“Walmart Neighborhood Market” ตั้งอยู่ใน Levittown ของนิวยอร์ก ได้ปรับโฉมร้านครั้งใหญ่ ที่เรียกว่า “Intelligence Retail Lab” หรือ “IRL” ภายในติดตั้งกล้องที่มีเทคโนโลยี “AI” (Artificial Intelligence), จอภาพที่ตอบสนองด้วยการสัมผัส (Interactive Display) และดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) เพื่อวิเคราะห์และประมวลผลได้แบบ Real-time
วัตถุประสงค์ของการพัฒนาสโตร์รูปแบบใหม่นี้ ไม่ใช่แค่การเปิด Store Format ใหม่เท่านั้น แต่ “Walmart” ต้องการนำเทคโนโลยีที่ได้มาจากโครงการ “Store No.8” ซึ่งเป็นโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีรีเทล ที่ Walmart จัดตั้งขึ้น มาทดลองใช้ในการบริหารจัดการร้านค้าให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น
Mike Hanrahan, CEO ของ IRL กล่าวว่า บนพื้นที่ค้าปลีก 50,000 ตารางฟุต กับสินค้ามากกว่า 30,000 รายการ การนำเทคโนโลยีมาใช้ ช่วยให้เราเข้าใจการบริหารจัดการร้านได้แบบ Real-time ทั้งยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตพนักงาน จากการมีเทคโนโลยีมาช่วยลดภาระการทำงานของพนักงาน และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้แก่ลูกค้า เช่น
– กล้อง AI ที่มีเซนเซอร์ ทำหน้าที่ตรวจจับผลิตภัณฑ์ทั่วร้าน จากนั้นรายงานข้อมูลไปยังพนักงานในร้าน ช่วยให้พนักงานในร้าน ได้รับข้อมูลสินค้าคงคลัง และสินค้าบนเชล์ฟได้แบบ Real-time เพื่อเติมสินค้าทันทีที่สินค้านั้นหมด
– ระบบจำแนกความแตกต่างของน้ำหนักสินค้า เช่น เนื้อสัตว์ น้ำหนัก 1 ปอนด์ กับขนาด 2 ปอนด์
– ระบบประเมินผลจำนวนสินค้าบนเชล์ฟ เพื่อคาดการณ์ความต้องการของลูกค้า
– มีดาต้าเซนเตอร์ติดตั้ง Server จำนวน 100 ตัว ที่อยู่ในห้องกระจก โดยลูกค้าที่มาใช้บริการสามารถมองเห็นผ่านกระจก
– หน้าจอสัมผัส สำหรับให้ลูกค้าได้เรียนรู้เทคโนโลยีภายในร้าน Walmart สาขานี้
“ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าสินค้าที่อยู่บนเชล์ฟ มีความสดใหม่ นี่คือสิ่งที่ AI สามารถช่วยได้ ขณะเดียวกันเราคิดว่าเทคโนโลยีที่ถูกสร้างขึ้น จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพงานภายในร้าน แบ่งเบาภาระงานของพนักงาน และพัฒนาทักษะของพนักงานในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว”