ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของโลก “ยูนิลีเวอร์” (Unilever) ได้ประกาศปรับกลยุทธ์การตลาด และการสื่อสาร “กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่ม” ซึ่งรวมถึง “ไอศกรีม” กับกลุ่มเด็กครั้งใหญ่ ด้วยการเตรียมยกเลิกสื่อสารการตลาดกับผู้บริโภคเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีภายในปี 2020 นำร่องแบรนด์ “Wall’s” (วอลล์) หลังจากพบภาวะโรคอ้วนในเด็กมีอัตราเพิ่มสูงขึ้น
เด็กทั่วโลก กำลังเผชิญภาวะโรคอ้วน
“องค์การอนามัยโลก” (World Health Organization : WHO) ระบุว่า “ภาวะโรคอ้วนในเด็ก” กำลังเป็นความท้าทายใหญ่ด้านการสาธารณสุขแห่งศตวรรษที่ 21 เนื่องจากปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะมีผลกระทบกับประเทศรายได้ต่ำ และรายได้ปานกลาง
ในปี 2016 จำนวนเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีที่ประสบกับภาวะน้ำหนักเกิน มีมากกว่า 41 ล้านคนทั่วโลก ในจำนวนนี้เกือบครึ่งหนึ่งอยู่ในภูมิภาคเอเชีย และ 1 ใน 4 อยู่ในแอฟริกา
เด็กที่มีน้ำหนักเกิน และเป็นโรคอ้วนในเด็ก ย่อมมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนในวัยผู้ใหญ่ และมีแนวโน้มจะพัฒนาไปสู่การเป็นโรคในกลุ่ม NCDs เช่น โรคเบาหวาน, โรคหัวใจ และหลอดเลือด ตั้งแต่อายุยังน้อย ดังนั้นการป้องกันน้ำหนักตัวเกิน และภาวะโรคอ้วนในเด็ก เป็นเรื่องจำเป็นที่ทั่วโลกต้องให้ความสำคัญลำดับแรกๆ
ยุติสื่อสารการตลาดทั้งสื่อดั้งเดิม และสื่อออนไลน์ – นำร่องแบรนด์ “Wall’s” ก่อน
ภายใต้กลุ่มธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่มของ “ยูนิลีเวอร์” ประกอบด้วยแบรนด์มากมาย หนึ่งในนั้นคือ “ธุรกิจไอศกรีม” ถือเป็นธุรกิจใหญ่ของยักษ์ FMCG รายนี้ และมีหลายแบรนด์ โดยจะดำเนินการยกเลิกโฆษณาแบรนด์ “Wall’s” (วอลล์) ก่อนเป็นแบรนด์แรก ซึ่งภายใต้แบรนด์ Wall’s มีหลาย sub-brand เช่น Magnum, Cornetto, Pandle Pop ฯลฯ
แผนการประกาศยกเลิกสื่อสารการตลาดกับกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีครั้งนี้ จะถูกนำไปปรับใช้กับผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่มทั้งหมดของ “ยูนิลีเวอร์” ภายในปี 2020 ครอบคลุมทั้งสื่อดั้งเดิม เช่น สื่อทีวี, วิทยุ และแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น Social Media, กิจกรรมบนสื่อดิจิทัล, แอปพลิเคชัน, เกมออนไลน์ รวมไปถึงการสื่อสารในรูปแบบ Product Placement และยกเลิกการใช้ Influener หรือ Celebrity ที่จะมาดึงความสนใจเด็ก
พร้อมทั้งจำกัดการใช้คาแรคเตอร์ “ตัวการ์ตูนลิขสิทธิ์” และคาแรคเตอร์การ์ตูนของแบรนด์ ที่ใช้สำหรับสื่อสารผ่าน In-store Media และตู้แช่ในช่องทางร้านค้าปลีก เช่น ร้านสะดวกซื้อที่ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ไอศกรีมของยูนิลีเวอร์ ได้วางจำหน่ายในตู้แช่ของร้านสะดวกซื้อทั่วโลก
นอกจากเตรียมยุติการสื่อสารการตลาดกับกลุ่มเด็กแล้ว “ไอศกรีม Wall’s” ยังได้ผลิตสินค้าแนวคิด “ผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ” โดยเป็นสินค้าที่มีปริมาณแคลอรี่ไม่เกิน 110 แคลอรี่ และปริมาณน้ำตาลไม่เกิน 12 กรัมต่ออัตราส่วนสินค้านั้นๆ
องค์กรยุคใหม่ จะอยู่ได้ต้อง “Purpose-driven”
นโยบายควบคุมการสื่อสารการตลาดกับกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีของกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของยูนิลีเวอร์ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้น “Purpose-driven” นั่นคือ เป้าประสงค์ของการขับเคลื่อนองค์กรธุรกิจ ต้องตอบโจทย์ 3 แกนหลัก คือ People, Planet, Profit หรือที่เรียกว่าหลัก 3Ps ซึ่งจะทำให้องค์กรนั้นๆ ดำรงอยู่คู่กับสังคมได้อย่างยั่งยืน
“คำมั่นสัญญาของพวกเราจะผลิตสินค้า และทำการตลาดอย่างมีความรับผิดชอบต่อเด็ก” Matt Close, รองประธานบริหารกลุ่มธุรกิจไอศกรีมของยูนิลีเวอร์ ระดับโลก กล่าวทิ้งท้ายถึง Purpose ขององค์กร
Source : Reuters , BBC , CNBC , WHO