แบรนด์ต้องรู้! ‘เมตาเวิร์ส’ ปลดล็อกโอกาสใหม่ พลิกเกมการตลาดอนาคต เจาะลึกอินไซต์ผ่านโปรเจกต์ WAVS 3 โดย We Are Social

  • 2.6K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ทุกคนยังจำกระแส “Metaverse” ที่เคยฮิตถล่มทลายเมื่อไม่กี่ปีก่อนได้ไหม?

หลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นแค่ Buzzword ที่มาแป๊บๆ ก็หายไป แต่ We Are Social ครีเอทีฟเอเจนซีระดับโลก กลับมองเห็น “โอกาส” ที่ซ่อนอยู่ก็เลยปิ๊งไอเดีย หยิบเทคโนโลยีนี้กลับมาใช้อีกครั้งในโครงการ WAVS รุ่นที่ 3 โครงการบ่มเพาะศิลปินอิสระที่ Warner Music Thailand เริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่ปี 2022

ในขณะที่หลายคนยังงงว่า Metaverse ยังอยู่ไหม? แต่ We Are Social กลับพิสูจน์ให้เห็นว่า เทคโนโลยีนี้ยังคงมีศักยภาพในการสร้าง “ประสบการณ์ใหม่” และ “เชื่อมโยง” ผู้คนเข้าด้วยกันได้แบบไร้ขีดจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน “วงการดนตรี” ที่ต้องการพื้นที่สร้างสรรค์แบบไร้ขอบเขต

WAVS 3 จึงไม่ใช่แค่การจับมือกันทำงานแบบธรรมดาๆ ระหว่างค่ายเพลงยักษ์ใหญ่กับเอเจนซีชั้นนำ แต่เป็นการ “Reimagine” คิดถึงความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของวงการเพลงไทย ที่จะสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาได้อย่างไร้ขีดจำกัดนั่นเอง

“ผมคิดว่าคอมมูนิตี้เป็นสิ่งที่ศิลปินอิสระ หรือศิลปินหน้าใหม่ต้องการมากที่สุด การที่ได้รู้จัก และเรียนรู้จากศิลปินที่มีประสบการณ์มากกว่านับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้พวกเขาเติบโต

 

ปัฐวีร์ อภิวัชรเจริญสิน รองผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ เอเจนซี We Are Social

 

Metaverse หรือ Virtual World เป็น innovation ที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็ม ทำให้น้องๆ นักดนตรีได้มีโอกาสได้ connect กับวงอื่นๆ ได้อย่างไร้ข้อจำกัด” ปัฐวีร์ อภิวัชรเจริญสิน รองผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ เอเจนซี We Are Social กล่าว

 

มากกว่าแค่เวทีประกวด WAVS คือคอมมูนิตี้ของคนมีฝัน

WAVS ไม่ได้เป็นเพียงแค่เวทีประกวดร้องเพลงทั่วไป แต่เป็นเสมือน “คอมมูนิตี้” ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีใจรักในเสียงดนตรี ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยน เรียนรู้ และเติบโตไปพร้อมๆ กัน ภายใต้การดูแลของทีมงานมืออาชีพจาก Warner Music Thailand และ We Are Social

 

 

สิ่งที่ทำให้ WAVS แตกต่างจากโครงการอื่นๆ คือการให้ความสำคัญกับ “Subculture” หรือกลุ่มคนในวัฒนธรรมย่อย ที่มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่ง We Are Social ที่ในปีนี้โดดเข้ามาร่วมแจม มองเห็นพลังของกลุ่มคนเหล่านี้ และเชื่อว่าพวกเขาสามารถสร้างสรรค์ผลงานเจ๋งๆ ออกมาได้

สำหรับโครงการ WAVS ในปีที่ 3 นี้มีกิจกรรมน่าสนใจที่ช่วยสร้างนักดนตรีรุ่นใหม่ออกสู่วงการเหมือนเช่นเคยไม่ว่าจะเป็น เวิร์กช็อปพัฒนาศิลปิน ที่จะมีคนระดับหัวกะทิในวงการดนตรีมาแนะนำเรื่องสำคัญในอุตสาหกรรมดนตรีตั้งแต่ การผลิตเพลง, การแสดงสด, การสร้างแบรนด์, การตลาด, และการดูแลสุขภาพจิตในการทำงานให้สตรองได้อย่างไร

 

 

WAVS 3 ยังเปิดโอกาสให้ “สปอตไลท์” ได้ส่องลงบนตัวศิลปินได้มากขึ้นด้วย เพราะมีโอกาสให้ศิลปินได้ปล่อยของผ่านคอนเสิร์ต, และอีเวนต์เจ๋งๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ WAVS ยังเป็นชุมชนคนดนตรีที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน ให้ได้มาแฮงเอาท์ ปลดปล่อยความคิด เพื่อแบ่งปันความรู้ สร้างความร่วมมือ ส่งต่อบันดาลใจกันและกันกลายเป็นแก๊งคนดนตรี WAVS ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกๆ ปีและเติบโตในฐานะคนดนตรีไปอย่างแข็งแรง

 

Metaverse ทลายข้อจำกัดและสร้างโอกาสไปพร้อมกัน

 

 

แล้ว “Metaverse” มาเกี่ยวอะไรกับโครงการนี้? ก็ต้องบอกว่า Metaverse หรือโลกเสมือนจริงเป็นพื้นที่ใหม่ที่คนทั่วโลกใช้ในการสร้างปฏิสัมพันธ์กันโดยเฉพาะเมื่อ “การทำงานทางไกล” กลายเป็น New Normal ไปแล้วในยุคนี้ และ We Are Social ก็มองเห็นศักยภาพของ Metaverse ในการทลายข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ และก็เกิดไอเดียว่าเทคโนโลยีนี้จะสร้างโอกาสให้ศิลปินรุ่นใหม่ได้เข้าถึงโอกาสดีๆ อย่างโครงการ WAVS ได้มากยิ่งขึ้น

 

 

โดยเฉพาะหนึ่งใน Pain Point สำคัญของเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ WAVS ในรุ่นก่อน ๆ คือการเดินทางจากต่างจังหวัดเพื่อมาเข้าร่วมการอบรม ซึ่งต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายสูง We Are Social เลยเกิดไอเดียที่จะนำ Metaverse มาใช้ใน WAVS 3 เรียกได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด  ช่วยให้เยาวชนจากทั่วประเทศสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นการ Workshop, การแสดงสด, หรือการพบปะกับศิลปินรุ่นพี่ได้เหมือนกับกลุ่มศิลปินที่ได้รับการคัดเลือกเข้าโครงการด้วย นอกจากนี้ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจาก Metaverse ยังทำให้โครงการนี้เป็นที่พูดในวงกว้างมากขึ้นไปอีกด้วย

 

 

สำหรับการสร้างโลก Metaverse นั้น We Are Social เลือกใช้เทคโนโลยีของ SoWork แพลตฟอร์มสร้างพื้นที่ทำงานเสมือนของคนทำงานแบบ Remote Work ทั่วโลก นำมาสร้าง WAVS Space Map แผนที่ซึ่งมีชื่อว่า Hustler Kingdom ขึ้นมาให้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมแบบเสมือนตั้งแต่การลงทะเบียน ส่งเพลง รวมถึงร่วมเวิร์คช็อปคลาสต่างๆ ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลก

 

 

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่แค่การตามเทรนด์ แต่ We Are Social กำลังสร้าง “ปรากฏการณ์ใหม่” ด้วยการนำ Metaverse มาประยุกต์ใช้กับการตลาดอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเทคโนโลยีนี้ยังตรงกันกับเป้าหมายของ Warner Music Thailand ที่ต้องการสร้างแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ศิลปินรุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพ และเชื่อมโยงกับแฟนเพลงอย่างใกล้ชิด เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเพลงของประเทศไทยต่อไปในอนาคต จนกลายเป็น WAVS 3 อย่างที่เราเห็นกันในเวลานี้

 

 

พันธมิตรแข็งแกร่ง ร่วมสร้าง Ecosystem ดนตรี

ไม่เฉพาะแนวคิดของโครงการ ไอเดียใหม่ๆ และการนำ Innovation มาใช้เท่านั้น แต่อีกสิ่งสำคัญที่ทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จมาได้อย่างต่อเนื่องก็คือการได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ชั้นนำมากมาย

ไม่ว่าจะเป็น เคเอฟซี ประเทศไทย ที่มีโครงการ Bucket Search สนับสนุนเยาวชนนอกระบบการศึกษา แบรนด์อย่าง ASH Asia International ผู้นำเข้า Marshall ที่มอบอุปกรณ์ดนตรีระดับแนวหน้าให้กับศิลปิน รวมไปถึงแบรนด์ระดับโลกอย่าง L’Oreal Groupe ที่มีแบรนด์ในเครืออย่าง Garnier, Maybelline, L’Oreal Paris เข้ามามีส่วนร่วมทำแคมเปญใน WAVS Space Map ได้อย่างน่าสนใจด้วย ซึ่งใครเข้าไปในแผนที่คงได้เห็นป้ายของแบรนด์เหล่านี้อยู่ใน Metaverse ผ่านตากันไปแล้ว

ความร่วมมือเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ WAVS และความมุ่งมั่นที่จะร่วมสร้าง Ecosystem ทางดนตรีที่ยั่งยืน เปิดโอกาสให้ศิลปินรุ่นใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คน Gen Z ในวงการดนตรี กลุ่มคนใน Subculture ให้มีทักษะ มีความรู้ที่สามารถนำไปใช้ในการทำงานและเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป

 

 

ต้องบอกว่า WAVS 3 โครงการสร้างคนดนตรีของ Warner Music Thailand นอกจากจะเป็นโครงการที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ให้กล้าที่จะทำตามความฝัน และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับวงการเพลงไทยแล้ว ไอเดียของ We Are Social ที่นำนวัตกรรมอย่าง Metaverse มาใช้สร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ สร้างการเชื่อมต่อแบบไร้พรมแดน บวกกับความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ชั้นนำก็ยังเป็นอีกหนึ่ง Use Case ที่นักการตลาดสามารถเรียนรู้และนำไปปรับใช้กับแคมเปญของตัวเองได้เช่นกัน

 


  • 2.6K
  •  
  •  
  •  
  •