Unilever จะไม่ทน! ขู่ถอดโฆษณาออกจาก Facebook และ Google หากยังไม่คลีนคอนเทนต์ตัวเองให้สะอาด

  • 712
  •  
  •  
  •  
  •  

Unilever แบรนด์ยักษ์ใหญ่ผู้ใช้เม็ดเงินโฆษณามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ขู่จะถอดโฆษณาออกจากแพล็ทฟอร์มดิจิทัล ทั้ง Google และ Facebook หากยังทำตัวเป็นแหล่งรวมข่าวปลอม หรือมีคอนเทนต์เหยียดเพศ เหยียดเผ่าพันธุ์ หรือมีเนื้อหาของคตินิยมที่สุดโต่ง และสร้างความแตกแยก

Keith Weed ตำแหน่ง Unilever’s chief marketing officer กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยัง นักโฆษณา มีเดีย และบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ บนเวทีการประชุมประจำปีของ Interactive Advertising Bureau

Unilever logo1

“ในฐานะที่เราเป็นหนึ่งในนักโฆษณาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก เราไม่สามารถอยู่ได้บนสภาพแวดล้อมที่ผู้บริโภคของเรา ไม่เชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็นบนโลกออนไลน์ได้อีกต่อไป”

“เราไม่สามารถให้การสนับสนุน ดิจิทัล ซัพพลาย เชน ที่มากกว่าครึ่งเต็มไปด้วยโฆษณาไปยังผู้บริโภคของเรา ซึ่ง ณ เวลานี้มันใสกว่าหนองบึงแค่เพียงนิดเดียวเท่านั้น”

Unilever บริษัทซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ในมือมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Dove, Lipton, Ben & Jerry, Knorr, Sunsilk, AXE ฯลฯ และยังเป็นผู้ที่ใช้เม็ดเงินในการโฆษณาสูงมหาศาลอีกด้วย คาดว่ามีงบฯ ในการตลาดต่อปีอย่างหยาบๆ ก็อยู่ที่ประมาณ 9,800 ล้านดอลล่าร์ โดยที่ 25% เป็นงบฯ โฆษณาบนดิจิทัล

Weed ยังกล่าวด้วยว่า การเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วของคอนเทนต์ที่ไม่พึงปรารถนาบนโซเชียลมีเดีย และที่สำคัญยังขาดการปกป้องดูแลเด็กๆ มิหนำซ้ำยังมีเนื้อหาที่ขาดความน่าเชื่อต่อสังคม เป็นอันตรายต่อยูเซอร์แล้วยังบ่อนทำลายประชาธิปไตยอีกด้วย ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องที่เราจะเพิกเฉยได้โดยง่าย

ดังนั้น บทสรุปสิ่งที่ Weed พูดจึงออกมาเป็นว่า ต่อไปนี้ Unilever จะไม่ลงโฆษณาบนแพล็ทฟอร์มที่สร้างความแตกแยกในสังคม หรืออ่อนด้อยต่อการปกป้องสิทธิเด็กอีกต่อไป

เป็นที่ทราบดีว่า ทั้ง Facebook และ Google ต่างก็เป็นตลาดโฆษณาออนไลน์ขนาดใหญ่มาหลายปี ซึ่งคาดกันว่าทั้ง 2 รวบหัวรวบหางกินดิจิทัลแอดกว่า 60% ของเม็ดเงินการใช้จ่ายในปี 2017

ซึ่งถ้าสถานการณ์เป็นรูปแบบนี้บรรดานักโฆษณาทั้งหลายไม่น่าจะแฮปปี้กันนัก โดยที่ Google น่าจะถูกเพ่งเล็งไปที่เนื้อหาต่างๆ บน Youtube ในขณะที่ Facebok น่าจะเป็นปัญหาเรื่อง fake news, ฟองสบู่ตัวกรอง, การก้าวก่ายการเลือกตั้งต่างประเทศ และการเสพย์ติดโซเชียลมีเดียเกินไป

“ปี 2018 จะเป็นปีแห่ง Techlash คือที่ๆ โลกหันไปสู่ความเป็นยักษ์ใหญ่แห่งเทคโนโลยี หรือเราจะเป็นปีแห่ง Trust (ความน่าเชื่อถือ) ในปีนี้เราจะรวบรวมรีบิวด์ความน่าเชื่อถือกลับคืนสู่ระบบและสังคมของเราอีกครั้ง”

หลังจบสปีชนี้ ยังไม่มีฟีดแบ็คใดๆ จากทั้ง Google และ Facebook.

หมายเหตุ
filter bubble หมายถึง ปรากฎการณ์ที่ซอฟต์แวร์ของโซเชียลมีเดียบางค่ายพยายามเดาว่าผู้ใช้อยากเห็นอะไร คอยป้อนแต่เนื้อหาที่สอดคล้องกับพฤติกรรมในอดีตของผู้ใช้ เช่น เคยคลิกไลค์อะไร เคยอ่านอะไร จนสุดท้ายผู้ใช้จะไม่เห็นเนื้อหาใดๆ ที่เห็นต่างจากตัวเอง

แหล่งที่มา money.cnn.com, financial times


  • 712
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!