แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีกไทยปี 2025 จะชะลอตัว โดยคาดว่าโตเฉลี่ย 3.4% ลดลงจากปี 2022-2023 ที่มีอัตราการเติบโต 5.9% เป็นผลมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจภายในประเทศ ที่กระทบต่อกำลังซื้อและหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น แต่สำหรับตลาด “Health & Beauty” ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เพราะไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร ผู้คนยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะทุกวันนี้โครงสร้างประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุเต็มรูปแบบแล้ว ยิ่งทำให้คนมองหาโซลูชัน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ และบริการด้านสุขภาพมากขึ้น
นี่จึงทำให้ “วัตสัน” (Watsons) เชนค้าปลีกสินค้าสุขภาพและความงามในเครือเอเอส วัตสัน กรุ๊ปต้องการยกระดับสู่การเป็นโซลูชันด้าน “Health & Beauty” ให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะการขยายมายัง “Health” มากขึ้น จากที่ผ่านมาเกือบ 30 ปีที่วัตสันเข้ามาเปิดตัวในไทย มีภาพลักษณ์และหมวดหมู่สินค้าด้าน “Beauty” เป็นหลัก
ดังนั้นนับจากนี้วัตสันต้องสร้าง “ส่วนผสมที่ลงตัว” ระหว่าง Health และ Beauty เพื่อให้ก้าวสู่การเป็น “Health & Beauty Solutions”
“ปัจจุบันวัตสันเป็น Beauty lead แล้วตามมาด้วย Health แต่ต่อไปเราอยากเป็น Health & Beauty Solutions ให้กับคนไทย หลังจากที่ผ่านมาเราทำสำเร็จขั้นหนึ่งแล้ว คือ ขยายสาขาครบทุกจังหวัด ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย
เพราะฉะนั้นเรายังเติบโตได้อีกทั้ง Health & Beauty โดยเฉพาะด้าน Health ด้วยปัจจัยประชากร และความต้องการของผู้บริโภค เราอยากซัพพอร์ตการเข้าถึงสุขภาพ Smart Wellness ให้กับคนไทย เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่เรามุ่งหวัง” คุณนวลพรรณ ชัยนาม กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย เล่าถึงเป้าหมายของวัตสันนับจากนี้

ทำไมวัตสันโฟกัสด้าน “สุขภาพ” มากขึ้น ?
เหตุผลหลักที่ทำให้ วัตสัน ให้ความสำคัญกับด้าน “Health” มากขึ้น โดยยังคงรักษาความแข็งแกร่งด้าน “Beauty” ควบคู่ไปด้วยกันนั้น เนื่องจาก
– โครงสร้างประชากรไทยในปัจจุบันเข้าสู่สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) แล้ว นั่นหมายความว่าประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมีสัดส่วน 20% ของประชากรทั้งประเทศ และคาดการณ์ว่าในปี 2030 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสูงสุด (Super Aged Society) โดยมีประชากรสูงอายุถึง 30% จึงเป็นโอกาสของตลาดสุขภาพ
– ผลสำรวจสมาชิกวัตสัน จำนวน 4,000 คน พบว่า 80% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่ามีการบริโภควิตามินอย่างน้อย 1-2 เม็ดต่อวันเป็นประจำ
นอกจากนี้ลูกค้าวัตสันพร้อมใช้จ่ายกับสินค้าสุขภาพ โดยเฉลี่ย 1,000 – 3,000 บาทต่อเดือน แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยินดีใช้จ่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งทำให้ยอดใช้จ่ายต่อบิลเพิ่มขึ้น
แล้วกลยุทธ์อะไรบ้างที่จะทำให้วัตสันก้าวสู่การเป็น “Health & Beauty Solutions” ตามมาดูกัน!
6 กลยุทธ์ “วัตสัน 2025”
ทิศทางธุรกิจประจำปี 2025 วัตสัน ชู 6 กลยุทธ์หลัก ภายใต้แนวคิด “Health is Beauty, Beauty is Health” รองรับการเติบโตของเทรนด์สุขภาพและความงามที่เติบโตแบบก้าวกระโดด พร้อมลงทุนอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย
1. ขยาย Network สาขา: ปัจจุบันวัตสันมีสาขามากกว่า 750 สาขา ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศแล้ว และแผนในปี 2025 ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าเปิด 55 สาขา เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่เปิด 50 สาขา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ซึ่งโอกาสการเปิดสาขาใหม่จะอยู่ในต่างจังหวัดมากกว่ากรุงเทพฯ เนื่องจากโลเคชันในกรุงเทพฯ ปัจจุบันค่อนข้างเต็มแล้ว ควบคู่กับการปรับปรุงสาขาเดิม 80 สาขาในปีนี้ ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น
“สาขาส่วนใหญ่ของวัตสัน 80% อยู่ในศูนย์การค้า ที่ผ่านมาเราขยายเข้าไปในโลเคชันเกรด A หมดแล้ว ขณะที่โลเคชันรองลงมา ไม่สามารถเปิดสาขา scale ใหญ่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราจะเปิด ต้องไปใน scale สาขาเล็กลง และเมื่อสาขาขนาดเล็กลง เราต้องขยายจำนวนสาขาให้มากขึ้น” คุณนวลพรรณ ชัยนาม กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย เล่าถึงกลยุทธ์การขยายสาขานับจากนี้
2. Health Accelerate ปฏิวัติการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง: ยกระดับมาตรฐานบริการและผลิตภัณฑ์สุขภาพ เสริมทัพด้วยเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญกว่า 300 คนทั่วประเทศ เพื่อให้คำปรึกษาเชิงลึก รองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าอย่างตรงจุด รวมทั้งยังมีนโยบายส่งเสริมการจ้างงานเภสัชกรอายุ 60 ปี
ขณะเดีวกันเพิ่มสนับสนุนการดูแลตัวเองผ่านตัวเลือกสินค้าด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นกว่า 350 รายการ วัตสันยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของทีมเภสัชกรอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ Health Care Intelligence Training (HIT) Programme ซึ่งจัดขึ้น 4 ครั้งต่อปี
โดยมีเป้าหมายให้เภสัชกรสามารถให้คำแนะนำด้านสุขภาพและความงามได้อย่างเชี่ยวชาญ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจในการดูแลตัวเอง พร้อมร่วมส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับลูกค้าทั่วประเทศ
นอกจากเพิ่มเภสัชกร และกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพแล้ว ในการดีไซน์ร้านใหม่ ยังได้ออกแบบโซน “Pharmacy” ให้เด่นขึ้น พร้อมด้วยบริการจากเภสัชกรให้คำแนะนำ ทำให้ Journey ของลูกค้าที่เดินเข้ามาในร้าน จะเห็นเคาน์เตอร์ให้บริการ Pharmacy อย่างชัดเจน พร้อมด้วยโซนสินค้าสุขภาพ
“ที่ผ่านมาเราพูดเรื่อง Beauty เยอะ แต่ตอนนี้เราจะสื่อสารว่าเรามีความแข็งแกร่งทั้งสองด้าน Health & Beauty เราจึงออกแบบให้เคาน์เตอร์ Pharmacy เด่นขึ้น ทำให้คนรู้จักวัตสันในแง่ของ Health มากขึ้น และเมื่อลูกค้าเดินเข้ามาในร้านจะเห็นทั้งโซนความงาม และสุขภาพอย่างชัดเจน” คุณนวลพรรณ ขยายความเพิ่มเติม
3. Own Brand, Smart Wellness: เดินหน้าพัฒนาไลน์สินค้า Own Brand “ตราวัตสัน” วงจร ภายใต้แนวคิด Smart Wellness เสริมทางเลือกเพื่อสุขภาพและความงามอย่างครบวงจร โดยปีนี้จะเพิ่มสินค้า Own Brand อีก 150 SKUs จากปัจจุบันมีกว่า 800 SKUs
4. กลยุทธ์ O+O ผสานโลกออฟไลน์และออนไลน์ สร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ: ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล ด้วยสินค้าบนแพลตฟอร์มวัตสันออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์,แอปพลิเคชัน และโซเชียลมีเดียกว่า 15,000 รายการ ครอบคลุมทุกหมวดสุขภาพและความงาม
พร้อมบริการ Click and Collect ที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากที่ไหนก็ได้ พร้อมรับสินค้าได้ด้วยตนเองที่สาขาใกล้บ้าน เพื่อความคล่องตัว เชื่อมต่อทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้ลูกค้าช้อปได้ทุกที่ ทุกเวลาได้อย่างอิสระ
5. ขับเคลื่อน Loyalty ด้วยพลังอินไซต์สู่สมาชิก 10 ล้านคน: ฐานข้อมูลลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจในยุค ในยุค Data-driven เพื่อทำให้ธุรกิจเข้าใจอินไซต์ พฤติกรรม และความต้องการของลูกค้าแต่ละเซ็กเมนต์ จากข้อมูลสมาชิกวัตสัน คลับ พบว่า กว่า 88% เป็นผู้หญิง คิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 4 ของประชากรหญิงทั่วประเทศ
“วัตสันมีความเข้าใจเชิงลึกถึงพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ซึ่งการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคได้กลายเป็นพลังสำคัญในการพัฒนา Loyalty Program นำมาต่อยอดด้วยการพัฒนา Store Segmentation ที่เลือกคัดสรรสินค้าให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแต่ละพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ”
นอกจากสิทธิประโยชน์ด้านส่วนลดและการสะสมคะแนนแล้ว สมาชิกวัตสัน คลับยังจะได้รับประสบการณ์สุดพิเศษที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมเวิร์กช็อปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ หรือกิจกรรมใกล้ชิดกับเซเลบริตี้ชื่อดัง ซึ่งคัดสรรมาเพื่อสมาชิกโดยเฉพาะ เสริมสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์และลูกค้าให้ลึกซึ้งและยั่งยืนยิ่งขึ้น
6. ความงามและสุขภาพที่ใส่ใจโลกและชุมชน: เดินหน้าสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพ ความงาม สังคมและสิ่งแวดล้อม สานต่อพันธกิจด้านความยั่งยืนด้วยแนวคิด 3P (People Planet Product)
– People: ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผ่านกิจกรรมเพื่อสังคม อาทิ สนับสนุนบ้านพักฉุกเฉินต่อเนื่องกว่า 18 ปี หรือแคมเปญ Give a Smile ตั้งเป้ามอบรอยยิ้มให้เด็กปากแหว่งเพดานโหว่ 10,000 ราย
– Planet: ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint) จากการลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ตอกย้ำ พันธกิจซีโร่คาร์บอนภายในปี 2573 อย่างเป็นรูปธรรม
– Product: เพิ่มสินค้า Sustainable Choices สินค้าเพื่อความยั่งยืนเป็นทางเลือกให้กับลูกค้ากว่า 900 รายการ
เปิด “Beauty Style Studio” บริการความงามกันคิ้ว–ตกแต่งคิ้ว
เพื่อเป็นโซลูชันด้านความงาม ล่าสุดได้เปิดตัวบริการความงามกันคิ้ว-ตกแต่งคิ้วภายในสาขาวัตสัน ทดลองนำร่อง “สาขาเมเจอร์ รัชโยธิน” ก่อนจะขยายไปยังวัตสันสาขาอื่นในอนาคต
“เราเปิด Beauty Style Studio เป็นบริการพิเศษด้านการตกแต่งคิ้วภายในร้านวัตสัน มี Makeup Artist มืออาชีพให้บริการกันคิ้ว–ตกแต่งคิ้ว ลูกค้าที่สนใจสามารถลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้า โดยปัจจุบันค่าบริการ 250 บาท
เราเลือกเปิดสาขาวัตสัน รัชโยธินเป็นสาขาแรก พิจารณาจาก 1. โลเคชัน สาขานี้อยู่ใกล้มหาวิทยาลัย และย่านคนทำงาน เพราะคนกันคิ้ว หรือตกแต่งคิ้ว ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนทำงานและนักศึกษา และ 2. สาขาวัตสัน เมเจอร์รัชโยธิน มีพื้นที่ขนาด 300 ตารางเมตร ใหญ่มากพอที่จะจัดสรรพื้นที่ส่วนหนึ่งให้เป็นโซน Beauty Style Studio
เรามีแผนขยายบริการความงามนี้ไปยังวัตสันสาขาอื่นๆ โดยต้องพิจารณาปัจจัยด้านโลเคชั่น กลุ่มเป้าหมาย และขนาดพื้นที่ของร้านสาขา” คุณนวลพรรณ อธิบายเพิ่มเติมสำหรับบริการความงามใหม่
การเปิดบริการ Beauty Style Studio ควบคู่กับการออกแบบโซนสินค้าเพื่อสุขภาพ พร้อมบริการ Pharmacy ให้คำปรึกษาโดยเภสัชกร ให้โดดเด่นขึ้น ทำให้ Customer Journey เมื่อเข้ามาที่ร้านจะเห็นสินค้า-บริการด้านความงามและสุขภาพได้ครบวงจรขึ้น ช่วยให้ภาพลักษณ์ของวัตสัน แข็งแกร่งทั้งในมิติของ Health & Beauty Solutions ตามเป้าหมายที่ต้องการมุ่งไป
“วัตสันยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโตควบคู่กับการสร้างคุณค่าให้ผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นจุดหมายปลายทางด้านสุขภาพและความงามที่ตอบโจทย์คนไทยทุกเจเนอเรชัน ด้วยรอยยิ้มและประสบการณ์ที่ดีอย่างแท้จริง” คุณนวลพรรณ กล่าวทิ้งท้าย