เป็นอีกเคสการตลาดที่น่าสนใจมากในสมรภูมิไอศกรีมแท่ง สำหรับวอลล์ (Wall’s) แบรนด์ไอศกรีมชื่อดังในเครือยูนิลีเวอร์ที่ปลุกปั้นแบรนด์ “เอเชียน ดีไลท์” (Asian Delight) จนติดตลาดด้วยภาพไอศกรีมกลิ่นอายไทย แต่ล่าสุดหันมาเปิดประตูความอร่อยสู่รสชาติสากลในแบบเอเชียเป็นครั้งแรก โดยแจ้งเกิด 2 รสชาติใหม่คือ รสนมฮอกไกโด & โมจิ (Hokkaido Milk & Mochi) และ รสมัทฉะ & ถั่วแดง (Matcha & Red Bean)
การคราฟต์ความเป็นญี่ปุ่นผ่านรสชาติที่ใครหลายคนชื่นชอบครั้งนี้ของเอเชียนดีไลท์นั้นมีที่มา และการที่แฟนๆ ไอศกรีมจะได้ #อร่อยเต็มคำสไตล์ญี่ปุ่น ในราคา 25 บาทนั้นก็มีเรื่องราวและมุมมองบางอย่างซ่อนอยู่ โดยเฉพาะการแสดงถึงความเป็น benchmark ใหม่ว่าเอเชียนดีไลท์คือแบรนด์ที่ไม่หยุดนิ่ง แต่พร้อมขยับและตอบรับตามความต้องการของคนไทย
แน่นอนว่าวอลล์ไม่ได้ลุกขึ้นมาเลือกรสชาติไอศกรีมอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แต่เพราะทั้งนมฮอกไกโด ขนมโมจิ ชาเขียวมัทฉะ และถั่วแดง ล้วนเป็นขนม-เครื่องดื่มกลิ่นอายญี่ปุ่นที่คนไทยชื่นชอบ วอลล์จึงมุ่งมั่นตั้งใจสร้างรสชาติที่เป็นรสในใจหรือ Top of Mind ของคนไทยเมื่อนึกถึงความเป็นญี่ปุ่น โดยที่ลูกค้าทั้งที่เป็น Japanese Lovers และลูกค้าที่อยากลิ้มลองอะไรใหม่ๆ สไตล์ญี่ปุ่น จะสามารถหาซื้อได้สะดวกที่ร้าน 7-Eleven และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ
ที่ผ่านมา วอลล์ได้พัฒนารสชาติให้เอเชียนดีไลท์มีความเป็นไทยอย่างชัดเจน เช่น ไอศกรีมกะทิ ไอศกรีมเสาวรส และอีกหลายรสที่มีฐานแฟนขนาดใหญ่อยู่แล้ว แต่ไอศกรีม 2 รสใหม่ที่ถูกวางเป็นตัวเปิดรสชาติแห่งเอเชียของเอเชียนดีไลท์ จะยิ่งขยายกลุ่มเป้าหมายหรือ target audience ได้มากขึ้นอีก ซึ่งจะทำให้พัฒนาการของแบรนด์เข้าสู่หลักไมล์ใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
ไอเดียเบื้องหลังที่ทำให้รสชาติใหม่ของเอเชียนดีไลท์มาลงตัวที่การจับคู่นมฮอกไกโด-โมจิ และชาเขียวมัทฉะ-ถั่วแดง คืออินไซต์ของตลาด ที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าญี่ปุ่นครองพื้นที่โดดเด่นสำหรับคนไทยในแง่ของอาหารและของหวานที่อร่อยถูกใจ เลยทำให้เกิดการ relate มาเป็นไอศกรีมสไตล์ญี่ปุ่น โดยวอลล์ได้ประเมินไอศกรีมหลากหลายรสชาติใหม่ ผลสรุปที่ออกมาคือรสนมฮอกไกโด & โมจิ และรสมัทฉะ & ถั่วแดง เป็น 2 รสชาติที่ครองใจผู้บริโภคชาวไทยมากที่สุด สะท้อนความตั้งใจที่จะทำรสชาติที่เป็น Top of Mind เมื่อคนไทยนึกถึงความเป็นญี่ปุ่นจริงๆ
ในอีกมุม การเปิดตัวรสชาติใหม่นี้เป็นความตั้งใจของวอลล์ที่จะเปลี่ยนภาพแบรนด์ของเอเชียนดีไลท์ โดยตัดสินใจสำรวจตลาดไอศกรีมรสชาติใหม่เพื่อลงลึกถึงแง่มุมของรสชาติแบบเอเชียนให้สมกับชื่อแบรนด์ ซึ่งกลยุทธ์หรือแนวทางการทำตลาดที่จะทำให้คนรู้จัก #เอเชียนดีไลท์ รสใหม่มากขึ้น คือการสยายปีกครอบคลุมการสื่อสารแบรนด์แบบ 360 องศา ทั้งแบบซื้อสื่อ (ATL) ผ่านสื่อนอกอาคาร โฆษณาทีวี และดิจิทัล รวมถึงแบบไม่ซื้อสื่อ (BTL) ที่เชื่อว่าจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น
สำหรับ 2 รสชาติใหม่ Hokkaido Milk & Mochi และ Matcha & Red Bean วอลล์ตั้งใจจะส่งมอบไอศกรีมสไตล์ญี่ปุ่นที่มีความเข้มข้นในรสชาติและมีชิ้นของส่วนผสมหลักแบบเต็มคำ ถือเป็นการตอบความต้องการของคนไทยกับพฤติกรรมการรับประทานไอศกรีมในปัจจุบัน โดยเฉพาะในยุคสมัยนี้ที่ชื่นชอบไอศกรีมที่มีการสอดไส้เป็นชิ้นๆ (Inclusion) หรือเป็นก้อน (Chunky) และอีกหลายแบบที่ทำให้ไอศกรีมแบบแท่งมีลูกเล่นเคี้ยวเพลินมากขึ้น
ในภาพรวม การเปิดตัวไอศกรีมรส Hokkaido Milk & Mochi และ Matcha & Red Bean จะเป็นการเสริมแกร่งให้พอร์ตโฟลิโอของเอเชียนดีไลท์ทรงพลังขึ้นได้ ด้วยการขยายฐานพอร์ต และมุมมองเรื่องการไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่รสชาติแบบไทยๆ อีกต่อไป
ตรงนี้สอดคล้องกับเป้าหมายของการเปิดตัวทั้ง 2 รสชาติใหม่ ที่วอลล์ต้องการเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อเอเชียนดีไลท์ ไฮไลท์เรื่องการไม่ได้จำกัดอยู่แค่รสชาติแบบไทย กำลังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่อีกเลเวลหนึ่งของรสชาติแห่งความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ ทั้งหมดล้วนเป็นครั้งแรกของการฉีกกรอบความเป็นเอเชียนแบบดั้งเดิมไปสู่รสชาติที่เป็นสากล ซึ่งจะเน้นย้ำกับ audience ได้ว่า วอลล์ เอเชียนดีไลท์ ยังมีสิ่งใหม่ให้ทุกคนได้คาดหวัง ติดตาม และค้นหาอีกต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคต
ใครที่สนใจอยากลิ้มรสความอร่อยของนมฮอกไกโด แล้วอยากสัมผัสชิ้นโมจิ นุ่มหนึบ อัดแน่นในทุกคำที่กัด สามารถเลือกซื้อรส Hokkaido Milk & Mochi ได้เลย ส่วนใครที่อยากลิ้มรสความอร่อยหอมรสมัทฉะเข้มข้น แล้วต้องการฟินกับเนื้อถั่วแดงสายพันธุ์อะซึกิแน่นๆ อย่ารีรอที่จะรับความอร่อยเต็มคำสไตล์ญี่ปุ่นจาก Matcha & Red Bean ที่ร้าน 7-Eleven และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศได้เลย!!
