หลายคนคงทราบถึงสถานการณ์การค้าระหว่าง 2 มหาอำนาจของโลกอย่างจีนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการปรับนโยบายภาษีนำเข้าสินค้า ส่งผลให้ทั้ง 2 ประเทศเริ่มใช้มาตรการทางด้านภาษีนำเข้ากีดกันสินค้าของฝั่งตรงข้าม และรวมไปถึงนโยบายห้ามคบค้าสมาคมกับบริษัทสัญชาติจีนอีกด้วย จนนำไปสู่ความวุ่นวายในภาคธุรกิจของทั้ง 2 ประเทศและทั่วโลก
การเจรจาพบปะเจรจากันของ 2 ผู้นำมหาอำนาจอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) และ สีจิ้นผิง (Xi Jinping) ก็ช่วยให้วิกฤตการณ์ดีขึ้นแต่ก็เป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เมื่อสหรัฐ มีการกำหนดนโยบายอย่างชัดเจนในการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้น 10% ที่กำหนดให้เริ่มมาตรการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่กำลังจะมาถึงนี้ ซึ่งคาดการณ์กันว่าถ้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ สถานการณ์ความตึงเครียดของทั้ง 2 ประเทศน่าจะทวีเพิ่มขึ้น
แต่ล่าสุด เมื่อผู้จุดชนวนอย่างสหรัฐฯ ตัดสินใจขยายระยะเวลามาตรการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้น 10% ออกไป โดยมีการกำหนดมาตรการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้น 10% ในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ซึ่งมีการระบุถึงสินค้าที่ได้รับการยืดระยะเวลาการจัดเก็บภาษี ไม่ว่าจะเป็น Laptop, Smartphone, เครื่องเล่นวีดีโอเกมบางประเภท, จอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น รวมไปถึงสินค้าอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น เสื้อผ้าและรองเท้า เป็นต้น
นอกจากนี้ในเอกสารประกาศ ยังมีการระบุไว้ว่าสินค้าด้านสุขภาพ ด้านความปลอดภัย และด้านสินค้าด้านความมั่นคงของประเทศ ถูกถอดออกจากรายการสินค้าที่ต้องเสียภาษี
ผลพวงจากการชะลอมาตรการจัดเก็บภาษีดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ (Dow Jones) ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 400 จุด ขณะที่ตลาด S&P500 ก็รับอานิสงส์ปรับเพิ่มขึ้น 1.5% และตลาดหุ้นแนสแด็ก (Nasdaq) ขานรับมาตรการดังกล่าวช่วยให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.9% คาดว่าในวันพรุ่งนี้ (14 สิงหาคม) ทางการจีนน่าจะมีการขานรับนโยบายดังกล่าว โดยอาจจะมีมาตรการในการรับซื้อสินค้าจากสหรัฐเพิ่มเติม
เอกสารประกาศจากผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ระบุว่า
วอชิงตัน ดีซี – ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ประกาศว่า ขั้นตอนต่อไปของกระบวนการจัดเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% จากการนำเข้าสินค้าของจีนที่มีมูลค่ารวมกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2019 ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ได้เผยแพร่รายการสินค้าที่นำเข้ามาจากประเทศจีน ซึ่งจะมีการจัดเก็บภาษี 10% โดยอัตราภาษีใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กันยายน ตามที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศไว้เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม
ผลิตภัณฑ์บางอย่างได้ถูกลบออกจากรายการภาษี เช่น สินค้าด้านสุขภาพ สินค้าด้านความปลอดภัย และสินค้าด้านความมั่นคงของประเทศ นอกจากนี้ส่วนหนึ่งของการรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณชน ส่งผลให้ผู้แทนการค้าได้มีการพิจารณาแล้วว่า เห็นสมควรให้ยืดระยะเวลาการจัดเก็บภาษีออกไปจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม โดยสินค้าที่ได้รับการยืดระยะเวลา ประกอบไปด้วย Smartphone, คอมพิวเตอร์, Laptop, Video Game บางประเภท และจอคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงสินค้าประเภทรองเท้าและเสื้อผ้าบางชนิด
Washington, DC – The United States Trade Representative (USTR) today announced the next steps in the process of imposing an additional tariff of 10 percent on approximately $300 billion of Chinese imports.
On May 17, 2019, USTR published a list of products imported from China that would be potentially subject to an additional 10 percent tariff. This new tariff will go into effect on September 1 as announced by President Trump on August 1.
Certain products are being removed from the tariff list based on health, safety, national security and other factors and will not face additional tariffs of 10 percent.
Further, as part of USTR’s public comment and hearing process, it was determined that the tariff should be delayed to December 15 for certain articles. Products in this group include, for example, cell phones, laptop computers, video game consoles, certain toys, computer monitors, and certain items of footwear and clothing.
