากทำคะแนนได้ดีในวิชานั้นๆ และต่อยอดไปสู่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยและคณะที่ต้องการได้
จากข้อมูลล่าสุดของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ที่คาดการณ์ว่า เม็ดเงินค่าใช้จ่ายบริการด้านการศึกษาในช่วงเปิดเทอมใหญ่เดือนพฤษภาคม 2559 สำหรับบุตรหลานในระดับก่อนอุดมศึกษา จากผู้ปกครองทั่วประเทศไทยคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 60,900 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 2% ที่มีมูลค่า 59,700 ล้านบาท) โดยเป็นค่าเทอมโรงเรียนเอกชน 40,600 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากค่าเทอม 16,700 ล้านบาท ค่าเรียนกวดวิชา 2,800 ล้านบาท และค่าเรียนเสริมทักษะอื่นๆ 800 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมตลาดสถาบันกวดวิชาในช่วงที่ผ่านมา พบว่า มีจำนวนโรงเรียนเปิดใหม่เพิ่มขึ้นมาก แต่ด้วยจำนวนผู้เรียนที่มีจำกัด จากข้อมูลของ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ได้คาดการณ์จำนวนประชากรช่วงอายุ 15-19 ปี จาก 4,523,000 คนในปี 2558 จะลดลงไปสู่ระดับ 4,207,000 ในปี 2563 ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่ไม่ดีนัก ทั้งในปีนี้และปีหน้า จากปัจจัยเหล่านี้ทำให้เราเชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่โรงเรียนกวดวิชาต้องปรับตัวครั้งใหญ่
กลยุทธ์การทำตลาดของโรงเรียนกวดวิชาในปัจจุบัน มักจะเน้นเรื่องโปรโมชั่นต่างๆ เช่น การมอบส่วนลดเมื่อสมัครหลายหลักสูตร ส่วนลดเมื่อแนะนำเพื่อนมาเรียน รวมถึงการโปรโมทตัวครูผู้สอน การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง รวมถึงการจัดงานติวหนังสือหรือแนะแนวด้านการศึกษา ซึ่งการจัดงานประเภทนี้จะทำให้เกิดการบอกต่อแบบปากต่อปาก และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โรงเรียนกวดวิชาออนดีมานด์ ก็เป็นอีกหนึ่งสถาบันกวดวิชาที่มุ่งทำตลาดแบบเข้าถึงตัวผู้เรียน โดยได้จัดกิจกรรม “We’re OnDemand U’re Medical ปี 4” และ “We’re OnDemand U’re N’Gineer ปี 6” เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้ที่ฝันอยากเรียนแพทย์หรือวิศวฯ ซึ่งงานนี้เป็นงานแนะแนวเข้มข้น ปูพื้นฐานความพร้อมให้กับผู้ร่วมงานตั้งแต่การวางแผนอ่านหนังสือจนถึงการให้คำแนะนำและข้อคิดที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมมีกำลังใจในการสอบยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ งานดังกล่าวจัดขึ้นสำหรับน้องๆ ที่ต้องการสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นคณะยอดฮิตของนักเรียนในปัจจุบัน แต่ด้วยสัดส่วนที่ไม่สมดุลกันระหว่างจำนวนผู้สมัครกับจำนวนที่มหาวิทยาลัยสามารถรับได้ ทำให้มีนักเรียนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้นที่สมหวัง แน่นอนว่าผู้ที่สมหวังก็คือผู้ที่เตรียมตัวได้ดีกว่า ดังนั้นภายในงาน จึงได้ให้คำแนะนำ การใช้ชีวิตช่วงใกล้สอบ การเตรียมความพร้อม วิธีวางแผนอ่านหนังสือ เคล็ดลับในการทำข้อสอบให้ได้คะแนนดี สอนวิธีการเทียบคะแนน ซึ่งถ้ารู้คะแนนก่อนวันสอบจริงก็จะช่วยเพิ่มคะแนนเพื่อให้สอบติดได้ รวมถึงมีรุ่นพี่ที่เรียนแพทย์และวิศวฯ มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ในการสอบและการเรียนให้รุ่นน้องฟัง ไม่ใช่แค่ความรู้เท่านั้น แต่ผู้มาร่วมงานยังได้แนวคิดการเตรียมความพร้อมที่นำไปประยุกต์ใช้สำหรับสอบเข้าคณะอื่นๆ ได้
สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างสำคัญในวงการสถาบันกวดวิชา ออนดีมานด์ถือเป็นรูปแบบที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจประเภทนี้ เพราะการจัดกิจกรรมดังกล่าวจะทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว ผู้มาร่วมงานส่วนใหญ่ที่เป็นเด็กนักเรียนที่มีการใช้ Social Media ตลอดเวลา ทำให้งานนี้ได้ถูกบอกต่อไปแบบปากต่อปาก จนทำให้ประสบความสำเร็จในแง่ของจำนวนผู้ร่วมงาน และการสร้างความน่าเชื่อถือ นับเป็นการสานต่อวิสัยทัศน์ของออนดีมานด์ ที่มุ่งไปสู่ Trusted Year สร้างความเชื่อมั่นให้นักเรียนที่มาเรียนว่าโรงเรียนสามารถพาพวกเขาไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้